รีวิว..ทริปตะลุย 4 เมือง หิมะตกฉ่ำๆ ที่ Hokkaido - Hakodate, Sapporo, Furano, Asahikawa

รีวิว..ทริปตะลุย 4 เมือง หิมะตกฉ่ำๆ ที่ Hokkaido - Hakodate, Sapporo, Furano, Asahikawa



วันนี้ขออนุญาตออกจากห้องเฉลิมไทยมารีวิวทริปเที่ยวฮอกไกโด 6วัน 4 คืน ในเดือนมีนาคม ในห้องบลูแพลนเน็ต กันบ้าง
บอกเลยว่า เราไปในช่วงกลางเดือนมีนาคม ถึงปลายๆ ซึ่งหลายๆคน ก็บอกว่า หิมะ น่าจะตกไม่เยอะแล้ว และอุณหภูมิ ก็อาจจะไม่หนาวมากเท่าไหร่
ซึ่งถ้าเป็นช่วงมราหิมะตกเยอะๆ แบบขาวโพนไปหมด เขาบอกว่า ช่วงกุมภา 
แต่เราก็ทำใจไว้แล้วละ ถ้าไปปลายเดือนขนาดนี้ อาจจะไม่ได้เจอหิมะ และเห็นหิมะตก แบบที่เราคาดหวังไว้ ว่าอยากสัมผัสหิมะตก ว่ามันเป็นยังไง

จนมาถึงวันออกเดินทาง เราบินไฟล์ทตี2 ถึงที่สนามบินนิวชิโตเสะ ก็ประมาณ11.00 น. ของที่นั่น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
ซึ่งเวลาที่ญี่ปุ่นจะเร็วกว่าที่ไทย 2 ชั่วโมง
สื่งแรกที่เห็น คือหิมะค่อนข้างบางตก แดดออก อุณหภูมิตอนนั้น อยู่ที่ 5 องศา ซึ่งมันดีมาก อย่างให้ที่ไทยเป็นแบบนี้บ้าง ตลอดทั้งปี
เวลาพูดควันจะออกปาก แต่ไม่หนาวหนาว เย็นสบายกำลังดี ฟีลแบบเปิดตู้เย็น แล้วลมหน้าตู้เย็น ตีหน้าเรา แค่นั้น



วันแรกเราก็ทานอาหารกันที่ร้านใกล้ๆ สนามบิน แล้วก็ออกเดินทางสู่เมืองฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นตอนใต้ของจังหวัดฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัส 
ประมาณ 5 ชั่วโมงได้ แต่ไม่รู้สึกว่ายาวนานเลย คือเราก้โุบรรยากาศ และวิวข้างทางบ้านเมืองเขาไปเรื่อย ที่ปกคลุมด้วยหิมะ ที่ละลายไปเยอะแล้ว

และแล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เปิกดขึ้น ระหว่างเดินทางไปได้ครึ่งทาง ฝนตก และเราได้แวะเข้าห้องน้ำกัน สิ่งที่สัมผัสได้ คือ อากาศจะเย็นขึ้นกว่าปกติมาก ถ้าไม่ใส่ถุงมือลงไป อาจจะทำให้มือเราชา จนเลือดไม่เดินได้เลย แล้วระหว่างที่เรากำลังจะวิ่งขึ้นรถ มันมีเม็ดเล้กๆ ที่ร่วงมากับฝน ประปราย เต็มตัวไปหมด ใช่แล้ว นั่นคือ หิมะ เราตื่นเต้นมาก ทีแรกที่คิดว่าจะไม่เจอ ดันเจอตั้งแต่วันแรกซะงั้น

สิ่งแรกที่เราได้เดินเที่ยวในยามเย็น เมื่อถึงเมืองนี้คือ
"โกดังอิฐแดง Kanemori" ซึ่งตอนนั้นฝนก็ยังตกอยู่ แต่ก็สวย และได้บรรยากาศไปอีกแบบ ที่นี่จะเป็นเหมือนแหล่งพักผ่อนของคนที่นี่ แบบว่า มาดื่มมาดริ้ง ประมาณนั้น และซื้อของฝาก ชองกิน ของนักท่องเที่ยว






และต่อมา เราก็ได้เดินทางไปยัง Mt. Hakodate Ropeway เพื่อนั่งชมเมืองฮาโกดาเตะ ยามค่ำคืน
ซึ่งแน่นอนจ้า ฝนตกอีกเช่นเคย ทำให้มองไม่เห็นบรรยากาศเมืองเลย มีแต่หมอก แต่ฟ้าก็ดันเป็นใจ
สักพักหมอกนั้น ก้ได้จางหายไป ทำให้เราได้เห็นวิวเมืองนี้ ในยามราตรีซึ่งมันสวยมากกกกกกกก






