หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว : วัย 50+ ขอสักครั้งที่จีน 7-19 มีนาคม2567 2567 ตอนที่ 3
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
13 มีนาคม 2567
วันนี้ต้องกลับเข้าสนามบินเพื่อบินต่อไปยังสนามบินต้าวเฉิง-ย่าติง ซึ่งก็ลุ้น ๆ กันอยู่ว่าจะลำบากแค่ไหน เพราะป้าไม่ได้ทำการบ้านในส่วนนี้ลุงเป็นคนทำ (เราแบ่งกันป้าทำ 4 ดรุณี-ลุงทำย่าติง) ตอนเที่ยง ก็อุทิศให้การเดินทางอีก 1 วันไปเลย ก็ดูจะไม่มีปัญหาใด ๆ นะ จนกระทั่งไปนั่งรอในเล้าจน์ของเฉสวนแอร์ไลน์ ก็สังเกตว่าเป้ลุงหายไปไหน เอาละสิงานเข้าละทีนี้ทุกอย่างอยู่ในนั้น ยกเว้นพาสปอร์ตและโทรศัพท์ที่ยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ที่สำคัญสุด ๆ คือยาที่ลุงต้องทานทุก ๆ วัน และกระเป๋าตังค์ที่ไม่ค่อยมีตังค์มีแต่บัตรต่าง ๆ นอกนั้นก็เป็น มาม่าคัพ+กล้วย+ขวดน้ำเปล่า ประเด็นคือเราผูกอารีเพลไว้กับบัตรพวกนั้น จะอายัตก็ไม่ได้ ปวดตับเลยทีนี้ ลุงให้ป้านั่งรอตรงนั้นเพราะป้าช้าและก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากจะเป็นห่วงรู้ว่าอยู่ที่ปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วง..... ส่วนลุงหาคนคุยที่รู้เรื่องคือพนักงานสายการบินนั้นแหละ น้องดีมากพาไปที่ที่คิดว่าจะหาย พาไปแจ้งความ ทำโน้นนี่นั่น แล้วก็นัดกันว่าวันที่พวกเรากลับเข้ามาสนามบินอีกครั้งค่อยตามเรื่อง (เราเองไม่มีเวลาด้วยเครื่องจะออกอยู่อีกไม่กี่นาทีแล้วด้วย ถ้าตามเรื่องเลยไม่ไปต่อก็อาจจะได้เรื่องวันนั้นเลย) สรุปคือน้องพนักงานก็บอกลุงว่าให้รีบๆ ทานข้าวจะให้เวลา 5 นาทีที่เหลือ อึกอักละทีนี้ขึ้นเครื่องเป็น 2 คนสุดท้ายเลย ก็เดินทางกันด้วยความไม่สบายใจสุด ๆ เหมือนกัน แต่ก็ต้องตัดใจให้เร็วที่สุดเพื่อไปต่อให้ได้ พอถึงสนามบินเราก็เจอทหารหรือตำรวจไม่รู้ เดินมาขอดูพาสปอร์ต ที่พัก เบอร์โทร เอาละเริ่ม ยังไงละนะ (ความรู้สึกมันบอก) แต่ก็ไม่มีอะไรเราก็เลยถามว่าเราจะนั่งรถบัสไปต้าวเฉิงได้ที่ไหน ด้วยวิธีแปลภาษา เขาก็พาเรามาขึ้นรถแล้วก็บอกคนขับว่าถึงจุดหมายเราค่ารถบัสมาต้าวเฉิงคนละ 35 หยวน (ตอนขั้นรถบัสลงมาจากสนามบินจะมีด่านด้วย ต่างชาติต้องลงทะเบียนที่พัก ไปไหน