ขออนุญาตปรึกษาและระบายความรู้สึกในกลุ่มนี้หน่อยนะคะ
ตอนนี้เราอายุ 28 ปี ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพกับสามีคนจีนอายุ 37 ปี (อายุห่างกันพอสมควร) มีลูกชายอายุ 4 เดือน ตอนนี้รู้สึกเหมือนเราน้อยใจสามีหลายๆ เรื่องค่ะ
ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาก่อนนะคะ
เรารู้จักกับสามีคนนี้ตอนเราอายุ 25 ปี ทำงานร่วมกันในบริษัทเดียวกัน สามีเราเป็นหัวหน้าแผนกส่วนเราทำงานทีมเดียวกันค่ะ เราทำงานทีนี่ได้ไม่นานก็ลาออก (ทำได้ 2 เดือน) หลังจากออกจากงานเค้าก็มาจีบเราและก็ออกเดท กันบ่อยๆ จนตกลงเป็นแฟนกันและย้ายมาอยู่ที่คอนโดแฟน
พออายุ 27 ตัดสินใจแต่งงานและมีลูกกันค่ะ แต่จะว่าไปปัญหาเล็กๆน้อยๆ จนถึงใหญ่ๆ ก็มีมาเรื่อยๆ แต่ก็ผ่านมาได้ เริ่มจากปัญหาแรกจนถึงปัจจุบัน....
1. สามีออกต่างจังหวัดเพราะเรื่องงาน (มีโครงการต่างจังหวัด) เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะต่างคนก็ต่างทำงานและอีกอย่างไปไม่กี่วันก็กลับ (1 เดือนไป 3-7 วันกลับ)
2. ตอนเราตั้งครรภ์ก็ต้องลาออกจากงานเนื่องจากตอนนั้นเราทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ งานเยอะและต้องออกนอกพื้นที่บ่อย (บริษัทต่างชาติ+ startup) ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ออกเพราะยังทำงานได้อยู่ จนเรารู้ตัวอีกทีคือเราหักโหมงานหนักเกินจนอ้วก (ไม่ได้อ้วกจากการแพ้ท้องแต่อ้วกเพราะปวดหัวกับงานจนอ้วก) แต่ก็ลองทำไปก่อนจนท้องเกือบ 3 เดือนพบว่าตัวเองมีเนื้องอกและมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดอีก แน่นอนว่าต้องห่วงสุขภาพและลูกตัวเองจึงตัดสินลาออก (จริงๆ สามีให้ออกจากงานตั้งแต่รู้ว่ามีลูกแต่เรายังไม่อยากออกเพราะกำลังสนุกกับชีวิตการทำงาน)
3. หลังจากออกจากงานเราต้องอยู่คนเดียวเพราะช่วงนั้นสามีเรายังคงต้องทำงานต่างจังหวัดแต่ประเด็นคือไม่เหมือนช่วงแรก แรกๆ ยังไปไม่กี่วันกลับแต่ตอนนั้นคือใน 1 เดือน สามีจะกลับมากรุงเทพ 3-5 วัน แล้วก็กลับไปทำงานต่อ เราก็คิดว่าเราอยู่คนเดียวได้จนกระทั่งช่วงตั้งครรภ์ 5 เดือนขึ้นไป
4. พอช่วงที่เราท้อง 5 เดือนเราเริ่มรู้สึกเดียวดาย เหงา เบื่อ มันเหมือนคนหมดกำลังใจเพราะเราเคยทำงานและกำลังสนุกกับชีวิต จริงๆ เราดีใจมากที่มีลูกแค่มันเหงาและท้อที่เราต้องอยู่คนเดียวในช่วงนี้ แน่นอนว่าเราก็บอกให้แฟนเรารู้และถามเค้าอยู่บ่อยๆว่าจะกลับมาช่วงไหนและงานจะเสร็จตอนไหน แรกๆ มันก็เหมือนจะไม่เป็นอะไรแต่หลังๆ แฟนเราก็รู้สึกกดดันจากเรามากขึ้น
