สรรพสามิต สะกดแบบนี้หรือ สรรพสามิจ แบบนี้ครับ?

ทิ้งคำถามไว้สั้นๆ ก่อนครับว่า

- สรรพสามิตมีสิทธิ์ค้นบ้านค้นทรัพย์สินของเราไหมครับ



นี่แคปจากกช้องวงจรปิดร้านที่เขาค้นโต๊ะบัญชีและลิ้นชักเก็บเงินโดยที่ผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นและแม่ผมไม่กล้าปฏิเสธ

เรื่องมันเริ่มจากที่สรรพสามิตกลุ่มหนึ่งมาหน้าร้านเพื่อตรวจใบอนุญาตขายสุรายาสูบ

หลังใบจะเขียนว่าให้แปะโชว์ไว้ให้เจ้าหน้าที่เห็น ซึ่งผมเคยแปะผนังข้างโต๊ะบัญชีแล้วมันขาด (บ้านมีแมว) เลยถอดเก็บจนลืมที่เก็บ จนคุณพี่ๆ มาถามหา

ผมก็บอกจะหาให้ เขาก็ขึ้นมาก่อนเลยว่าทำไมไม่แปะ ผมปรับได้เลยนะ จะ 5000 ไล่ไปถึงหมื่นกว่า เพราะกฏหมายระบุไว้ให้แปะ

ผมก็เลยตอบกลับไปว่าผมหาให้อยู่เพราะลืมที่เก็บ แต่ข้อมูลเสียภาษีหรือต่ออายุขายสุรายาสูบของผมหรือทุกร้านมันมีอยู่ในฐานข้อมูลของสรรพสามิจอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ พี่ก็แค่เช็คจากตรงนั้น ไม่ต้องถามหาใบอนุญาตที่มันก็แค่กระดาษ ไม่ต้องเสียเวลามารอด้วยซ้ำ

เขาตอบกลับมาว่า “ก็กฏหมายเขาเขียนไว้แบบนี้” แล้วก็บอกให้ผมอ่านหลังใบอนุญาต

แน่นอนผมก็ตอบว่าผมเคยอ่านแล้ว เคยแปะแล้ว แต่พี่ตอบคำถามผมหน่อยว่าที่ต้องแปะเนี่ยเหตุผลของมันคืออะไรในเมื่อข้อมูลมันมีอยู่แล้ว หลักฐานต้นขั้วมีในฐานข้อมูลอยู่แล้ว แค่การแปะโชว์หน้าร้านมันสำคัญยังไงจนถึงต้องมีโทษปรับเป็นหมื่นถ้าไม่เอาแปะโชว์ฝาบ้าน

“ก็เผื่อว่าพวกพี่มารณรงค์ไม่ให้ซื้อหรือขายเหล้าเถื่อนอะไรแบบนี้ไง” คำตอบพี่เขาทำผมต้องเอียงคอคิดอยู่พักใหญ่…แล้วไงวะ

ผมเลยตอบกลับไปว่ามารณรงค์ก็คือแบบนี้แหละ พวกพี่มายืนหน้าร้าน แล้วก็มาคุยโน่นนี่ แบบนี้ใช่ไหม?

เขาก็ตอบว่าใช่ ผมก็เลยบอกกลับไปว่าก็ใช่ไง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับต้องแปะใบที่ฝาบ้าน พี่ก็คุย ก็รณรงค์ไปสิ หรือพี่ก็เช็คมาก่อนได้นี่ว่าร้านไหนเสียหรือไม่เสียภาษี แล้วก็มุ่งไปเลย ง่ายกว่านี้อีก ไม่ต้องถามหาใบ ไม่ต้องรอหา

อีกคนตอบมาแบบขึ้นเสียงว่า ”ไม่ได้ มันคนละหน่วยกัน”

ตอบมาแบบคนไม่สู้คนแบบผมยังหลุดแล้วสวนไปว่า “พวกพี่ไม่ใช่สรรพสามิตรึไงถึงบอกว่าคนละหน่วย”

คนเดิมก็ตอบมาอีกว่า “ก็พวกพี่ไม่ใช่พวกสำนักงาน พี่พวกนอกสถานที่ เลยไม่ได้มีการประสานกัน”