ถ่ายรูปพาสปอร์ตด้วยนะ ) แต่ เราต้องต่อด้วยแท็กซี่ไปย่าติงอีกประมาณ 75 กม. ซึ่งตรงนี้แหละปัญหาบังเกิดอีก ที่อ่านมาคือ 50 หยวน แต่จริง ๆ นั่นคือราคาที่มีคนแชร์ด้วย ถ้าเหมาก็ 200 หยวน อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยประทับใจมาก ๆ เพราะพอลงจากรถบัส แท็กซี่พวกนี้ก็เหมือนแร้งลงยังไงไม่รู้ (ไม่รู้คิดไปเองไหมนะ และก็คิดว่าน่าจะเป็นกับบางคันเท่านั้นไม่ได้เหมารวมนะ) มันอึดอัดมากทั้งความลุมของพวกเขา ความพูดกันไม่รู้เรื่อง ความ ที่เราเจอเหตุการณ์มาก่อนหน้านั้นคือ ตึงไปหมด ลุงพร้อมบวกมากตอนนี้ และก็เหมือนจะโชคดีน้องที่นั่งรถอีกคันที่รอคนแชร์เหมือนกันพูดภาษาอังกฤษได้ ตกลงเราก็ไปราคา 70 หยวนต่อคน แต่ก็นั่นแหละเมื่อมันเป็นธุรกิจไปแล้วน้องเขาก็ดูพูดมากเหมือนเขาตกลงกันที่เราฟังไม่ออกกับคนขับ สรุปเราจ่ายไป 2 คน 150 แล้วก็ยังมีการมาบอกอีกว่าขากลับให้เรียกเขา (อยากจะบอกว่ากูเบื่อโคตร ๆเลย...แค่คิดในใจนะ) เขายังไม่พอใจนะไปคุยกับน้องที่โรงแรมที่เราพักอีกขอดูเที่ยวบินขากลับด้วย อึ่ม (ขอกูไปถึงก่อนเต๊อะน่อ) เผลอ ๆ นะน้องนั่นไม่จ่ายสักบาทเป็นล่ามให้เขาแล้วนี่
กว่าจะถึงที่พักได้แทบลมจับ...พักแป๊ปปปปแล้วก็ชวนกันมาเดินดูเมืองเพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกาย เอาละปัญหาต่อไปเรื่องอาหาร จะกินอะไรได้บ้าง ดีนะที่ยอมแบกส้มมาจากเฉิงตูและลูกแพรที่ได้มาจากสนามบิน โรงแรมไม่มีร้านอาหารด้วย ไม่งั้นก็สั่งพวกไข่ทอดไข่ดาวได้บ้าง ถูกใจร้านหนึ่ง ลองสั้งมาดูมันคือผัดผักลาดข้าวเอาแบบกล่องไปทานในห้องนอนอุ่น ๆ ดีกว่า......นั่นแหละคือต้องถ่ายรูปไว้พรุ่งนี้จะกินแบบนี้อีกแหละเพราะอื่น ๆ ไม่ไหวจริง ๆ ไม่รู้มาถึงจุดที่ต้องถ่ายรูปโชว์เขาว่าจะกินอะไร เอายังไง เพราะบางคนภาษีจีนเขายังต้องเรียกคนอื่นมาอ่านให้เพราะเขารู้แต่ภาษาทิเบต เอ่อออออออออ.....ไม่ยากมื้อต่อไปก็เอาผิดผักนี้แหละ แล้วก็หารูปข้าวสวยเปล่า ๆ ในกล่อง บอกจะเอาอย่างนี้แค่นั้นเอง ....ส่วนของโรงแรมไม่มีปัญหาใด ๆ เราจองไว้แค่คืนแรกถ้าไม่ไหวค่อยเปลี่ยนสรุปเรานอนที่เดิม 3 คืนเลย ก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้เราจะไปย่าติงช่วยเรียกแท็กซี่ให้ด้วย ตอน 9.00 น.
