นับเป็นละครเรื่องที่สามกับวิกคลองเตย
สำหรับดาราสาวจากเวทีประชันขาอ่อน อย่าง "อแมนด้า ออบดัม"
เธอเป็นลูกครึ่งไทย-แคนาดาที่สู้ชีวิตอีกคนหนึ่ง
เพราะผ่านงานในวงการมาหลายรูปแบบ งานเล็กงานน้อย ขอให้ได้ผ่านจอ
แม้แต่ในแวดวงน่องอ่อน ก็ได้ชื่อว่าเป็น "นางงามร้อยเวที เทพีเดินสาย"
แต่กว่าจะประสบความสำเร็จ อายุก็ล่วงเลยจนถึง 26-27 ปีแล้ว
กระทั่งปัจจุบันที่ย่างเข้า 31 ปี ซึ่งสำหรับวงการบันเทิง และดาราหญิง ต้องบอกว่า "หมดอายุการใช้งานแล้ว"
แต่ด้วยแบ็คอัพที่ดีระดับ "นักปั้นกะเทยถุงปุ๋ย" ก็ทำให้ชื่อของนางงามเวทีใหญ่รายนี้ กลับมาเฉิดฉายในวงการค้าเงาได้อีกครั้ง
จากนางร้ายป้ายแดงใน "มาตาลดา"
สู่นางเอกละครภาคเย็น แนวชนบทบ้านทุ่งใน "เว้าวอนรัก"
และที่กำลังวาดลวดลายอยู่ก็คือ "ลมเล่นไฟ" ที่แม้จะเป็นบทร้าย
แต่ก็โดดเด่นแบบตีคู่มากับธิดาเจ้าเมืองน่าน
หลังจากนางเอกหน้าเรียวหายจากจอไปนานถึง 8 ปี
แต่ "เชอรี่-เข็มอัปสร" ก็ไม่ทำให้แฟนละครผิดหวัง แม้ตัวบทจะงี่เง่าเอาแต่ใจ จนรู้สึกไม่อยากเอาใจช่วยก็ตาม
ต้องยอมรับว่านางงามส่วนใหญ่ ที่ก้าวลงจากเวทีการประกวด เข้าสู่วงการนักแสดง มักไม่ยิ่งใหญ่ระดับซุปเปอร์สตาร์ เพราะตัวสูงใหญ่ หน้าดุ ไม่ขึ้นกล้อง หาบทลงยาก และหาพระเอกประกบยากด้วย หลายคนจึงเล่นเป็นนางเอกได้ไม่กี่เรื่องแล้วหายไป บางคนก็กลายเป็นนางร้ายดาด ๆ หรือตัวประกอบที่โลกลืม
แม้ตอนนี้อแมนด้าจะขึ้นทำเนียบ "ดาราหน้าช้ำ"
เพราะละครของเธอลงจอในล็อตเดียวกัน ทั้ง 2 เรื่อง
แถมบทบาทก็ยังแตกต่างกันมาก จนภาพของนักแสดงเหมือนจะตีกันเอง
ซึ่งน่าจะเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะนี่ไม่ใช่การผลักดัน
แต่เป็นการดันทุรัง การปลุกปั้นดาราแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ยัดเยียดผลงานให้รกจอมากเกินไป น่าจะเป็นผลดีกับตัวดารามากกว่า
ซึ่งการแสดงของอแมนด้าใน "ลมเล่นไฟ" ก็ยังรู้สึกขัดตาอยู่มาก
เพราะท่าทางการพูดค่อนข้างทื่อ ๆ แววตาแข็งกร้าว ดูเหมือนคนท่องบท
บางคำก็ยังออกเสียงภาษาไทยไม่ค่อยชัดถนัดหู ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่
คลับคล้ายยังกังวลกับภาษาไทยอยู่มาก