และคืนนั้น เราก็ได้พักที่นี่ และได้เดินชมเมือง และหาอะไรกิน มีฝนและหิมะ ตกมาประปราย เราได้มาม่า และซุปทะเลอะไรสักอย่าง
ในเซเว่น แบบโคตรอร่อยเลย







ที่สังเกตุได้ จากคนเมืองนี้คือ ค่อนข้างหน้าตาดี เยอะมากๆ และคนอัธยาศัยดี เฟรนด์ลี่มากๆ

และตอนเช้า เราก็ได้ทานอาหารเช้าที่โรงแรม ซึ่งอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น ก็ประมาณนี้ เรากินอย่างละเล็กละน้อย




แล้วก็เดินทางต่อมายังตลาดปลา พร้อมเก็บกระเป๋ามูฟออนมายังเมืองซัปโปโร ซึ่งถ้าเปรียบว่า จังหวัดฮอกไกโด เป็นประเทศไทย ซัปโปโร ก็คือกรุงเทพ ฮาโกดาเตะ ก็เหมือนภาคใต้บ้านเรา ส่วนอาซาฮากาว่า ก็ฟีลขึ้นภาคเหนือ นครสวรรค์ ประมาณนี้



และแล้ว เราก็เดินทางมายังตลาดเช้า ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งมีของกินเยอะมากๆ แต่เรานั้น ไม่หิวอะไร เพราะเพิ่งอิ่มมาจากอาหารเช้าที่โรงแรม



แต่ก็ได้เมล่อนมาชิ้นนึง มาถึงที่นี่ จะไม่กิน ก้ไม่ได้ เพราะว่า เป็นของขึ้นชื่อ ชิ้นนี้ราคา 100 เยน เท่านั้น 25บาท บ้านเรา ถูกมากๆ หวาน อร่อย



ปูใหญ่มาก ตัวนี้ 4 โลกว่าเลยนะ พ่อค้าชั่งให้ดู



คนก็ไม่เยอะมาก มีทั้ง ทัวร์ ไทย จีน เกาหลี 

ต่อมาคือ เราเดินทางมายัง Motomachi Park ที่นี่คือแบบ บอกเบย ว่าถ่ายรูปสวยมาก ฟีลเกาหลีเกาใจสุดๆ






มื้อเที่ยงเราทานเป็นชาบู น้ำจิ้มสุกี้ เขาไม่มีให้นะ แต่พี่ไกด์เตรียมไปให้ ด้วยความที่เรามันคนไทย บางคนอาจจะไม่ชอบน้ำจิ้มงาหรือพอนซึ



แล้วก็นั่งรถยาวๆ มีแวะถ่ายรูปที่ ทะเลสาป Toya ซึ่งก็สวยมาก เช่นกัน แต่ก็หนาวมาก หนาวจนน้ำมูกไหลออกมาเอง แบบงงๆ
ถ่ายรูปกันไป ก็มือชากันไป เพราะไม่ได้หยิบถุงมือลงมา



หลังจากนั้น เราก็นั่งรถยาวๆ มาถึง Otaru สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แต่มาถึงช่วงเย็น และร้านค้าที่นี่ค่อนข้าง ปิดเร็วมากๆ 
ได้มาถ่ายรูปกับคลองโอตารุ ซึ่งคนเยอะมากกกกกกกก



แล้วเราได้เดินทางต่อมาอีก 1 ชั่วโมง เพื่อที่จะมาพักที่โรงแรม Rembrandt Style Sapporo ที่ซัปโปโร สังเกตุจากหลายๆโรงแรม คือที่ญี่ปุ่น พื้นที่จะค่อนข้างแคบมากๆ ต้องจัดสรรพื้นที่ใช้สอยกันให้เป็น
 
ได้กินบุฟเฟต์ ขาปูยักษ์ 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่ร้าน DEN ขาปูคือขนาดไม่ใหญ่มาก รสชาติออกหวานๆ เค็มๆ แต่ที่ดีที่สุด ยกให้หอยเชลล์ ตัวใหญ่ สด นุ่ม อร่อยมากกกก เรากินไปหลายตัวมาก 


 



ของหวานอร่อยมาก โมจิ วาลาบิโมจิ คืออร่อยมากกกก ถ่ายไม่ทัน เรากินไป2ถ้วย น่าจะได้ ของหวานบ้านเขา คือทำถึง และอร่อยจริง





คืนนั้น เราก็ได้เดินชมเมืองซัปโปโร ยามค่ำคืน ผู้ชายที่นี่ไม่ได้หล่อแบบฮาโกดาเตะมาก คือหน้าตาเมืองแต่ละเมือง ก็จะคนละสไตล์ไปเลย 
เราก็พิมพ์ไปเรื่อย 55+ เราได้เดินห้าง และย่านช็อปปิ้งของที่นี่ ของที่นี่ค่อนข้างถูกกว่าที่ไทยมาก ในบางอย่าง เช่ยวิตามิน รองเท้า ถูกกว่ากันครึ่งๆเลย
และได้ไปเดินช๊อปปิ้งใน MEGA DONKI ซึ่งคนเยอะมาก และหันไปทางไหน ก็เจอคนไทยเยอะมากๆ ไม่แปลกใจ ว่าทำไม เราเป็นเบอร์ต้นๆ ที่มาเที่ยวญี่ปุ่น 

 

อุณหภูมิตอนนี้ อยู่ที่ -3 องศา ว่าแล้ว ตอนเดินออกมาจากห้าง ทำไมมันเย็นแปลกๆ เย็นกว่าปกติมากๆ
ซึ่งเราอยู่ในห้าง ก็ไม่รู้สึกอยู่แล้ว เพราะมาีเครื่องทำความร้อนในอาคาร 
 
" เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ฉันใช้ชีวิต ที่อุณหภูมิ ติดลบ 3 องศา "  (เราพูดในใจกับตัวเอง)
 
เอาจริงๆนะ มันหนาว และเย็น แต่เป็นความเย็น ที่ทนได้ และมีความสุข เพราะเราเชื่อว่า หนาวแบบนี้ ยังไงก็ดีกว่าร้อนบ้านเราแน่ๆ 
แค่ใส่เสื้อฟ้า ถุงมือดีๆ ก็อยู่ได้แล้ว เราชอบมาก มันเย็นสบายดี ไม่ต้องมาปาดเหงื่อ แบบบ้านเรา แต่ที่เรารู้สึกว่าหนาวในช่วงแรกๆ เราอาจจะไม่ชิน เพราะเราไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน

หลังจากนั้น เราก็ได้หาของกินเล็กน้อย ที่ร้านสะดวกซื้อ และกลับโรงแรม เราได้แฮมชีสเจ้าดัง ที่เขาบอกว่า ถ้ามาญี่ปุ่นต้องมาลอง ติดได้ติดมือมาด้วย
กินแล้ว ไม่อร่อยอะ เค็ม เค็มมากกกกก อันนี้ไม่ผ่าน แต่ชานมไข่มุขอร่อยดี ของในร้านสะดวกซื้อบ้านเขา ก็จะหน้าตาประมาณนี้แล ถ่ายมาให้ดู






มื้อเช้า เราก็กินอาหารเช้าที่โรงแรม เล็กๆน้อยๆเหมือนเดิม แล้วที่ตลกคือ เรากิน เจงกิสข่าน 
เราก็ไม่รู้ว่ามันเนื้ออะไร แต่มันหน้ากิน เราเลยตักมากิน แล้วเราว่า เอ๊ะ! ทำไมมันรสชาติเหม็นสาปแปลกๆ 
เหมือนเนื้อแกะ ที่เราเคยกินที่ร้านหม่าล่า แล้วเราไม่ชอบ เพื่อนบอกอร่อย แต่เราไม่ชอบ ครั้งเดียวพอ นับจากนั้น
แต่วันนี้ เราเจอรสชาติที่คุ้นเคยอีกแล้ว เราว่าใช่ ใช่แน่ๆ เลยถามอากู๋ดู ว่าเมนูนี้ มันคืออะไร
ใช่จ๊ะ ฉันกินเนื้อแกะ อีกแล้วววววว 555+



เช้านี้ เริ่มต้นที่ศาลเจ้าฮอกไกโด ที่ปลกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ขาวโพน คนก็ค่อนข้างเยอะใช้ได้เลย






ต่อมาเราก็มาแวะช็อปปิ้งที่ร้านDuty Freeแห่งหนึ่ง สำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อซื้อของครบ 5000 เยน จะได้ Tax Refund
คือเอาง่ายๆ เราสามารถซื้อของ ในราคาที่ไม่มีภาษีนั่นเอง



แวะกดน้ำชิมสักหน่อย รสชาติแอปเปิ้ล แปลกๆดี



เดินทางสู่เมือง ฟุราโน่ กินไอติม ลาเวนเดอร์ ระหว่างทาง หอมอร่อยๆ หวานๆ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่



*** ต่อด้านล่างนะ ***
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่