JJNY : ยุบพรรคไม่สำคัญเท่าการต่อสู้│ชาวบ้านไม่เชื่อจะได้ใช้เงินหมื่น│เฟดกังวลเงินเฟ้อยังไม่ลดลง│“คิม จอง-อึน” ชี้ถึงเวลา

Endgame! ยุบพรรคไม่สำคัญเท่าการต่อสู้ เจ็บปวดไม่มี “พิธา-ชัยธวัช” แต่ต้องไปต่อ ไม่ยอมแพ้
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4520748
  
 
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ ภคมน หนุนอนันต์ สส.พรรคก้าวไกล ย้ำต้องไปต่อ แม้จะต้องถูกยุบพรรค ขอให้ทำแบบที่เคยทำ แต่ยอมรับว่าเสียความมั่นใจ เพราะต้องสูญเสียหัวขบวน แต่ยังไงก็ต้องสู้ต่อ ยืนยันในหลักการ ไม่ใช่ตัวบุคคล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชัยธวัช ตุลาธน หายไป แต่ก้าวไกลจะไม่สูญสิ้น เพราะพรรคก้าวไกลคือสถาบันทางการเมือง คงไม่มีเวลาเสียใจ หรือท้อแท้นาน  ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ชาวบ้านไม่เชื่อจะได้ใช้เงินหมื่นของรัฐบาลนายกฯเศรษฐา
https://www.amarintv.com/news/detail/213722
 
ชาวบ้านหลายรายไม่เชื่อว่าจะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ถึงแม้ว่านายกฯ เศรษฐา จะออกมายืนยัน เพราะที่ผ่านมาเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่เชื่อมั่น
 
จากการสอบถามความเห็นของประชาชน กรณีนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยหลายรายเชื่อว่ามาถึงเวลานี้แม้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะแถลงความชัดเจนแต่ไม่เชื่อว่าจะได้แจกจริง
 
นางมาลี รองรัก คุณป้าขายต้มจืด และบะหมี่ บอกว่าส่วนตัวยังไงก็ไม่เชื่อว่าจะได้แจก แม้นายกจะเป็นคนแถลงเองก็ตามก็ไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาก็มีการเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่เชื่อมั่น อยากให้รัฐบาลแก้เรื่องเศรษฐกิจเรื่องสินค้าราคาแพงมากกว่า วัตถุดิบแพงขึ้นมาก ทุกอย่างกระเทียม เมื่อก่อนกิโลกรัมละ 80 บาท ตอนนี้ปรับราคาเป็นกิโลกรัมละ 85 บาท ส่วนน้ำตาลทรายตอนนี้ปรับราคาขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 32 บาท จาก เดิม กิโลกรัมละ 28 บาท แต่ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็น กิโลกรัมละ 30 บาทเป็น 32 บาท มาได้ประมาณ 1 เดือน แล้วส่วนการค้าขายตอนนี้แม้จะขายได้แต่ได้น้อยขายยากกว่าเดิมมาก จากเดิมเคยขายบะหมี่วันละ 50 กล่องกล่องละ 3 บาท ขายไม่นานก็หมดตอนนี้เหลือวันละ 30 กล่อง ก็ขายแทบจะไม่หมด ถ้าเหลือก็เอาไปลดราคาเหลือกล่องละ 20 บาทก่อนกลับบ้าน
 
เช่นเดียวกับแม่ค้าขายผัก บอกว่าเชื่อว่าไม่ได้ เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ไม่หวังว่าจะได้ด้วยเพราะเชื่อว่าคงไม่ได้ ที่ผ่านมาประชุมหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้ ตอนนี้ติดตามข่าวตลอดว่าเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนกรณีคนที่มีเงินฝาก 500,000 บาท จะไม่ได้รับ เมื่อก่อนตอนหาเสียงรัฐบาลบอกว่าจะให้ทุกคน แต่มาเปลี่ยนแปลง ก็ควรจะให้ตามที่เคยรับปากไว้ตอนหาเสียง เพราะคะแนนส่วนหนึ่งมาจากนโยบายแจกเงินดิจิทัล ดังนั้นคนที่เลือกก็หวังว่าจะได้รับทั้งหมด แต่พอมาเปลี่ยนประชาชนก็ถอดใจไม่มั่นใจแล้วว่าจะได้
 
ขณะที่แม่ค้าขายห่อหมก บอกว่าติดตามเรื่องการแจกเงินดิจิทัลมาโดยตลอด รู้สึกดีใจที่มีความชัดเจน หากได้มาก็จะเอาเงินมาหมุนเวียนค้าขายเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีค้าขายยาก รายได้หายไปกว่าครึ่ง สินค้าวัตถุดิบก็แพงหมด รวมทั้งผักก็แพง เพราะเป็นหน้าแล้งขายได้กำไรน้อยพอแค่ให้อยู่ได้ หากได้มาก็เอามาใช้หมุนในการค้าขาย รู้สึกมั่นใจขึ้นมากประชาชนก็มีความหวังเพราะหากได้ช่วงที่นายกฯแถลงก็เป็นช่วงเปิดเทอมพอดีจะได้เอามาใช้จ่ายและเห็นด้วยที่คนมีเงินฝากเกิน 500,000 บาท จะไม่ได้เพื่อจะได้เอามากระจายให้คนที่มีรายได้น้อยและไม่มีเงินฝาก



เฟดกังวลเงินเฟ้อยังไม่ลดลงสู่เป้า 2% อาจต้องตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด
https://ch3plus.com/news/economy/morning/395318

รายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ระบุว่า กรรมการเฟดกล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ไม่ได้ทำให้เฟดมีความมั่นใจมากขึ้นว่า เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน และพบว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ระบุถึงความไม่แน่นอนที่ว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงอีกนานเท่าใด พร้อมระบุว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากมีภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นในฝั่งอุปทานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

กรรมการเฟดบางรายระบุว่า ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจจะส่งผลให้ภาวะคอขวดด้านอุปทานทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หรืออาจจะส่งผลให้ต้นทุนด้านการขนส่งสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ พร้อมกับกล่าวว่า สถานการณ์เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 19-20 มี.ค. คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 23 ปี โดยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วรวม 5.25%

ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนธ.ค. 2566
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่