สำหรับวันนี้หมดแรงแล้วจริง ๆ
14 มีนาคม 2567
วันนี้เราออกตอน 9.00 น. ด้วยแท็กซี่ เหมา 40 หยวนเข้าอุทยานตอนเย็นนัดน้องมารับด้วยตอน 17.00 น. โดยแปบให้เขาแต่น้องคนนี้ดีไม่พูดมาก ถูกจริตด้วย เดินเข้าอุทยานไปขึ้นลิฟท์ ไปชั้น 4 คือขายตั๋ว มีคนทักทายด้วยไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาเป็นใครก็ทักหลายภาษานะแล้วก็สวัสดีครับชัดเจนป้าก็สวัสดีค่ะตอบเขาดีใจใหญ่เลย เราได้ตั๋วในราคา 360 หยวน สำหรับ 2 คน ทุก ๆ อย่าง (เข้าใจว่าช่วงโล น่าจะถูกกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละอะไร ๆ ก็ขึ้นราคา) เวรอีกละเจอน้องที่แชร์แท๊กซี่มาจากต้าวเฉิงด้วยกันพูดอยู่นั่นแหละอย่าลืมวันกลับให้โทรหาเขา (เรื่องไร ฉันจะต้องไปขึ้นอยู่กับเธอฉันเลือกได้ป๊ะ...คิดในใจ) ยังไม่รวมรถกะเปาะนะ แต่เจ้าหน้าที่ช่วยอย่างดีนะ อาจจะคนน้อยด้วย ขอบอกเรื่องการใช้สแกน บางที่บางอย่างอาจจะสแกนไม่ได้นะ ด้วยเราไม่มี วีแชชด้วย อารีเพลใช้ไม่ได้ไม่รู้เพราะอะไร เราต้องใช้เงินสดซื้อทั้งหมด บางที่เครื่องสแกนมันก็ให้เราสแกนหรือมันก็จะสแกนเรา *****(การใช้วิธีสแกนพวกนี้ดูเหมือนว่าถ้าเกิน 200 หยวนจะต้องมีค่าธรรมเนียมด้วยไม่รู้เรียกถูกไหม แต่ถ้าใช้ 2money ไม่ต้องจ่ายแต่ก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนวันนั้น ๆ ได้เลย แล้วดูเหมือนจะใช้ได้ทุกที่ด้วย ส่วนแท็กซี่เขาใช้วีแชชเป็นส่วนมากหรือทั้งหมดเลย)*** ......อีกอย่างที่อยากจะบอกมาก ๆ สำหรับคนที่จะไปที่นี่ กรุณาเข้าห้องน้ำที่ตรงที่ขายตั๋วนี้เลยเพราะดูสะอาดกว่าที่อื่น ๆ ถ้าหวังจะไปเข้าที่อื่น ตรงที่ลงรถบัส ขอร้องมันโคตรเหม็น แล้วไม่มีน้ำด้วย อยากร้องไห้ ...............พอได้ตั๋วมาแล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสถ้าเราต่างชาติต้องลงทะเบียนและให้เบอร์โทรไว้ด้วยนะ แต่กระดาษที่ให้ลงทะเบียนเป็นภาษาจีนหมด หงะ... ต้องท่องไว้เลยอันแรกคือชื่อ เลขพาสปอร์ต เบอร์โทรก็มั่ว ๆ ไป แฮ่ๆๆ ก็เดินขึ้นรถไปเต็มก็รอคันต่อไปได้จ่อรออยู่แล้วไม่นานเมื่อคนเต็มก็ออก แต่การขับคือเอ่อเส้วเสววววววววววววไม่แน่จริงทานยาแก้เมาด้วยเด้อพี่น้อง.......................อมบ๊วยหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เรากลืนน้ำลายได้บ่อย ๆจะช่วยได้เยอะเลย พอลงรถบัส.......ไม่ปวดจริงๆไม่ต้องเข้านะห้องน้ำเมาแน่นอน.........