ถ้าปรับได้ก็น่าจะทำให้เธอมีเสน่ห์ทางการแสดงมากขึ้น เพราะดาราที่โด่งดังและอยู่ยาว ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่ต้องมีเสน่ห์ในทุกบทบาทที่ได้รับด้วยเช่นกัน
จริง ๆ เธอก็ผ่านงานละครมาหลายเรื่องนะคะ
ถ้านับบทตัวประกอบที่เคยแสดงในวิกขนส่งด้วย
น่าจะช่วยลับฝีมือให้มีเหลี่ยมคมได้มากกว่านี้นะคะ
แต่ต่อให้เป็นเรื่องแรก ก็ต้องพร้อมมากแล้วแหละค่ะ
วงการบันเทิงมีอายุงานของมันนะคะ ซึ่งไม่ยาวนาน
นอกจากโอกาสที่ได้รับมาแล้ว ก็ต้องแสดงศักยภาพของตัวเองให้ปรากฏด้วย เพราะความสวยไม่เคยจีรัง
เธอโชคดีมากเลยนะคะ ที่ได้โอกาสจากผู้ใหญ่หลายคน
เพราะยุคนี้หลายช่องเปิดละครน้อยมากค่ะ
นักแสดงเองก็กลายเป็น "นักวิจัยธุลี" กันมาก
แม้แต่ผู้จัดละครดัง ๆ บางคน ก็ยังถูกสถานีคืนคิว งดการป้อนงาน
อยากให้เธอพัฒนาฝีมือตัวเองให้มากกว่านี้นะคะ ให้สมกับที่ได้รับโอกาสทองจากสถานีท่าเรือ เพราะรูปร่างก็ดี หน้าตาก็สวยคมขึ้นจอ
เหลือแค่การแสดงนี่แหละค่ะ ที่ยังไม่เข้าฝักเท่าที่ควร
ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรับปรุงได้นะคะ
เป็นกำลังใจให้อแมนด้าค่ะ
จาก
"ผุยวิพากษ์มายา"
ขัดตาการแสดงของนางร้ายใน "ลมเล่นไฟ"
สำหรับดาราสาวจากเวทีประชันขาอ่อน อย่าง "อแมนด้า ออบดัม"
เธอเป็นลูกครึ่งไทย-แคนาดาที่สู้ชีวิตอีกคนหนึ่ง
เพราะผ่านงานในวงการมาหลายรูปแบบ งานเล็กงานน้อย ขอให้ได้ผ่านจอ
แม้แต่ในแวดวงน่องอ่อน ก็ได้ชื่อว่าเป็น "นางงามร้อยเวที เทพีเดินสาย"
แต่กว่าจะประสบความสำเร็จ อายุก็ล่วงเลยจนถึง 26-27 ปีแล้ว
กระทั่งปัจจุบันที่ย่างเข้า 31 ปี ซึ่งสำหรับวงการบันเทิง และดาราหญิง ต้องบอกว่า "หมดอายุการใช้งานแล้ว"
แต่ด้วยแบ็คอัพที่ดีระดับ "นักปั้นกะเทยถุงปุ๋ย" ก็ทำให้ชื่อของนางงามเวทีใหญ่รายนี้ กลับมาเฉิดฉายในวงการค้าเงาได้อีกครั้ง
จากนางร้ายป้ายแดงใน "มาตาลดา"
สู่นางเอกละครภาคเย็น แนวชนบทบ้านทุ่งใน "เว้าวอนรัก"
และที่กำลังวาดลวดลายอยู่ก็คือ "ลมเล่นไฟ" ที่แม้จะเป็นบทร้าย
แต่ก็โดดเด่นแบบตีคู่มากับธิดาเจ้าเมืองน่าน
หลังจากนางเอกหน้าเรียวหายจากจอไปนานถึง 8 ปี
แต่ "เชอรี่-เข็มอัปสร" ก็ไม่ทำให้แฟนละครผิดหวัง แม้ตัวบทจะงี่เง่าเอาแต่ใจ จนรู้สึกไม่อยากเอาใจช่วยก็ตาม