5. ปัญหาก็มีขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มบ่นแฟนหลายๆเรื่อง เช่น.. ไม่มีเวลาด้วยกัน, ทิ้งให้อยู่คนเดียวตอนท้อง, ไปหาหมอก็ไปคนเดียว, โทรไปก็ไม่ค่อยคุย, แฟนทำแต่งาน, มากรุงเทพก็ยังทำงาน, มีเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อน, ไม่ค่อยสนใจกันเหมือนเมื่อก่อน ไม่ค่อยสวีทกัน เป็นต้น. ช่วงนั้นเราค่อนข้างน้อยใจสามีเรามากเพราะจริงๆเราเป็นคนชอบเก็บตัว (introvert) แต่จะติดสามีเรามากเหมือนชีวิตเรามันมีแค่เค้าคนเดียว สามีเราจะชอบพูดกับเราว่า "ปกติเมื่อก่อนยังอยู่ได้เลย ชอบอยู่คนเดียว ชอบอยู่แต่ห้อง" เราก็เสียใจมากที่เค้าพูดแบบนั้นแต่มันก็จริง หรือจริงๆแล้วเราเรียกร้องจากเค้าเกินไปไหม เราจะถามตัวเองตลอดว่าเรา "เป็นอะไรทำไมต้องทำตัวติดสามีแบบนี้" แล้วมันก็จะรู้สึกวนๆแบบนี้ คือเราจะชอบบ่นสามีที่ทำแบบนี้กับเราแต่พอคุยกันมันก็วนมาที่เราว่าเราทำเกินไปที่อยากให้เค้ามาสนใจเราแบบที่เราต้องการ
6. จนวันเวลาผ่านไป เราเก็บเรื่องราวน้อยใจจากเล็กๆ สะสมไปเรื่อยๆ ก็พยายามอดทนกับเรื่องราวที่เราต้องเหนื่อยใจและตัวในแต่ละวัน ยิ่งอายุครรภ์มากขึ้นก็ยิ่งกังวลเรื่องลูกมากขึ้น สภาพร่างกายก็เปลี่ยนไปมาก ความกลัวก็เกิดขึ้น แล้วเหตุการณ์ที่กังวลก็มา เราต้องผ่าคลอดวันที่ 31 ตุลาคม หรือไม่ก็ต้นเดือนพฤศจิกายน สามีเราก็จะกลับมาช่วงผ่าคลอดแต่เราบอกให้สามีลางานล่วงหน้าเพราะเรากลัวคลอดก่อนกำหนด แต่งานเค้าเยอะมากเลยลาล่วงหน้าไม่ได้ แล้วสรุปเราก็คลอดก่อนกำหนด (35 สัปดาห์) คืนนั้นเราก็อยู่ห้องคนเดียวไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่แค่รู้สึกเหนื่อยๆ ใจสั่นๆ ร้อนๆหนาวๆ เป็นมาหลายวันแล้วแต่คิดว่าเป็นอาการปกติจนคืนนั้นมันไม่ไหวเพราะใจสั่นจนนอนไม่ได้เลย สรุปก็ผ่าคลอดคืนนั้นเพราะหัวใจลูกเต้น 180 ส่วนเราหัวใจเต้น 150 (มีอาการติดเชื้อด้วย) เราผ่าคลอดฉุกเฉินต้องโทรให้แม่เราเซ็นเอกสารและเฝ้าเราหลังคลอด ส่วนสามีเราไม่สนใจเลย งานเยอะจนมาไม่ได้เหมือนเดิม กว่าสามีจะมาหาเราก็ผ่านไป 10 วันหลังผ่าคลอด เราก็ไม่รู้ว่าเราจะน้อยใจได้ไหมหรือมันเป็นเรื่องปกติที่ต้องยอมรับเหมือนที่ผ่านๆมาว่าเค้าทำงานหางานเพื่อครอบครัว