หลังจากลงรถก็เป็นเส้นทางที่เรากำหนดเองละใครเดินไปอีก ประมาณ 500 เมตร ที่เต็มไปด้วยลิงผู้หิวโหย อันนี้คือที่ป้าไม่ปลื้มสุดๆ แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คุมตลอดเส้นทางโดยถือหนังสติ๊กไว้ยิงพวกมัน ดูเหมือนช่วงเช้าขาขึ้นไปจะเยอะจะมีเจ้าหน้าที่บอกตลอกเพียงแต่เราฟังไม่ออก พยายามเดินไปเป็นกลุ่มแล้วกัน อย่าหาที่จะควักอะไรออกมาเชียวจมูกดีมาก ...พอเดินถึงก็เป็นทางที่เรากำหนดเองละว่าเราจะไปต่อด้วยรถกะเปาะคนละ 70 หยวนไป-กลับ หรือไม่อยากเสียตังค์ก็เดินแยกเข้าวัดไป (แต่เชื่อเถอะต้องไปทั้ง 2 รูทหมดแหละ เพียงแต่จะไปทั้ง 2 ที่ ในวันเดียวหรือ ชิล ๆ ไปที่ละวัน) ถ้าไปต่อด้วยรถเขาก็จะบอกว่าขึ้นได้ถึงไหนเพราะช่วงนี้คือเป็นช่วงปิดประจำปีเขา
เอ่อ เราลงมาช้าไป 17 นาที น้องที่นัดมารับไปไหนไม่รู้ละ ก็เข้าใจได้นะ เราก็เรียกรถคันอื่น ซึ่งก็หลีกไม่พ้นรถคนที่นั่งมาจากต้าวเฉิงแหละ เอ่อโลกแคบก็ตอนนี้อีกแหละ จ่าย 40 หยวนค่ำละขี้เกียจรอคนแชร์ คำคานพวกนี้ด้วย อยากกลับไปพัก
15 มีนาคม 2567
โรงแรมเรียกแท็กซี่คันเดินที่ไปส่งเมื่อวานให้ 40 หยวน เขาถามจะให้รอรับตอนเย็นไหม เราบอกไม่ต้องไม่รู้เราจะลงมากี่โมง (ไม่อยากผูกมัดแหละ) วันนี้เราไปวัดชงกู่ระยะทางสั้น คิดว่าแป๊ป ๆ แต่ที่ไหนได้มันไม่ได้ง่ายเลยนะ เราเลือกเดินเข้าไปทางในวัดแทนทางเดินที่สะดวกที่เขาทำไว้ให้เพราะมันดูเหมือนปีนกะไดอย่างเดียว อันนี้แล้วแต่นะว่าแต่ละคนสะดวกอย่างไร เพราะจริง ๆ มันก็จะไปเจอกันแหละ ส่วนเราเลือกเดินออกประตูหลังวัดแล้วเดินขึ้นไปทางไม่สะดวกนักแต่ป้ามีความรู้สึกว่ามันสั้นกว่า อดทนนะ เพราะทางไม่ได้เปิดตลอดเวลา ต้องไปให้ถึงเป็นจุด ๆ ไปอย่าเพิ่งถอดใจ แต่บอกเลยว่าวิวที่ได้คือวิวมหาชนที่ทุกคนไปต้องมี และถ้าไหวก็เดินต่ออีก320 เมตร ก็จะได้วิวที่คิดว่าใกล้ที่สุด อย่างสวยเลยแหละ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะถ่ายรูปกันตรงทะเลสาบ ขอร้องละให้เดินต่อรอบ ๆ ทะเลสาบมีว้าวได้อีก
ระหว่างนั้นเราได้รับแจ้งจากสายการบินว่าจะยกเลิกเที่ยวบินเที่ยวที่เราจะกลับเข้าเฉิงตูวันที่ 18 กัน ไม่รู้มันเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย ......แต่เราสามารถเปลี่ยนตั๋วได้ 1 ครั้ง เราก็เลยคุยกันว่ามันไม่มีอะไรแล้วนิ น่าจะกลับไปให้เร็ว ๆ ไม่รู้จะไปไหนต่อละงั้นเรากลับวันที่ 16 แล้วกันถ้ามันเป็นไปได้ ก็คุยผ่าน Trip.com อันนี้ขอให้คะแนนเขานะเขาดูแลเราได้ดีกว่าเจ้าอื่นจริงๆ แจ้งเราแบบไม่ต้องรอนานได้เลย ให้คะแนนแบบไม่มีหักนะ ตามนั้นจะได้มีเวลาลั้นลาที่เฉิงตูอีก 1 วันแบบชิลๆๆๆ เราแจ้งโรงแรมว่าเราจะออกวันที่ 16 เช้าเลยเพื่อไปนอนที่ต้าวเฉิงเตรียมตัวไปสนามบินเพราะเที่ยวบินเช้า (ทางไปสนามบินก็นะไกลเหลือเกิน)
