JJNY : 5in1 “ณัฐชา”เย้ย“ภูมิธรรม”งอแง│‘ก้าวไกล’อัดรบ.│“หญิงหน่อย”ส่ง 3สส.อภิปราย│หมูหน้าฟาร์มขึ้น 4 บ.│เผยอิหร่านเตือน

“ณัฐชา” เย้ย “ภูมิธรรม” งอแง เป็นทารกการเมือง งง สมัย “ประยุทธ์” ไม่เคยใจบางแบบนี้
https://ch3plus.com/news/political/morning/393921

“ณัฐชา” เย้ย “ภูมิธรรม” งอแง เป็นทารกการเมือง งง สมัย “ประยุทธ์” ไม่เคยใจบางแบบนี้ ถามลืมแล้วเหรอ เคยจิกกัดเขาไว้ยังไง ทวงสัญญาหาเสียงอะไรไว้ เคยทำบ้างหรือไม่

(1 เม.ย.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เตือนให้พรรคก้าวไกล เลิกใช้วาทกรรม ปั๊มตราใคร ว่า คนบางคน แค่เจอประโยค รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน ก็ใจบางบอบแบบ บ่นเสียใจรุ่นน้องใช้วาทกรรมทำงาน ที่พูดแบบนี้ใจคอ จะไม่รอฟังอภิปรายกันก่อนหรือ งอแง ตีตนไปก่อนไข้ ประหนึ่งเป็น ทารกการเมือง เพิ่งเข้าวงการไม่กี่ปี บอบบางเสียจริง

สมัยก่อนเคยเป็นฝ่ายค้านด้วยกันมา 4 ปี จำได้ว่าไม่เห็นใจบางแบบนี้ การอภิปรายรัฐบาลประยุทธ์ ตามมาตรา 152 ก็ใช่ว่าไม่เคยมี ลืมแล้วหรือว่าจิกกัดตราหน้าเขาไว้อย่างไร ตระบัดสัตย์พลิกลิ้น หัวใจยังเป็นประชาชนอยู่ไหม

นายณัฐชา กล่าวว่า จนกระทั่งมาตะบัดสัตย์ข้ามขั้วไปเพราะอะไรย่อมรู้ดีแก่ใจ เหตุไฉนพี่ท่าน จึงพูดเสมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอกเยี่ยงนี้ ว่า แต่จะถามกันหน่อยไหม ทางนี้ผิดหวังกับรุ่นพี่แค่ไหน ที่พลิกลิ้น กลับกลอกเพียงเพื่อหวัง มีอำนาจ และประคองอำนาจสูงสุด ที่ไม่เคยคิดว่าเป็นของประชาชน หากจะคิด จะพูดอะไรถ้าไม่นึกถึงตอนเป็นฝ่ายค้านด้วยกันบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่เป็นรัฐบาลแล้วสัญญาหาเสียงอะไรไว้ ทำได้บ้างหรือเปล่า ที่สำคัญคือ ถึงตอนนี้สบตาประชาชนแล้ว หัวใจยังเป็นประชาชนจริงไหม ไปรอตอบพวกเราให้ได้ในสภาก็แล้วกัน


 
‘ก้าวไกล’ อัดรัฐบาลไม่ทำตามหาเสียง ‘ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ชวนติดตาม ชี้ นี่คือช่วงวัดใจปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4503584

‘ก้าวไกล’ อัดรัฐบาลไม่ทำตามหาเสียง ‘ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ชวนติดตาม ชี้ นี่คือช่วงวัดใจปชช.
 
เมื่อวันที่ 1 เมษายน พรรคก้าวไกลได้จัดแถลงข่าว Policy Watch ในหัวข้อ ก้าวแรกพลทหารต้องปลอดภัย ก้าวต่อไปต้องยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร โดย ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร
 
ร.ท.ธนเดชกล่าวว่า ในรอบเดือนที่ผ่านมามีข่าวร้ายเกี่ยวกับวงการทหารมากมาย เราได้ทราบข่าวการผูกคอตาย การกระโดดตึกของพลทหาร เนื่องจากอาการทางจิตหรือความวิตกกังวลก็ดี ทางคณะกรรมาธิการการทหารจึงเตรียมนำคณะจิตแพทย์เข้าพบกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อเป็นโรลโมเดลให้กับกระทรวงกลาโหมได้ดูกันเยี่ยงอย่างในการนำไปปรับปรุง
 