7. เราก็เลี้ยงลูกคนเดียว fulltime เพราะสามียังทำงานต่างจังหวัด จนถึงลูก เราอายุ 2 เดือน สามีตัดสินใจลาออกจากงานเพราะเค้าบอกว่าอยากอยู่กับครอบครัว แต่รอบนี้ที่กลับมาเค้าเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เราก็เข้าใจเพราะสมัยที่ไม่มีลูกมันกฺ็คงจะเหมือนช่วงโปรที่เค้าดีไปหมด แต่พอกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งมันเหมือนเราเป็นคนที่ไม่มีตัวตนในห้อง จริงๆ มันรู้สึกว่ายังอยู่คนเดียว เค้าไม่ค่อยคุย วันๆก็อยู่กับโทรศัพท์ ส่วนเราก็เลี้ยงลูกทั้งวัน
8. จนปัจจุบันสามีเปิดกิจการเป็นของตัวเองที่ทำร่วมกับหุ้นส่วนคนไทย แต่งานเยอะกว่าคนอื่นเพราะว่าเป็นตัวหลักของงาน ซึ่งเค้าไม่มีเวลากับเราเลย ไม่แตกต่างอะไรกับก่อนหน้าที่ตั้งครรภ์แค่ยังดีที่กลับบ้านทุกคืน แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมันเหมือนต่างคนต่างอยู่จริงๆ โดยปกติเค้าจะตื่นตี 5-6 เข้าและลุกไปนั่งคนเดียวอีกห้องและสักพักก็ไปทำงานกว่าจะกลับมาก็เย็นๆดึกๆ และก็อยู่แค่โทรศัพท์แล้วเข้านอนเลย ซึ่งเราไม่ค่อยได้หันหน้าคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย
9. ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจ,เหนื่อย,เบื่อและผิดหวัง ไม่รู้จะไปคุยหรือปรึกษากับใคร อยากระบายค่ะ
- ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่แต่ละคนไหมหรือเราอ่อนไหวเกินไปและคิดมากไปเอง
- เราเอาแต่ใจเกินไปหรือป่าว
- เราจะไปบังคับสามีเกินไปไหม
- บางทีพอเราจะคุยกับสามีก็สงสารเค้าเพราะเห็นเค้าทำงานเยอะ เราเป็นภาระให้เค้าต้องทำงานหนักแบบนี้หรือป่าว เพราะเราก็ไม่ได้ทำงาน
- เรารู้สึกไม่มีคุณค่าเพราะเราต้องเลี้ยงลูก ไม่ได้ทำงาน
- เราอยากกลับไปทำงานแต่พอเราเห็นลูก เราอยากเลี้ยงลูกเราเอง
- บางทีก็อยากเลิกกันไปจะได้จบๆ ที่ผ่านมาเราร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อยมา ยิ่งตอนหลังคลอดความรู้สึกมันหดลงไปหลายๆอย่างๆ
- แต่เรารู้สถานการณ์เราดีว่าถ้าเราเลิกเรายังเริ่มต้นใหม่ยังไม่ไหว
- วันๆ เราเลี้ยงลูกทั้งวันคนเดียวมันเหนื่อยมากเลย อยากได้กำลังใจจากสามี อยากให้เค้าชมเรา อยากให้เค้ามองเราว่าเราเป็นเมียและแม่ของลูกได้ดีที่เค้าต้องการ
- เวลาเราคุยกับเค้ามันเหมือนเค้าคิดแต่เรื่องงานตลอด เค้าจะทำหน้าเหมือนคิดอะไรสักอย่าง เวลาเราถามอะไรไปก็ไม่ตอบหรือตอบช้าเพราะกำลังคิดเรื่องงาน
- เรารู้สึกโดดเดี่ยว ทุกวันนี้มองหน้าลูกก็ยิ้มได้บ้าง เหมือนตอนนี้มีลูกให้กำลังเรา
เป็นกระทู้แรกหากเล่าไม่เข้าใจต้องขอโทษด้วยนะคะ
น้อยใจและผิดหวังสามี ชีวิตคู่หลังแต่งงานมีลูกทำไมถึงเปลี่ยนไปคะ ?