16 มีนาคม 2567
โรงแรมก็ให้น้องทิเบตนั้นแหละไปส่ง จ่ายเหมา ๆ 200 หยวน แล้วโรงแรมถามว่าทำไมไม่เอาคนที่มาส่งตอนแรกพวกเราทำหน้าแบบ ซึ่งคิดว่าเขาเข้าใจก็ได้แต่หัวเราะกัน ระยะทาง 75 กม. แต่อย่างว่าระหว่างทางคือไม่เคยเห็นไม่เคยเจอสวยตลอดทาง มาถึงต้าวเฉิงน้องแท็กซี่ก็พาไปหาโรงแรมที่เราจองไว้โทรหาคุย เขาถามว่าจะให้รับไปสนามบินไหม 200 หยวนเราว่าแพงไป เดี๋ยวเราให้โรงแรมหารถให้
เมืองต้าวเฉิงที่จริงพวกเราว่าน่าอยู่นะใหญ่ เป็นเหมือนเมืองที่ผู้คนต่างเมืองเข้ามาจับจ่ายซื้อของน่าจะเป็นเมืองค้าขายของย่านนี้ แต่...แต่เราไม่โอเครกะโรงแรม น้ำเย็นตลอด (ไม่อยากจะบอกว่าพวกเราไม่อาบน้ำฮ่า ๆ ) เมืองนี้หนาว ๆ มากกว่าทุก ๆ ที่ที่ผ่านมาในครั้งนี้ละคุยกะน้องต้อนรับโรงแรมซึ่งหน้าออกจะไม่รับแขกตลอด เราขอเขาเรียกแท็กซี่ให้พรุ่งนี้ตอน 7.00 ราคา 200 เราก็ตกลงตามนั้น ลงมาเพื่อรับคำยืนยัน 2-3 ครั้งไม่เคยเจอ แอบบ่นกันว่าพรุ่งนี้
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ซินเจียงอีกครั้งประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่า ระหว่างวันที่ 15-30 ตุลาคม 2568 (7)
27 ตุลาคม 2568 วันนี้ตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารสำหรับเดินทาง (กาแฟ น้ำร้อน ของหวานที่พกมาด้วยคือกล้วยตาก ช่วยได้เวลาไม่มีเวลาทานข้าว ทานกับน้ำชา หรือกาแฟได้อยู่) เก็บกระเป๋า (กระเป๋าทั้งหมดเอาไว้ที่ รร.
วันใหม่1234
成都+九寨沟+黄龙 เที่ยวคนเดียวก็ฟินได้ (รีวิว) part1
สวัสดีค่าา นี่เป็นการเขียนเล่าเรื่องอะไรแบบนี้ครั้งแรกของฉัน (ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้นะที่นี่ด้วยนะคะ) การเดินทางครั้งนี้เกิดจากการที่ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวหลังเรียนจบกับเพื่อนๆ แต่ก็ปัญหานิดหน
สมาชิกหมายเลข 2463605
ฤดูใบไม้ร่วงที่ฮาร์บิน,ฉางชุนและฉางไป๋ซาน
เราเดินทางสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมที่ผ่านมาครับ 23-31 ตุลาคม 2568 คราวนี้เราตั้งใจไปฉางชุนครับ ภูเขาหิมะฉางไป๋ซาน .ฉางชุนเป็นเมืองเอกของมณฑลจี๋หลินซึ่งเป็นหนึ่งในสามมณฑลของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเ
คุณหมูยอ
ปฏิวัติการขนส่งแห่งโลกอนาคต ให้เครื่องบิน,รถไฟ,รถบัสเป็นยานพาหนะสนับสนุนการเดินทางแก่กันและกัน ไม่เป็นคู่แข่งกัน
