ทำยังไงให้ไม่เครียดเรื่องแบบนี้ดีครับ

ขอย้อนไปตอนม.ต้น คือผมเป็นคนที่เรียนกลางๆตอนประถมไม่ตั้งใจเรียนเลย พอขึ้นม.1มาจำได้ว่าตอนนั้นไม่มีเพื่อนเลย เพื่อนที่สนิทสุดๆAก็สอบติดร.รดังย้ายไปเรียนในตัวเมือง เพื่อนบางคนที่สนิทกันอยู่บ้างก็อยู่ห้องอื่น  จำได้ว่ากลับบ้านมาร้องไห้คนเดียวในห้องทุกวันเพราะรู้สึกว่าตัวคนเดียวมันไม่ชินเลย มารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนพูดน้อยชอบอยู่คนเดียว ซักพักก็ปรับตัวได้พอมีกลุ่มเพื่อนอยู่4คน

เวลาผ่านไปผมก็ตั้งใจเรียนขึ้นจนได้เกรดไม่ตํ่ากว่า3.50ทุกปี ได้ที่3-5ในห้องมาตลอด พอใกล้จบม.3ก็มีปัญหากับเพื่อนในกลุ่ม2คนBกับC เราเลยไม่ได้คุยกันจนจบไป “ปัจจุบันสนิทกับBเหมือนเดิมแล้ว”
พอตอนหาที่เรียนผมติดโควต้าห้องจีนร.รเดิมซึ่งมีแค่10คนที่ติด หนึ่งในนั้นมีเพื่อนBด้วย ตอนนั้นผมเองก็ดีใจเพราะในห้องที่นั้นมีแต่เพื่อนที่ผมสนิทหลายคนแต่ติดอยู่อย่างเดียวคือผมไม่ชอบเรียนจีน แต่เดิมที่ผมตั้งใจเรียนเพราะผมอยากสอบติดร.รดังในจังหวัดที่เพื่อนAเรียนอยู่ แล้วร.รนั้นมีศิลป์ญี่ปุ่นกับเกาหลีด้วย ผมคิดว่าอะไรหลายๆอย่างมันไปไกลได้กว่านี้ผมเองก็อยากลองประสบการณ์ใหม่ๆให้ชีวิตตัวเองผมเลยอยากเข้า(แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ได้เป็นแบบที่คิดทั้งหมด)  แต่พอไปสมัครสอบจริงๆผมกลับเลือกศิลป์ฝรั่งเศส ตอนนั้นคิดได้แค่ว่าตัวเองไม่ได้ภาษาอังกฤษเลย พูดเขียนอ่านแทบไม่ได้ ภาษาฝรั่งเศสมันใกล้เคียงและมีคนใช้เยอะดีผมเลยเลือกไป พอไปสอบแล้วผมดันติดจริงผมเลยเรียนๆไป ระหว่างเรียนก็ติดต่อกับเพื่อนAอยู่บ้างนานๆทีเพราะอยู่คนละสาย ต้องบอกเลยว่าขึ้นม.ปลายมาวิชาภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศสไม่เข้าสมองผมเลยแล้วยิ่งทำให้เกรดผมตกฮวบๆเพราะเป็นวิชาหลักด้วยยิ่งปรับตัวไม่ทันรู้ตัวอีกทีก็ดึงตัวเองเข้ามาในสิ่งที่ไม่ชอบกลายเป็นว่าทำร้ายตัวเองซะเอง