ตอนนี้เราอายุ 28 ปี ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพกับสามีคนจีนอายุ 37 ปี (อายุห่างกันพอสมควร) มีลูกชายอายุ 4 เดือน ตอนนี้รู้สึกเหมือนเราน้อยใจสามีหลายๆ เรื่องค่ะ
ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาก่อนนะคะ
เรารู้จักกับสามีคนนี้ตอนเราอายุ 25 ปี ทำงานร่วมกันในบริษัทเดียวกัน สามีเราเป็นหัวหน้าแผนกส่วนเราทำงานทีมเดียวกันค่ะ เราทำงานทีนี่ได้ไม่นานก็ลาออก (ทำได้ 2 เดือน) หลังจากออกจากงานเค้าก็มาจีบเราและก็ออกเดท กันบ่อยๆ จนตกลงเป็นแฟนกันและย้ายมาอยู่ที่คอนโดแฟน
พออายุ 27 ตัดสินใจแต่งงานและมีลูกกันค่ะ แต่จะว่าไปปัญหาเล็กๆน้อยๆ จนถึงใหญ่ๆ ก็มีมาเรื่อยๆ แต่ก็ผ่านมาได้ เริ่มจากปัญหาแรกจนถึงปัจจุบัน....
1. สามีออกต่างจังหวัดเพราะเรื่องงาน (มีโครงการต่างจังหวัด) เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะต่างคนก็ต่างทำงานและอีกอย่างไปไม่กี่วันก็กลับ (1 เดือนไป 3-7 วันกลับ)
2. ตอนเราตั้งครรภ์ก็ต้องลาออกจากงานเนื่องจากตอนนั้นเราทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ งานเยอะและต้องออกนอกพื้นที่บ่อย (บริษัทต่างชาติ+ startup) ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ออกเพราะยังทำงานได้อยู่ จนเรารู้ตัวอีกทีคือเราหักโหมงานหนักเกินจนอ้วก (ไม่ได้อ้วกจากการแพ้ท้องแต่อ้วกเพราะปวดหัวกับงานจนอ้วก) แต่ก็ลองทำไปก่อนจนท้องเกือบ 3 เดือนพบว่าตัวเองมีเนื้องอกและมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดอีก แน่นอนว่าต้องห่วงสุขภาพและลูกตัวเองจึงตัดสินลาออก (จริงๆ สามีให้ออกจากงานตั้งแต่รู้ว่ามีลูกแต่เรายังไม่อยากออกเพราะกำลังสนุกกับชีวิตการทำงาน)
3. หลังจากออกจากงานเราต้องอยู่คนเดียวเพราะช่วงนั้นสามีเรายังคงต้องทำงานต่างจังหวัดแต่ประเด็นคือไม่เหมือนช่วงแรก แรกๆ ยังไปไม่กี่วันกลับแต่ตอนนั้นคือใน 1 เดือน สามีจะกลับมากรุงเทพ 3-5 วัน แล้วก็กลับไปทำงานต่อ เราก็คิดว่าเราอยู่คนเดียวได้จนกระทั่งช่วงตั้งครรภ์ 5 เดือนขึ้นไป
4. พอช่วงที่เราท้อง 5 เดือนเราเริ่มรู้สึกเดียวดาย เหงา เบื่อ มันเหมือนคนหมดกำลังใจเพราะเราเคยทำงานและกำลังสนุกกับชีวิต จริงๆ เราดีใจมากที่มีลูกแค่มันเหงาและท้อที่เราต้องอยู่คนเดียวในช่วงนี้ แน่นอนว่าเราก็บอกให้แฟนเรารู้และถามเค้าอยู่บ่อยๆว่าจะกลับมาช่วงไหนและงานจะเสร็จตอนไหน แรกๆ มันก็เหมือนจะไม่เป็นอะไรแต่หลังๆ แฟนเราก็รู้สึกกดดันจากเรามากขึ้น