หลายคนมองว่ารถไฟความเร็วสูงเป็นคู่แข่งของรถบัส เครื่องบินก็เป็นคู่แข่งกับรถไฟความเร็วสูง ซึ่งในบางกรณี ยานพาหนะเหล่านี้ก็สามารถเป็นคู่แข่งกันได้ เพราะอย่างเครื่องบินก็สามารถเดินทางให้ถึงเป้าหมายในระยะ
สมาชิกหมายเลข 4764697
พักร้อนพักใจ เกาะฟูก๊วก 4 D 3 N ในงบ 10,xxx
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว BP ทุกท่าน รอบนี้จะมารีวิวทริปเกาะฟูก๊วก เราเดินทางกันเดือนสค ที่ผ่านมา รอบนี้เราใช้บริการสายการบิน Thai VietJet Air(แอบกังวลนิดนึงเป็นครั้งแรกที่บิน สกบ นี้ได้ยินว่าดีเลย์บ่อยมั๊ก
Destiny99
ซินเจียงอีกครั้งประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่า ระหว่างวันที่ 15-30 ตุลาคม 2568 (5)
24 ตุลาคม 2568 ออกสายนิ๊ดนึ่ง วันนี้ต้องเดินทางอีกแล้วซื้อตั๋วรถไฟ ตัวดี เส้นทางอุรุมชีถึงถูลู่ฟาน เพื่อไปขึ้นเครื่องที่นั่นจุดหมายคือคัชการ์ มีเวลาทั้งวัน เมื่อวานเตร่สถานีรถไปละ วันนี้จะเตร่แถวหน้า
วันใหม่1234
ซินเจียงอีกครั้งประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่า ระหว่างวันที่ 15-30 ตุลาคม 2568 (3)
วันที่ 19 ตุลาคม 2568 วันนี้เป็นวันเดินทาง จะออกจากคานาสเพื่อไปเหอมู่ โดยโรงแรมจัดหารถให้เป็นรถแชร์กัน เขามารับตอน 10.00 น. ขอบอกระหว่างทางคือวิวดีแบบดีมาก ถึงเหอมู่บ่าย ๆ เข้าที่พัก และเที่ยวต่อไปเ
วันใหม่1234
ซินเจียงอีกครั้งประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่า ระหว่างวันที่ 15-30 ตุลาคม 2568 (1)
สวัสดีทุกคน วันที่ 15 ตุลาคม 2568 วันนี้เป็นวันที่พวกเราจะต้องเดินทางกันอีกครั้ง ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เป็นไปตามแผนและประสบการณ์ที่ผ่าน ๆ มา เดินทางค่ำ ๆ ของวัน ไม่ใช่สิ ดึกๆ ของวันจุดหมายคือ สนามบิ
วันใหม่1234
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (1)
ได้ฤกษ์งามยามดีอีกครั้งสำหรับการเปิดประสบการณ์ในจีนของลุงกะป้า ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 16-29 พฤศจิกายน 2567 เริ่มต้นที่ กทม. (บ้านอยู่เจียงใหม่เจ้า) 16 พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากเที่ยวบินขอ
วันใหม่1234
สนามบินนราธิวาสมีแท็กซี่ไป อำเภอจะแนะ มั้ย
ขอถามหน่อยนะครับ ที่สนามบินนราธิวาส มีรถแท็กซี่ ไปอำเภอ จะแนะ มั้ยครับ ราคาค่ารถเท่าไหร่ ครับ
สมาชิกหมายเลข 9118198
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว : วัย 50+ ขอสักครั้งที่จีน 7-19 มีนาคม2567 2567 ตอนที่ 3
