== The Way Home (2002) หลาน..ยาย (คุณยายผม..ดีที่สุดในโลก) ==



หลังจากที่ประสบปัญหาเรื่องงานในเมืองใหญ่ แม่ของซังวูตัดสินใจพาลูกชายวัย 7 ขวบ กลับไปให้ยายในชนบทเลี้ยงดูชั่วคราว 
โดยหวังว่าถ้าตัวเองหางานใหม่และเริ่มอยู่ตัวได้เมื่อไหร่จะกลับมารับลูกกลับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง...



แน่นอนว่าซังวูไม่พอใจสักนิดกับชีวิตในที่ที่ห่างไกลความเจริญเช่นนี้ 
และยิ่งอยู่กับยายแก่ๆที่เป็นใบ้ (แต่หูไม่หนวก) ยิ่งทำให้เขาไม่สบอารมณ์.. 
บ้านที่ไม่มีไฟฟ้าไม่มีน้ำประปา จะทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง.. 
เด็กชายโกรธแม่ที่ปล่อยทิ้งเขาไว้กับยาย และเริ่มออกฤทธิ์กับหญิงชรา


คุณยายของซังวูพยายามที่จะเลี้ยงดูหลานชายอย่างดี แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างด้วยฐานะที่ยากจน 
ประกอบกับการที่ตัวเธอเป็นใบ้ ทำให้การสื่อสารกับเด็กชายเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่ง แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ 
ตรงกันข้ามกับซังวูที่เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปซะทุกอย่าง หาว่ายายเป็นคนปัญญาอ่อน 
คอยกลั่นแกล้งคุณยาย รวมทั้งแอบของคุณยายเอาไปซ่อน ทำลายข้าวของ เขียนภาพบนผนังบ้าน.. 
แต่แน่นอนว่าคุณยายไม่เคยโกรธเคืองหลานชายคนนี้เลย



The Way Home (집으로...) ผลงานการเขียนบทและกำกับของ Lee Jeong-hyang 
ภาพยนตร์เกาหลีว่าด้วยความสัมพันธ์ของคนต่างวัยระหว่างหลานชายวัย 7 ขวบและคุณยายวัย 78 
ความต่างเรื่องของวัยไม่พอ ยังแตกต่างเรื่องของความเป็นอยู่ อีกฝ่ายมาจากในเมืองใหญ่อย่างโซลสถานที่ที่มีความเจริญทุกอย่าง 
ขณะที่คุณยายอยู่ในชนบท ซึ่งไม่เข้าใจถึงชีวิตคนเมืองเช่นกัน



ย้อนมาดูสังคมไทยบ้านเรา ในต่างจังหวัดเป็นสังคมที่ความสัมพันธ์ของคนเป็นหลานมักจะผูกพันกับปู่ย่าตายายมากกว่าพ่อแม่.. 
นั่นเพราะว่า พ่อแม่เวลาพอมีลูกเมื่อไหร่ก็มักจะเอาลูกกลับไปให้คนแก่ที่บ้านเลี้ยงดูเสมอๆ 
ส่วนตัวเองก็มาทำงานในเมืองและคอยส่งเงินกลับมาให้เป็นครั้งคราว มักจะเป็นแบบนี้ทั้งนั้น 
นั่นทำให้ความผูกพันระหว่างตัวเด็กกับปู่ย่าตายายในบ้านเรามีมาก...(ความสัมพันธ์แบบข้าม Gen ไป 1 รุ่น) หนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน



เพียงแต่ซังวูในเรื่องนี้ โดนหลอกให้มา อารมณ์คือพามาทิ้งล่ะครับ 
ดังนั้นเด็กในเมืองคนนึงอยู่ดีดีต้องมาจมอยู่ในที่ที่เหมือนเมืองประหลาด 
สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรก็ไม่มีสักอย่างใครจะไปทนไหว มิหน้ำซ้ำเขายังต้องอยู่กับหญิงแก่ที่ไม่เคยรู้จักอะไรมาก่อน
แม้ว่าเธอผู้นั้นจะเป็นยายของตนก็ตาม...



คุณยายเป็นผู้หญิงใจดีมากครับ แต่ไม่รู้ว่าลูกสาวตัวเองทำไมถึงเป็นคนแบบนั้นไปซะได้
อารมณ์คงเหมือนกับคนที่ไม่ยากจะอยู่ในที่ไกลปืนเที่ยงแบบนี้ และพยายามถีบตัวหวังจะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้
แต่สุดท้ายเมื่อถึงคราวลำบากเข้าตาจน ก็หวนกลับมานึกถึงแม่ตัวเอง มีปัญหาก็ให้แม่ช่วยเหลือ นั่นคือการให้ช่วยเลี้ยงหลานให้ที...