5. ปัญหาก็มีขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มบ่นแฟนหลายๆเรื่อง เช่น.. ไม่มีเวลาด้วยกัน, ทิ้งให้อยู่คนเดียวตอนท้อง, ไปหาหมอก็ไปคนเดียว, โทรไปก็ไม่ค่อยคุย, แฟนทำแต่งาน, มากรุงเทพก็ยังทำงาน, มีเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อน, ไม่ค่อยสนใจกันเหมือนเมื่อก่อน ไม่ค่อยสวีทกัน เป็นต้น. ช่วงนั้นเราค่อนข้างน้อยใจสามีเรามากเพราะจริงๆเราเป็นคนชอบเก็บตัว (introvert) แต่จะติดสามีเรามากเหมือนชีวิตเรามันมีแค่เค้าคนเดียว สามีเราจะชอบพูดกับเราว่า "ปกติเมื่อก่อนยังอยู่ได้เลย ชอบอยู่คนเดียว ชอบอยู่แต่ห้อง" เราก็เสียใจมากที่เค้าพูดแบบนั้นแต่มันก็จริง หรือจริงๆแล้วเราเรียกร้องจากเค้าเกินไปไหม เราจะถามตัวเองตลอดว่าเรา "เป็นอะไรทำไมต้องทำตัวติดสามีแบบนี้" แล้วมันก็จะรู้สึกวนๆแบบนี้ คือเราจะชอบบ่นสามีที่ทำแบบนี้กับเราแต่พอคุยกันมันก็วนมาที่เราว่าเราทำเกินไปที่อยากให้เค้ามาสนใจเราแบบที่เราต้องการ
6. จนวันเวลาผ่านไป เราเก็บเรื่องราวน้อยใจจากเล็กๆ สะสมไปเรื่อยๆ ก็พยายามอดทนกับเรื่องราวที่เราต้องเหนื่อยใจและตัวในแต่ละวัน ยิ่งอายุครรภ์มากขึ้นก็ยิ่งกังวลเรื่องลูกมากขึ้น สภาพร่างกายก็เปลี่ยนไปมาก ความกลัวก็เกิดขึ้น แล้วเหตุการณ์ที่กังวลก็มา เราต้องผ่าคลอดวันที่ 31 ตุลาคม หรือไม่ก็ต้นเดือนพฤศจิกายน สามีเราก็จะกลับมาช่วงผ่าคลอดแต่เราบอกให้สามีลางานล่วงหน้าเพราะเรากลัวคลอดก่อนกำหนด แต่งานเค้าเยอะมากเลยลาล่วงหน้าไม่ได้ แล้วสรุปเราก็คลอดก่อนกำหนด (35 สัปดาห์) คืนนั้นเราก็อยู่ห้องคนเดียวไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่แค่รู้สึกเหนื่อยๆ ใจสั่นๆ ร้อนๆหนาวๆ เป็นมาหลายวันแล้วแต่คิดว่าเป็นอาการปกติจนคืนนั้นมันไม่ไหวเพราะใจสั่นจนนอนไม่ได้เลย สรุปก็ผ่าคลอดคืนนั้นเพราะหัวใจลูกเต้น 180 ส่วนเราหัวใจเต้น 150 (มีอาการติดเชื้อด้วย) เราผ่าคลอดฉุกเฉินต้องโทรให้แม่เราเซ็นเอกสารและเฝ้าเราหลังคลอด ส่วนสามีเราไม่สนใจเลย งานเยอะจนมาไม่ได้เหมือนเดิม กว่าสามีจะมาหาเราก็ผ่านไป 10 วันหลังผ่าคลอด เราก็ไม่รู้ว่าเราจะน้อยใจได้ไหมหรือมันเป็นเรื่องปกติที่ต้องยอมรับเหมือนที่ผ่านๆมาว่าเค้าทำงานหางานเพื่อครอบครัว