ต้องยอมรับว่านางงามส่วนใหญ่ ที่ก้าวลงจากเวทีการประกวด เข้าสู่วงการนักแสดง มักไม่ยิ่งใหญ่ระดับซุปเปอร์สตาร์ เพราะตัวสูงใหญ่ หน้าดุ ไม่ขึ้นกล้อง หาบทลงยาก และหาพระเอกประกบยากด้วย หลายคนจึงเล่นเป็นนางเอกได้ไม่กี่เรื่องแล้วหายไป บางคนก็กลายเป็นนางร้ายดาด ๆ หรือตัวประกอบที่โลกลืม
แม้ตอนนี้อแมนด้าจะขึ้นทำเนียบ "ดาราหน้าช้ำ"
เพราะละครของเธอลงจอในล็อตเดียวกัน ทั้ง 2 เรื่อง
แถมบทบาทก็ยังแตกต่างกันมาก จนภาพของนักแสดงเหมือนจะตีกันเอง
ซึ่งน่าจะเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะนี่ไม่ใช่การผลักดัน
แต่เป็นการดันทุรัง การปลุกปั้นดาราแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ยัดเยียดผลงานให้รกจอมากเกินไป น่าจะเป็นผลดีกับตัวดารามากกว่า
ซึ่งการแสดงของอแมนด้าใน "ลมเล่นไฟ" ก็ยังรู้สึกขัดตาอยู่มาก
เพราะท่าทางการพูดค่อนข้างทื่อ ๆ แววตาแข็งกร้าว ดูเหมือนคนท่องบท
บางคำก็ยังออกเสียงภาษาไทยไม่ค่อยชัดถนัดหู ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่
คลับคล้ายยังกังวลกับภาษาไทยอยู่มาก
ถ้าปรับได้ก็น่าจะทำให้เธอมีเสน่ห์ทางการแสดงมากขึ้น เพราะดาราที่โด่งดังและอยู่ยาว ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่ต้องมีเสน่ห์ในทุกบทบาทที่ได้รับด้วยเช่นกัน
จริง ๆ เธอก็ผ่านงานละครมาหลายเรื่องนะคะ
ถ้านับบทตัวประกอบที่เคยแสดงในวิกขนส่งด้วย
น่าจะช่วยลับฝีมือให้มีเหลี่ยมคมได้มากกว่านี้นะคะ
แต่ต่อให้เป็นเรื่องแรก ก็ต้องพร้อมมากแล้วแหละค่ะ
วงการบันเทิงมีอายุงานของมันนะคะ ซึ่งไม่ยาวนาน
นอกจากโอกาสที่ได้รับมาแล้ว ก็ต้องแสดงศักยภาพของตัวเองให้ปรากฏด้วย เพราะความสวยไม่เคยจีรัง
เธอโชคดีมากเลยนะคะ ที่ได้โอกาสจากผู้ใหญ่หลายคน
เพราะยุคนี้หลายช่องเปิดละครน้อยมากค่ะ
นักแสดงเองก็กลายเป็น "นักวิจัยธุลี" กันมาก
แม้แต่ผู้จัดละครดัง ๆ บางคน ก็ยังถูกสถานีคืนคิว งดการป้อนงาน
อยากให้เธอพัฒนาฝีมือตัวเองให้มากกว่านี้นะคะ ให้สมกับที่ได้รับโอกาสทองจากสถานีท่าเรือ เพราะรูปร่างก็ดี หน้าตาก็สวยคมขึ้นจอ
เหลือแค่การแสดงนี่แหละค่ะ ที่ยังไม่เข้าฝักเท่าที่ควร
ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรับปรุงได้นะคะ
เป็นกำลังใจให้อแมนด้าค่ะ
จาก
"ผุยวิพากษ์มายา"