สิ่งที่รัฐบาลต้องโฟกัสเกี่ยวกับ Soft Power

สิ่งที่เป็นหัวใจ ของ soft power คือ การ control ความคิดของกลุ่มเป้าหมาย 
นี่คือ จุดที่ Soft Power ต่างจาก 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ 
เราต้องปั้นศิลปิน นางงาม เพลง ละคร ให้ไปคุมความรู้สึกของชาวต่างชาติให้ได้ก่อน
แล้วการขายสินค้าจึงจะเป็นไปได้ 

แทนที่จะดันงานระดับท้องถิ่น แนวเดียวกับ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์
ควรจะเข็นบริษัทบันเทิงไทยให้เป็นบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติให้ได้ก่อน 
ยกตัวอย่าง คุณภาพกับความดัง ต่างกัน ถามว่า ทนายแต่ละท่านที่ออกสื่อทุกวันนี้ คือ ทนายที่ดีที่สุดหรือเปล่า
ไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ๆ ความดังของพวกเขาทำให้ลูกค้าคิดถึงชื่อทนายเหล่านี้ เมื่อมีปัญหาทาง กม. 

กระเป๋าใบหนึ่ง อาจจะไม่ได้สวยที่สุด เพียงแต่ลิซ่าถือ หรือ นางงามขวัญใจมหาชนถือ  
คนอื่นถือตาม เพราะเขาผูกคุณค่าตัวเองไว้กับบุคคลที่ถือกระเป๋าใบนั้น
ยิ่งละคร บทละครส่งให้ตัวละครเป็นที่ชื่นชอบ 
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมญาญ่า เบลล่า จึงได้เป็นพรีเซนเตอร์มากมาย 
ศิลปินเพลง  แฟนๆ หลงไหล  เงินรายได้จากพรีเซนเตอร์ข้ามชาติ ก็หักภาษีเข้าไทยได้ไม่น้อย
Soft Power จึงเป็นเรื่องของคน คอนเทน ศิลปะ และอำนาจบารมีในสังคมนานาชาติ

เมื่อมีอิทธิพลต่อความคิดของเขา เราไม่ต้องขอให้ใครซื้อของ เขาจะมาซื้อเอง เพราะความชื่นชอบ
รัฐบาลควรแยบยลว่า เดินหมากตัวไหนก่อน แล้วหมากตัวไหนคือตัวตาม
ประกวดนางงาม ละครดังๆ นายกฯ ควรจะต้องรู้จัก เข้าใจปัญหา และพูดถึง
ทำตัวเป็นบุคคลใกล้ตัวที่บริษัทบันเทิงพึ่งพาได้ 

ถ้าเอาเรือเล็กไปลากเรือใหญ่ เหนื่อย แต่ถ้าเอาเรือใหญ่ ลากเรือเล็ก จะไม่เหนื่อยมาก
เวทีนางงาม / ภาพยนตร์ / ละคร คือ พื้นที่ที่สื่อนานาชาติเข้าถึง แค่กระเป๋าวิสาหกิจชุมชน 1 ใบไปอยู่ตรงนั้น 
มันคือเทคนิกการขาย ที่พลิ้วไหว ลูกค้าต่างชาติไม่รู้เลยว่ากำลังถูกขายในขณะที่ชมคอนเทน
พลังจากตลาดนานาชาติคือสิ่งที่การพัฒนาธุรกิจยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ
1. ตลาดมีขนาดใหญ่กว่า 60 ล้านคน 2. ขายได้ราคาสูงกว่าฐานสกุลเงินบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่