ในเมื่อตอนนี้เรายังไม่สามารถยกเลิกเกณฑ์ทหารได้ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดรือคุ้มครองกำลังพล ทั้งศักดิ์ศรีและความปลอดภัย รวมถึงเป็นพื้นที่ให้ครอบครัวและอุ่นใจว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นของพี่น้องประชาชนจะอยู่เคียงข้าง ทั้งในยามทุกข์และยามสุข
 
ร.ท.ธนเดชกล่าวว่า การยกเลิกเกณฑ์ทหารยังทำไม่สำเร็จในรัฐบาลปัจจุบัน พรรคก้าวไกลเคยส่งร่างไปให้คณะรัฐมนตรีแล้ว เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายการเงิน แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งไม่เป็นไร พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีกฉบับ ที่ไม่เป็นร่างทางการเงิน มองว่าจะเป็นการวัดใจรัฐบาลและเพื่อนสมาชิกในสภาทุกคน ว่าสิ่งที่เราเคยพูดกันไว้ในยามหาเสียงจะทำจริงหรือไม่
 
ในรายละเอียดดังกล่าว จะตัดสิทธิกองทัพในการเกณฑ์ทหารในห้วงเวลาที่ไม่ใช่สถานการณ์ในการรบ ทั้งนี้ การยกเลิกเกณฑ์ทหารมี 2 แบบคือ ลุ้นปีต่อปี กับยกเลิกถาวร ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยความต้องการของกำลังพลในประเทศไทย ประมาณปีละ 90,000 นาย ปัจจุบันมีการสมัครอยู่ประมาณ 30,000 นาย  แสดงว่าใน 1 ปี มีคนที่ต้องไปเสี่ยงจับใบดำใบแดง การมีอยู่ของการเกณท์ทหารในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าเป็นผลดี เพราะทุกคนที่เข้าไปเกณฑ์ทหารล้วนมีต้นทุนและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ได้ไปด้วยความสมัครใจ แต่จำเป็นต้องไป ทุกคนล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพ การเจริญเติบโตทั้งหน้าที่การงาน หรือแม้กระทั่งการดูแลบุพการีในห้วงสุดท้ายของชีวิต
 
ร.ท.ธนเดชกล่าวว่า ชุดความคิดของเราไม่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ โดยข้อเสนอของเราคือการที่กองทัพจะต้องทำเงื่อนไขลดดีมานด์ ลดกำลังพล ลดยอดผีที่ไม่เคยตรวจสอบได้อย่างชัดแจ้ง มั่นใจว่าทุกกรมกองเมื่อลีนตัวเลขกำลังพลแล้ว จะเหลือประมาณ 50,000-60,000 นาย
นอกจากลดดีมานด์แล้ว ยังต้องเพิ่มสวัสดิการให้กับพลทหารที่พร้อมสมัครใจเข้าไปเป็นกำลังพลในกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต ประกันรายได้ หรือแม้กระทั่งคุ้มครองความปลอดภัยพื้นฐาน มั่นใจว่าหากยกระดับคุณภาพชีวิตพลทหารได้ จะมีประชาชนไม่น้อยที่พร้อมจะสมัครใจเข้าไปเป็นทหาร
 
พรรคก้าวไกลเสนอยกเลิก พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร 2497 เพื่อตัดอำนาจกองทัพในการบังคับคนมาเป็นทหารโดยไม่จำเป็น วันนี้เป็นวันแรกที่มีการเกณฑ์ทหาร แต่นโยบายที่ใช้ในกระทรวงกลาโหมกลับไม่เหมือนกับตอนหาเสียงเลือกตั้ง หากรัฐบาลให้ใช้วิธีการสมัครครึ่งหนึ่ง ที่เหลือมาจากการเกณฑ์ นอกจากนี้ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าภายใน 4 ปี จะลดกำลังพลลงไปเท่าไหร่
 
นี่คือช่วงเวลาวัดใจของประชาชน ว่ารัฐบาลได้ทำตามที่หาเสียงไว้หรือไม่” ร.ท.ธนเดชกล่าว
 


“หญิงหน่อย” ส่ง 3 สส. อภิปรายจัดเต็มรัฐบาล เตรียมแฉโกงในหน่วยงานรัฐ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2775176

“คุณหญิงสุดารัตน์” เผย พรรคไทยสร้างไทย จัดเต็มศึกซักฟอก 152 ระดมทีมหนุนข้อมูลเตือนสติรัฐบาล อัดแถลงนโยบายแต่ไม่ตรงปก เกิดความบิดเบี้ยวในกระบวนการยุติธรรม พร้อมแฉทุจริตในหน่วยงานรัฐ แต่ผู้มีอำนาจกลับเพิกเฉย 
 