ผมพยายามหาเพื่อนปรับตัวในห้องจนได้เพื่อนอยู่2คน ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ถึงเลือกเข้าหาสองคนนี้ตอนแรกผมคิดว่าเค้าก็ไม่มีพิษมีภัยพออยู่กันเรื่อยๆผมก็รู้ว่า2คนนี้ดูดพอตแล้วทำก็อะไรหลายอย่างที่มันแย่ๆ มีครั้งหนึ่งตอนสอบเสร็จเขาหนีไปมีอะไรกับแฟนกันปล่อยให้ผมเดินห้างอยู่คนเดียวแล้วแม่เขาโทรมาตามกับผม ตอนนั้นแม่เค้าโทรมาหาผมเพราะโทรหาลูกไม่ติด ผมได้แต่บอกไปว่าไม่รู้ตอนนั้นเองผมเริ่มไม่อยากจะคบกับ2คนนี้มันมีหลายเหตุการที่ผมรู้สึกว่าไม่โอเค จนบางคนเค้ามองว่าผมลาบ ผมเลยเริ่มอออกห่างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วจู่ๆพวกเค้าก็มาประจารผมว่าไปว่าเค้างู้นงี้ว่าสูบบุหรี่ติดศูนย์มั่วไปทั่ว ผมเลยบอกไปว่าผมไม่ได้ว่าพวกเขาตอนนั้นที่โพสต์ถึงคือคนที่มันมีปัญหากับผมก่อนหน้านี้ ”แล้วโพสต์นั้นมันก็นานแล้วด้วย“ เอคนั้นผมก็เป็นเพื่อนกับเขาผมจะไปโพสต์ด่าเขาโต้งๆเองทำไม แต่เขากลับให้เหตุผลแค่ว่ามันตรงกับเขา แล้วมันก็ดึงพวกมาเกี่ยว ขู่จะตามถึงบ้านบ้างไล่ให้กลับไปเรียนที่เดิม ว่าเป็นผู้ดีตีนแดงบ้าง ตอนนั้นไม่แปลกใจเลยที่คนหนึ่งดร็อบมาเรียนใหม่กับอีกคนเพื่อนในห้องแทบไม่เข้าหาได้แต่ตามตูดเพื่อนเงียบๆ พวกนี้ชอบทักมาด่าผมเหมือนเหงาพอผมด่าแรงๆกลับใส่บ้างก็รับไม่ได้กันบอกคิดว่าผมเป็นคนดีเป็นเด็กเรียบร้อยมาตลอด แล้วไงครับผมเองก็ด่าคนเป็นผมไม่ได้ซื่อบื้อ ผมเองก็คิดอยากจะด่ากลับแรงๆแต่ก็ไม่อยากลดตัวไปโต้กลับกับคนแบบนั้น ปัจจุบันผมอยู่คนเดียว เพื่อนในห้องพวกเฟรนลี่เรียนเก่งๆเค้าก็เห็นใจผม ผมก็พอคุยได้บ้างแต่ไม่ได้สนิทอะไรเลย ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวเอาจริงจะว่าชอบแบบนี้ก็ไม่เลยมันเหงานะรู้สึกเจ็บแปลกๆที่ชีวิตม.ปลายต้องมาเป็นคนอินโทรเวิร์ดในสายตาคนอื่น เพราะมีเรื่องแบบนี้ผมเลยไม่กล้าเข้าหาใครอีก เดิมทีก็เป็นคนพูดไม่เก่ง จะเข้ากลุ่มใครผมก็กลัวไปเกะกะเขามันรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเพราะพวกในห้องเองก็มาจากร.รเดิมทั้งนั้นมีเพื่อนกลุ่มเดิมกัน ผมที่ย้ายมาใหม่ก็แทบจะไม่รู้จักใครเพื่อนAเองก็นานๆทีเจอเพราะไม่ค่อยว่างกัน
ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนหาตัวตนไม่เจอ พอย้ายมาเกรดผมก็ตกไม่แตะ3เลย ผมไม่มีกำลังใจ ไม่มีไฟเลย กลัวงานกลุ่มเวลามีงานกลุ่มต้องไปขอเขาอยู่ตลอด

ตอนนี้ผมจะขึ้นม.5แล้ว พอมาคิดๆดูผมน่าจะต่อที่เดิมแต่แรกเพราะไม่ต้องเสียค่ารถเดือนหนึ่งก็พันๆกว่าไหนจะค่าเทอมที่แพงกว่า3เท่าของร.รเดิมอีก ค่าใช้จ่ายต่างๆ ต้องตื่นเช้าตี5ถึงบ้าน6โมงทุกวัน เครียดจนสิวขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ถอยออกมาไม่ได้เพราะมาถึงขนาดนี้แล้ว คิดได้แค่ว่าเรียนให้จบๆเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ทนไปอีก2ปี แต่ผมก็เครียดมากๆเลยยิ่งเป็นคนคิดมากควรทำยังไงดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่