จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของ KTC แจ้งว่า "ถ้ามีประกันโทรมาเสนอขาย(หลอกขาย) สามารถ ปฎิเสธ แต่หากทำสามารถ บอกชื่อ เลขบัตร วันหมดอายุ ก็เพียงพอแล้ว " มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ!!!! บางครั้งการหลอกขายมีสารพัดวิธีที่ทำให้ผู้บริโภคนั้นหลงเชื่อ ยิ่งทางรายใหม่ๆ ยิ่งโดนกันได้ง่ายๆ
ซึ่งแต่ก่อน จะมีการต้องบอกเลข CVV หลังบัตรด้วย ซึ่งถ้าถึงจุดนั้น เราต้องพิจารณาแล้วว่า ต้องโดนหักเงินแน่ๆ ก็สามารถไหวตัวทัน
มีข้อมูลหลายๆอย่างที่อยากมาแชร์ ดังนี้
1.เราสามารถระงับกับทางบัตรเครดิตได้ว่าไม่ให้ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านทางบัตรเครดิต (อาจจะมีข้อนี้ให้ยินยอมก่อนทำบัตรแล้ว แต่อาจอ่านไม่ถี่ถ้วน)
2.ทางบัตรเครดิต มีพันธมิตรกับบริษัทประกันและโบรกเกอร์ต่างๆด้วย เหตุผลที่ไม่ต้องใช้ CVV หลังบัตร (ว้าวมากเลย จุดนี้หรือเปล่า ความปลอดภัยลดลงไปเรื่อยๆ คุณมีการคัดกรองพันธมิตรของคุณที่ดีหรือเปล่า?)
3.ยอดที่ถูกหักไป ถ้าถึงรอบบิลเเล้ว เราที่ทำเรื่องยกเลิกประกัน แล้วได้เงินคืนไม่ทัน ต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย (พอฟังมาถึงข้อนี้แล้ว สมมุติว่าเป็นการหากินผ่านความผิดพลาดของลูกค้าหรือป่าวนะ คิดเล่นๆ)
****คำถามที่อยากจะถามก็คือ
1. พวกคุณมีมาตรการอย่างไร ที่จะเพิ่มความปลอดภัยกับเรื่องแบบนี้ ถ้าดูตามกระทู้ต่างๆ มีผู้เสียหายไม่น้อย คุณสามารถช่วยได้หรือไม่ หรือว่า เป็นความผิดของลูกค้าทั้งหมดเเล้ว แล้วทางคุณกินดอกเบี้ยโดยไม่ต้องรู้สึกอะไร?
2. ผมมองว่า การยกเลิกประกันเป็นเลิกปกติ ทางคุณไม่ได้ผิดอะไร ใช่!!! แต่อย่ามองข้ามเรื่องความพึงพอใจเด็ดขาด คุณอาจจะเสียลูกค้าดีๆอีกมาก เช่นผมคนนึงรอบนี้พอแล้ว คุณสามารถคุ้มครองลูกค้าดีๆเหล่านี้ได้ไหม หรือจะปฎิบัตเหมือนเดิมเพราะไม่ผิด โดยมองข้ามเรื่องความพึงพอใจไป!!!
ปล.อันนี้ผมโง่เอง เป็นครั้งที่2แล้ว ตัวแทนขายเก่งขึ้นทุกวัน หาข้อมูลได้ลึกสุดๆ ที่ผมโดนรอบนี้คือ การแจ้งให้รับกรมธรรม์ต่อจากอันเดิมที่เคยมี คุ้มครองให้เลย1ปี ........เรียบร้อยครับโดนอีกแล้ว T_T
บัตรเครดิต KTC สามารถทำประกันผ่านมือถือได้โดยไม่ต้องใช้ เลข CVV หลังบัตรแล้ว
ซึ่งแต่ก่อน จะมีการต้องบอกเลข CVV หลังบัตรด้วย ซึ่งถ้าถึงจุดนั้น เราต้องพิจารณาแล้วว่า ต้องโดนหักเงินแน่ๆ ก็สามารถไหวตัวทัน
มีข้อมูลหลายๆอย่างที่อยากมาแชร์ ดังนี้
1.เราสามารถระงับกับทางบัตรเครดิตได้ว่าไม่ให้ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านทางบัตรเครดิต (อาจจะมีข้อนี้ให้ยินยอมก่อนทำบัตรแล้ว แต่อาจอ่านไม่ถี่ถ้วน)
2.ทางบัตรเครดิต มีพันธมิตรกับบริษัทประกันและโบรกเกอร์ต่างๆด้วย เหตุผลที่ไม่ต้องใช้ CVV หลังบัตร (ว้าวมากเลย จุดนี้หรือเปล่า ความปลอดภัยลดลงไปเรื่อยๆ คุณมีการคัดกรองพันธมิตรของคุณที่ดีหรือเปล่า?)
3.ยอดที่ถูกหักไป ถ้าถึงรอบบิลเเล้ว เราที่ทำเรื่องยกเลิกประกัน แล้วได้เงินคืนไม่ทัน ต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย (พอฟังมาถึงข้อนี้แล้ว สมมุติว่าเป็นการหากินผ่านความผิดพลาดของลูกค้าหรือป่าวนะ คิดเล่นๆ)
****คำถามที่อยากจะถามก็คือ
1. พวกคุณมีมาตรการอย่างไร ที่จะเพิ่มความปลอดภัยกับเรื่องแบบนี้ ถ้าดูตามกระทู้ต่างๆ มีผู้เสียหายไม่น้อย คุณสามารถช่วยได้หรือไม่ หรือว่า เป็นความผิดของลูกค้าทั้งหมดเเล้ว แล้วทางคุณกินดอกเบี้ยโดยไม่ต้องรู้สึกอะไร?
2. ผมมองว่า การยกเลิกประกันเป็นเลิกปกติ ทางคุณไม่ได้ผิดอะไร ใช่!!! แต่อย่ามองข้ามเรื่องความพึงพอใจเด็ดขาด คุณอาจจะเสียลูกค้าดีๆอีกมาก เช่นผมคนนึงรอบนี้พอแล้ว คุณสามารถคุ้มครองลูกค้าดีๆเหล่านี้ได้ไหม หรือจะปฎิบัตเหมือนเดิมเพราะไม่ผิด โดยมองข้ามเรื่องความพึงพอใจไป!!!
ปล.อันนี้ผมโง่เอง เป็นครั้งที่2แล้ว ตัวแทนขายเก่งขึ้นทุกวัน หาข้อมูลได้ลึกสุดๆ ที่ผมโดนรอบนี้คือ การแจ้งให้รับกรมธรรม์ต่อจากอันเดิมที่เคยมี คุ้มครองให้เลย1ปี ........เรียบร้อยครับโดนอีกแล้ว T_T