7. เราก็เลี้ยงลูกคนเดียว fulltime เพราะสามียังทำงานต่างจังหวัด จนถึงลูก เราอายุ 2 เดือน สามีตัดสินใจลาออกจากงานเพราะเค้าบอกว่าอยากอยู่กับครอบครัว แต่รอบนี้ที่กลับมาเค้าเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เราก็เข้าใจเพราะสมัยที่ไม่มีลูกมันกฺ็คงจะเหมือนช่วงโปรที่เค้าดีไปหมด แต่พอกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งมันเหมือนเราเป็นคนที่ไม่มีตัวตนในห้อง จริงๆ มันรู้สึกว่ายังอยู่คนเดียว เค้าไม่ค่อยคุย วันๆก็อยู่กับโทรศัพท์ ส่วนเราก็เลี้ยงลูกทั้งวัน
8. จนปัจจุบันสามีเปิดกิจการเป็นของตัวเองที่ทำร่วมกับหุ้นส่วนคนไทย แต่งานเยอะกว่าคนอื่นเพราะว่าเป็นตัวหลักของงาน ซึ่งเค้าไม่มีเวลากับเราเลย ไม่แตกต่างอะไรกับก่อนหน้าที่ตั้งครรภ์แค่ยังดีที่กลับบ้านทุกคืน แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมันเหมือนต่างคนต่างอยู่จริงๆ โดยปกติเค้าจะตื่นตี 5-6 เข้าและลุกไปนั่งคนเดียวอีกห้องและสักพักก็ไปทำงานกว่าจะกลับมาก็เย็นๆดึกๆ และก็อยู่แค่โทรศัพท์แล้วเข้านอนเลย ซึ่งเราไม่ค่อยได้หันหน้าคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย
9. ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจ,เหนื่อย,เบื่อและผิดหวัง ไม่รู้จะไปคุยหรือปรึกษากับใคร อยากระบายค่ะ
- ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่แต่ละคนไหมหรือเราอ่อนไหวเกินไปและคิดมากไปเอง
- เราเอาแต่ใจเกินไปหรือป่าว
- เราจะไปบังคับสามีเกินไปไหม
- บางทีพอเราจะคุยกับสามีก็สงสารเค้าเพราะเห็นเค้าทำงานเยอะ เราเป็นภาระให้เค้าต้องทำงานหนักแบบนี้หรือป่าว เพราะเราก็ไม่ได้ทำงาน
- เรารู้สึกไม่มีคุณค่าเพราะเราต้องเลี้ยงลูก ไม่ได้ทำงาน
- เราอยากกลับไปทำงานแต่พอเราเห็นลูก เราอยากเลี้ยงลูกเราเอง
- บางทีก็อยากเลิกกันไปจะได้จบๆ ที่ผ่านมาเราร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อยมา ยิ่งตอนหลังคลอดความรู้สึกมันหดลงไปหลายๆอย่างๆ
- แต่เรารู้สถานการณ์เราดีว่าถ้าเราเลิกเรายังเริ่มต้นใหม่ยังไม่ไหว
- วันๆ เราเลี้ยงลูกทั้งวันคนเดียวมันเหนื่อยมากเลย อยากได้กำลังใจจากสามี อยากให้เค้าชมเรา อยากให้เค้ามองเราว่าเราเป็นเมียและแม่ของลูกได้ดีที่เค้าต้องการ
- เวลาเราคุยกับเค้ามันเหมือนเค้าคิดแต่เรื่องงานตลอด เค้าจะทำหน้าเหมือนคิดอะไรสักอย่าง เวลาเราถามอะไรไปก็ไม่ตอบหรือตอบช้าเพราะกำลังคิดเรื่องงาน
- เรารู้สึกโดดเดี่ยว ทุกวันนี้มองหน้าลูกก็ยิ้มได้บ้าง เหมือนตอนนี้มีลูกให้กำลังเรา
เป็นกระทู้แรกหากเล่าไม่เข้าใจต้องขอโทษด้วยนะคะ