หนังช่วยให้เราเห็นถึงช่องว่างต่างๆที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เป็นไปอย่างยากลำบาก 
ก่อนที่จะมีจุดเปลี่ยนสำคัญและนั่นทำให้ซังวูได้รับรู้ถึงความรักที่หญิงชรามีให้กับตน 
ความรักที่บริสุทธิ์ในแบบที่ตัวซังวูไม่เคยจากผู้เป็นแม่ของตัวเอง 
(แม่ซังวูคิดแต่การซื้อของเล่นให้กับลูกชาย แต่ละเลยในเรื่องการแสดงความรู้สึก)



นี่คือภาพยนตร์เรียกน้ำตาระดับตำนานของหลายๆท่าน ชนิดที่ผมดูแค่รอบเดียวแล้วบอกกับตัวเองเลยว่า พอ .. 
ตรูจะไม่ดูหนังเรื่องนี้อีกแล้ว ไม่ใช่เพราะว่ามันไม่ดีไม่ได้เรื่องแต่อย่างใด ในทางกลับกัน มันสะเทือนใจยิ่งนัก.. 
หนังเกาหลียุคต้น 2000 ทำหนังดราม่าแต่ละเรื่องนี่น้ำตาไหลเป็นวรรคเป็นเวรดีแท้... ยิ่งกับเรื่องนี้แล้วล่ะก็มันยิ่งอินหนัก ดูไปร้องไห้ไป 
คุณยายต้องลำบากลำบนขนาดไหนเพื่อที่จะมาดูแลหลานชายคนนี้ 
ขณะเดียวกันไอ้เด็กเวรนี่ก็น่าถีบเหลือเกิน.. เล่นได้เปรตอย่างยิ่ง (ผมเชื่อว่าหลายคนคิดแบบผม)



ขนาดแค่เขียนอยู่นี่ยังน้ำตาจะไหล คิดถึงยาย.. ยายผมเสียไปตอนผมอายุได้ 10 ขวบ 
ถึงแม้จะนานแต่ความทรงจำทุกอย่างยังแจ่มชัด เวลายายนอนผมชอบเอานิ้วไปจิ้มใส่อุ้งมือของยาย 
แล้วยายก็จะรู้สึกตัวทันที จับนิ้วผมแน่นไม่ปล่อย... 
ยายชอบสูบยานัตถ์ ชอบเคี้ยวหมาก ปากจะสีแดงเหมือนเลือดเสมอ แกก็จะชอบอ้าปากร้องแฮร่ๆ แหย่ให้เรากลัว.. 
ทุกวันนี้แม้ว่าคุณยายจะจากผมไปนานแล้ว แต่ตัวตนของยายก็ปรากฎชัดเจนในตัวของคุณแม่ผมในปัจจุบัน 
แม่ผมแก่แล้วในเวลานี้ถึงจะไม่ได้เคี้ยวหมากและสูบยานัตถ์ แต่ก็มีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกับคุณยาย.. 
นั่นทำให้ผมเข้าใจในประโยคนึงที่เคยได้ยินว่า 
ถึงแม้ว่าเราจะจากไปแต่ตัวตนของเราไม่ได้จากไปไหน ส่วนนึงของเรายังจะคงอยู่ในตัวตนของอีกคนตลอดไป...



จากยายสู่แม่.. และในอนาคตความเป็นตัวตนของแม่ส่วนนึงก็จะมาที่ผม  
แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดแต่จริงๆแล้วพวกเราไม่เคยจากกันไปไหนเลย ในหัวใจ... ในความทรงจำเรายังอยู่ด้วยกันเสมอ 

ปิดท้ายด้วยคลิปของ Yoo Seung-ho นักแสดงในบทของซังวู หลังเวลาผ่านไปอีก 6 ปี เขาโตขึ้นเป็นวัยรุ่น 
และได้กลับมาพบกับ Kim Eul Boon นักแสดงที่รับบทคุณยายอีกครั้ง เป็นภาพที่ประทับใจมาก 
แม้ว่าปัจจุบันคุณยายจะจากพวกเราไปแล้วก็ตาม.......

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

สงกรานต์นี้หากใครมีโอกาส กลับบ้านนะครับ กลับไปหาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย 
ท่านรอเราอยู่ที่บ้าน รอเรากลับไปหา ย้อนเวลาไปเป็นเด็กเล็กๆอีกครั้งในสายตาพวกท่าน... 
ช่วงเวลาแห่งความสุขเหล่านี้อยู่กับเราไม่นานหรอกครับ รักษาช่วงเวลาเหล่านั้นไว้ 
และทำทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกันให้มีค่าที่สุดนะครับ

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่