โอ้โหผมนี่ปวดตับเลย เลยสวนไปอีกแบบไม่รู้จะคุมอารมณ์ทำไมแล้วว่า…ก็แล้วทำไมพี่ไม่ประสานงานกันเล่า เป็นสรรพสามิตเหมือนกัน หน่วยงานเดียวกันจะแยกกันทำให้ชาวบ้านสับสนทำไม

ทางนั้นก็ยังสวนมาอีกว่า “ข้อมูลมันมีในฐานข้อมูลอยู่แล้ว แต่ทางนี้ก็ต้องมีให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย”

“เพื่ออะไรล่ะครับที่ต้องมีกระดาษอันนี้ทั้งที่พี่ก็เพิ่งบอกเองว่าในฐานข้อมูลมันมีอยู่แล้ว พี่ก็แค่ประสานเอาข้อมูลแค่นั้น” ผมก็ย้ินไปอีก คำถามเดิม คำถามเดียวที่ไม่ได้คำอธิบายสักทีตั้งแต่แรก

“ถ้ามีคนแบบน้อง 10 คนพวกพี่ไม่ปวดหัวแย่เหรอ ต้องคอยโทรไปถามข้อมูลที่สำนักงาน” อีกคนตอบเสียงแข็งมาแบบนี้ ซึ่งผมว่ามันเป็นคำตอบที่ทุเรศมาก

“ถ้ากลัวมือถือตังหมดก็เอาเครื่องผมโทร อ่ะผมให้ (ปากมันไวเพราะโมโห แต่จริงๆ อยากตอบว่าถ้าพี่คุยกันเองในองค์กรแต่แรกก่อนออกทำงานพี่จะมีข้อมูลทุกร้าน พี่ก็สามารถมุ่งไปร้านที่ไม่จ่ายหรือหมดอายุได้เลย ไม่ต้องมาเสียเวลาสุ่มร้าน มารอใบ ที่สำคัญไม่มีใครมาเถียงให้พี่ปวดหัวแบบนี้ด้วย)

ทางนั้นโมโหผมก็โมโห คำตอบ คำอธิบาย ไม่ได้อะไรสักอย่างยังมาทำแข็งใส่ ขู่จะปรับเงิน

สุดท้ายแม่ผมมาพอดีก็พยายามอ่อนพยายามยอมทางนั้นแล้วไล่ผมไปหาใบ ทำตามเขาบอก ส่วนแม่ต้อนสรรพสามิต 5 คนไว้หน้าบ้าน ผมก็เข้าไปหาใบในห้อง เป็นจังหวะที่เห็นในกล้องคือสรรพสามิตคนนึงมุ่งจะตรวจโต๊ะเงิน อีกคนส่องจากข้างนอก โดยที่แม่ก็ไม่กล้าปฏิเสธต้องยอมให้เขาตรวจ

สุดท้ายผมหาใบให้เขา แต่เป็นใบเดิมที่หมดอายุแล้ว เขาเลยต้องโทรถามสำนักงานอยู่ดีว่ามีข้อมูลผมไหม สรุปคือมี แล้วกำชับแม่ว่าอย่าให้ผมพูดจาไม่ดีกับพวกเขาแบบนี้อีก นี่เขาปราณีแล้วที่แค่เตือนไม่ปรับอะไร

ขมวดมาที่คำถามตอนต้นกระทู้ ผมไปหาในเวปสรรพสามิตเองว่ามีสิทธิ์ค้นไหม ก็ได้คำตอบว่าเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมีอำนาจเทียบเท่าตำรวจในการตรวจค้น แต่ตำรวจจะตรวจค้นได้ก็ต้องมีหมายค้นจากศาล หรือมีเหตุจำเป็นเหตุร้ายที่ทำให้ต้องค้น

ในที่นี้บ้านผมเข้ากรอบเกณฑ์ให้คนแบบไม่มีหมายค้นตรงไหนครับ เจ้าหน้าที่นั้นทำเกินอำนาจตัวเองรึเปล่า

ผู้รู้ตอบทีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่