วันที่ 1 เมษายน 2567 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึง ความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติ อภิปรายทั่วไปรัฐบาล ระหว่างวันที่ 3 ถึง 4 เมษายนนี้ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้ทำการบ้านเพื่อเตรียมพร้อมในการอภิปรายอย่างเข้มข้น โดยมี 3 สส.ของพรรค จะทำหน้าที่ในการอภิปราย ประกอบด้วย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด และ นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส. อุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย 
 
โดยได้รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่างๆ จากคณะทำงานในแต่ละด้านของพรรค ที่ได้เกาะติดการบริหารงานของรัฐบาลมาตลอด 7 เดือน  โดยเฉพาะการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ขาดประสิทธิภาพ ไม่เดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียงไว้ และเพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายที่ให้ไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งจะสอดคล้อง กับญัตติของฝ่ายค้าน ที่จะร่วมมือกันชี้ให้เห็นว่า นโยบายของรัฐยังไม่เป็นรูปธรรม ไม่สามารถขับเคลื่อนหรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ ตอกย้ำว่านโยบายไม่ตรงปกอย่างแท้จริง
 
ไม่ว่าจะเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ การแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาคการเกษตรให้กับประชาชน การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ลงไปถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศในระยะยาวอย่างแท้จริง ไม่เว้นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน ก็ยังไร้ทิศทาง ขาดความจริงใจในการดำเนินการ หลังมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในมือ รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชันที่รัฐบาลเพิกเฉย ปล่อยปละละเลย ไม่มีการตรวจสอบ
 
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่สำคัญ ซึ่งมาจากเสียงสะท้อนของประชาชน นั่นคือการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นการทำลายหลักความเสมอภาคเท่าเทียมทางกฎหมายและการเมือง รวมถึงอีกหลายปัญหาสำคัญ ที่รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ไข เช่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม หรืออาชญากรรม รวมถึงยาเสพติดที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ ระบาดไปทั่วทุกมุมเมือง
ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทย จะนำข้อมูลเชิงลึก พฤติกรรมพฤติการณ์ ที่ส่อว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน ผิดพลาดบกพร่อง ไปเปิดเผยต่อสภาเพื่อให้รัฐบาลระงับยับยั้งและทบทวนอย่างเร่งด่วน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ที่คาดหวังจะเห็นความจริงใจจากรัฐบาล และการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน



ราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้น 4 บาทต่อกิโลกรัม ทั่วประเทศ
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/393897
 
วันนี้ 1 เมษายน สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศปรับราคาหมูหน้าฟาร์มทุกภูมิภาค ขึ้น 4 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลราคาแต่ละภูมิภาคขึ้นไปอยู่ที่ 62 – 68 บาทต่อกิโลกรัม และทิศทางราคา มีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยเป้าหมายอยู่ที่ระดับที่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งการปรับราคาในครั้งนี้ จะส่งผลให้กลุ่มร้านค้าปลีก ค้าส่งทะยอยปรับราคาขายปลีกขึ้นด้วย
 
ขณะที่สถานการณ์ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หลังรัฐเลิกอุ้ม ล่าสุดราคายังไม่เปลี่ยนแปลง โดยกระทรวงพลังงานเตรียมนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุก่อนหน้านี้ว่า พร้อมพิจารณาขยายเวลามาตรลดภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาท/ลิตร ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 19 เมษายนนี้ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้ประชาชน และภาคธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว แม้จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้มากถึง 2,000 ล้านบาท/เดือน โดยเงื่อนไขต่างๆ ต้องรอกระทรวงพลังงานเสนอมาให้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่ง ยังพอมีเวลา
 
ขณะที่วันนี้ (1 เม.ย.) ธนาคารโลก หรือ World Bank ประกาศปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 67 นี้ ลงเหลือโตแค่ 2.8% จากประมาณการเดิมที่ 3.2% โดยยังไม่รวมผลของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เนื่องจากแนวโน้มการส่งออกและการลงทุนภาครัฐที่ลดลง ในขณะที่งบประมาณที่ล่าช้า ทำให้การใช้จ่ายภาครัฐช้าลง โดยมีเพียงการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ที่เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักเท่านั้น ทั้งนี้ถ้ามีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะทำให้ GDP โตเพิ่มอีก 1% แต่จะส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกราว 2% ส่วนปี 2568 จะขายตัวได้ 3% จากเดิมที่เคยประเมินไว้จะโต 3.1%
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่