มีบ้านใครลำเอียงได้เท่านี้บ้างไหม?

เรากับพี่ชายห่างกัน5ปี แต่รู้สึกได้รับการปฏิบัติที่ต่างกันมาทั้งชีวิต จนตอนนี้ก็มีความรู้สึกชินชาด้วยความเสียใจตลอดมา
แต่ก็ยังมีความคาใจอยู่ว่าทำไมที่บ้านไม่มีลูกชายไปคนเดียวเลย จะเล่าเรื่องเปรียบเทียบคร่าวๆเสี้ยวนึงที่ได้รับมา

เริ่มจากช่วงม.ปลาย พี่เราได้เข้าไปเรียนกทม. อยู่หอพักเอกชน ซื้อเฟอร์ให้ครบ มือถือ20,000 ได้ใช้เดือนละ10,000
ส่วนเรา ส่งเรียนรร.รัฐ มือถือไม่เกิน10,000 ได้ไปรร.วันละ60 หอไม่ได้อยู่ต้องนั่งรถไปกลับขาละ1ชั่วโมง

ช่วงมหาลัย พี่เราเรียนม.เอกชนเทอมละ50,000 คอนโดน้ำไฟเน็ต10,000 ให้ใช้เดือนละ10,000 ที่บ้านออกรถใหม่ พี่มาเอาไปใช้
จนต้องออกใหม่ให้เพื่อเอาคันเดิมกลับมา 
ส่วนเราส่งเรียนม.รัฐ เทอมละ5,000 ค่าหอน้ำไฟ3,000 ได้ใช้อาทิตย์ละ1,000รวมของใช้ อุปกรณ์การเรียน นั่งวิน รถทัวร์ตลอด4ปี
จนรู้สึกไม่พอใช้เลย เราก็ต้องไปขายของตามตลาดนัดหลังเลิกเรียน

ชีวิตหลังเรียนจบ พี่เราเรียนไม่จบ หลอกขอเงินค่าเทอม ค่ากินยืดจน8ปีตามโควต้าม. ไม่เคยกลับบ้านเลยตั้งแต่ได้รถไป ครอบครัวต้องไปหา
เราเรียนจบ มีงานทำ ได้พาพ่อแม่ไปเที่ยว ไปกิน ดูแลพ่อแม่ตอนเจ็บป่วย เข้ารพ.พี่ก็ไม่เคยมา จนมโนว่าแม่คงจะเห็นเราดีบ้าง แต่ผิดคาดอีก
แม่เราซื้อบ้านใหม่ในซอยเป็นบ้านชั้นเดียวเนื่องจากแก่แล้ว วันที่โอนบ้านก็เลยยกให้เป็นชื่อเราแล้วกัน บ้านนี้มูลค่า2ล้าน และบอกกับเราว่า
บ้านตึกจะยกให้พี่ชายซึ่งติดกับโรงแรม มูลค่าเกิน5ล้าน ทั้งๆที่เราเคยขอไว้อยากเปิดร้านขายของ แต่แม่ก็เลือกโอนให้พี่ ทั้งๆที่พี่ไม่เคยมาเหยียบ
บ้านนี้เป็น10ปีและพี่ก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร ตอนนี้บ้านปิดตายรอคนเช่า

เรื่องที่ดิน ที่บ้านได้มีการแบ่งคร่าวๆจากปาก เราได้ที่จำนวนเยอะกว่า ฟังดูดีนะ แต่ที่ของเราเป็นที่ไม่มีโฉนด ไม่รู้ว่าจะโดนเรียกคืนวันไหนอาจศูนย์
มูลค่าน้อยขายได้หลักแสน ส่วนของพี่ได้จำนวนน้อยกว่า แต่ขายได้หลักหลายล้าน

เรื่องล่าสุดสร้างความคาใจจนอยากถามสังคม ที่บ้านเราจะออกรถใหม่ ซึ่งเราจะเป็นคนขับรถให้ที่บ้านจะใกล้ จะไกล
บ้านเราจะออกรถรุ่นนึง แต่เราดูแล้วมันขับไม่สบาย เราเลยขอเลือกเพราะเราขับ ต้องบอกว่างบก็ไม่เกินคันที่ท่านเลือกไว้
แต่ก็ไม่ผ่านอนุมัติ เพราะท่านไม่ชอบ เราจึงบอกไปว่า เราไม่เคยได้รถเลย ไม่เคยได้เลือกอะไร ทำไมพี่ถึงได้รถขับตั้งแต่มหาลัยอยู่คนเดียว
สมัยเรียนเราก็ยอมนั่งวินตากแดด ตากฝน จนเรียนจบ ไม่ซื้อให้แต่ขอเลือกที่คนขับขับสบายหน่อยไม่ได้หรอ ก็ได้คำตอบมาว่า
”มีงานทำแล้ว อยากได้ก็ไปซื้อเองสิ” อยากหนีไปนะ แต่ก็ห่วงไม่มีใครดูแล เพราะพี่ไม่เคยกลับมาดู มารับผิดชอบอะไร

ขอระบายก่อนไปรับรถวันเสาร์นี้ คนไปรับคือเรา คนขับคือเราเหมือนเดิม ไม่รู้ควรทนต่อหรือควรไปเริ่มใหม่ดี นี่คือเรื่องเล่าเสี้ยวนึงของชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่