วันนี้ต้องกลับเข้าสนามบินเพื่อบินต่อไปยังสนามบินต้าวเฉิง-ย่าติง ซึ่งก็ลุ้น ๆ กันอยู่ว่าจะลำบากแค่ไหน เพราะป้าไม่ได้ทำการบ้านในส่วนนี้ลุงเป็นคนทำ (เราแบ่งกันป้าทำ 4 ดรุณี-ลุงทำย่าติง) ตอนเที่ยง ก็อุทิศให้การเดินทางอีก 1 วันไปเลย ก็ดูจะไม่มีปัญหาใด ๆ นะ จนกระทั่งไปนั่งรอในเล้าจน์ของเฉสวนแอร์ไลน์ ก็สังเกตว่าเป้ลุงหายไปไหน เอาละสิงานเข้าละทีนี้ทุกอย่างอยู่ในนั้น ยกเว้นพาสปอร์ตและโทรศัพท์ที่ยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ที่สำคัญสุด ๆ คือยาที่ลุงต้องทานทุก ๆ วัน และกระเป๋าตังค์ที่ไม่ค่อยมีตังค์มีแต่บัตรต่าง ๆ นอกนั้นก็เป็น มาม่าคัพ+กล้วย+ขวดน้ำเปล่า ประเด็นคือเราผูกอารีเพลไว้กับบัตรพวกนั้น จะอายัตก็ไม่ได้ ปวดตับเลยทีนี้ ลุงให้ป้านั่งรอตรงนั้นเพราะป้าช้าและก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากจะเป็นห่วงรู้ว่าอยู่ที่ปลอดภัยก็ไม่ต้องห่วง..... ส่วนลุงหาคนคุยที่รู้เรื่องคือพนักงานสายการบินนั้นแหละ น้องดีมากพาไปที่ที่คิดว่าจะหาย พาไปแจ้งความ ทำโน้นนี่นั่น แล้วก็นัดกันว่าวันที่พวกเรากลับเข้ามาสนามบินอีกครั้งค่อยตามเรื่อง (เราเองไม่มีเวลาด้วยเครื่องจะออกอยู่อีกไม่กี่นาทีแล้วด้วย ถ้าตามเรื่องเลยไม่ไปต่อก็อาจจะได้เรื่องวันนั้นเลย) สรุปคือน้องพนักงานก็บอกลุงว่าให้รีบๆ ทานข้าวจะให้เวลา 5 นาทีที่เหลือ อึกอักละทีนี้ขึ้นเครื่องเป็น 2 คนสุดท้ายเลย ก็เดินทางกันด้วยความไม่สบายใจสุด ๆ เหมือนกัน แต่ก็ต้องตัดใจให้เร็วที่สุดเพื่อไปต่อให้ได้ พอถึงสนามบินเราก็เจอทหารหรือตำรวจไม่รู้ เดินมาขอดูพาสปอร์ต ที่พัก เบอร์โทร เอาละเริ่ม ยังไงละนะ (ความรู้สึกมันบอก) แต่ก็ไม่มีอะไรเราก็เลยถามว่าเราจะนั่งรถบัสไปต้าวเฉิงได้ที่ไหน ด้วยวิธีแปลภาษา เขาก็พาเรามาขึ้นรถแล้วก็บอกคนขับว่าถึงจุดหมายเราค่ารถบัสมาต้าวเฉิงคนละ 35 หยวน (ตอนขั้นรถบัสลงมาจากสนามบินจะมีด่านด้วย ต่างชาติต้องลงทะเบียนที่พัก ไปไหน ถ่ายรูปพาสปอร์ตด้วยนะ ) แต่ เราต้องต่อด้วยแท็กซี่ไปย่าติงอีกประมาณ 75 กม. ซึ่งตรงนี้แหละปัญหาบังเกิดอีก ที่อ่านมาคือ 50 หยวน แต่จริง ๆ นั่นคือราคาที่มีคนแชร์ด้วย ถ้าเหมาก็ 200 หยวน อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยประทับใจมาก ๆ เพราะพอลงจากรถบัส แท็กซี่พวกนี้ก็เหมือนแร้งลงยังไงไม่รู้ (ไม่รู้คิดไปเองไหมนะ และก็คิดว่าน่าจะเป็นกับบางคันเท่านั้นไม่ได้เหมารวมนะ) มันอึดอัดมากทั้งความลุมของพวกเขา ความพูดกันไม่รู้เรื่อง ความ ที่เราเจอเหตุการณ์มาก่อนหน้านั้นคือ ตึงไปหมด ลุงพร้อมบวกมากตอนนี้ และก็เหมือนจะโชคดีน้องที่นั่งรถอีกคันที่รอคนแชร์เหมือนกันพูดภาษาอังกฤษได้ ตกลงเราก็ไปราคา 70 หยวนต่อคน แต่ก็นั่นแหละเมื่อมันเป็นธุรกิจไปแล้วน้องเขาก็ดูพูดมากเหมือนเขาตกลงกันที่เราฟังไม่ออกกับคนขับ สรุปเราจ่ายไป 2 คน 150 แล้วก็ยังมีการมาบอกอีกว่าขากลับให้เรียกเขา (อยากจะบอกว่ากูเบื่อโคตร ๆเลย...แค่คิดในใจนะ) เขายังไม่พอใจนะไปคุยกับน้องที่โรงแรมที่เราพักอีกขอดูเที่ยวบินขากลับด้วย อึ่ม (ขอกูไปถึงก่อนเต๊อะน่อ) เผลอ ๆ นะน้องนั่นไม่จ่ายสักบาทเป็นล่ามให้เขาแล้วนี่
กว่าจะถึงที่พักได้แทบลมจับ...พักแป๊ปปปปแล้วก็ชวนกันมาเดินดูเมืองเพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกาย เอาละปัญหาต่อไปเรื่องอาหาร จะกินอะไรได้บ้าง ดีนะที่ยอมแบกส้มมาจากเฉิงตูและลูกแพรที่ได้มาจากสนามบิน โรงแรมไม่มีร้านอาหารด้วย ไม่งั้นก็สั่งพวกไข่ทอดไข่ดาวได้บ้าง ถูกใจร้านหนึ่ง ลองสั้งมาดูมันคือผัดผักลาดข้าวเอาแบบกล่องไปทานในห้องนอนอุ่น ๆ ดีกว่า......นั่นแหละคือต้องถ่ายรูปไว้พรุ่งนี้จะกินแบบนี้อีกแหละเพราะอื่น ๆ ไม่ไหวจริง ๆ ไม่รู้มาถึงจุดที่ต้องถ่ายรูปโชว์เขาว่าจะกินอะไร เอายังไง เพราะบางคนภาษีจีนเขายังต้องเรียกคนอื่นมาอ่านให้เพราะเขารู้แต่ภาษาทิเบต เอ่อออออออออ.....ไม่ยากมื้อต่อไปก็เอาผิดผักนี้แหละ แล้วก็หารูปข้าวสวยเปล่า ๆ ในกล่อง บอกจะเอาอย่างนี้แค่นั้นเอง ....ส่วนของโรงแรมไม่มีปัญหาใด ๆ เราจองไว้แค่คืนแรกถ้าไม่ไหวค่อยเปลี่ยนสรุปเรานอนที่เดิม 3 คืนเลย ก็บอกเขาว่าพรุ่งนี้เราจะไปย่าติงช่วยเรียกแท็กซี่ให้ด้วย ตอน 9.00 น.
สำหรับวันนี้หมดแรงแล้วจริง ๆ
14 มีนาคม 2567
วันนี้เราออกตอน 9.00 น. ด้วยแท็กซี่ เหมา 40 หยวนเข้าอุทยานตอนเย็นนัดน้องมารับด้วยตอน 17.00 น. โดยแปบให้เขาแต่น้องคนนี้ดีไม่พูดมาก ถูกจริตด้วย เดินเข้าอุทยานไปขึ้นลิฟท์ ไปชั้น 4 คือขายตั๋ว มีคนทักทายด้วยไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาเป็นใครก็ทักหลายภาษานะแล้วก็สวัสดีครับชัดเจนป้าก็สวัสดีค่ะตอบเขาดีใจใหญ่เลย เราได้ตั๋วในราคา 360 หยวน สำหรับ 2 คน ทุก ๆ อย่าง (เข้าใจว่าช่วงโล น่าจะถูกกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละอะไร ๆ ก็ขึ้นราคา) เวรอีกละเจอน้องที่แชร์แท๊กซี่มาจากต้าวเฉิงด้วยกันพูดอยู่นั่นแหละอย่าลืมวันกลับให้โทรหาเขา (เรื่องไร ฉันจะต้องไปขึ้นอยู่กับเธอฉันเลือกได้ป๊ะ...คิดในใจ) ยังไม่รวมรถกะเปาะนะ แต่เจ้าหน้าที่ช่วยอย่างดีนะ อาจจะคนน้อยด้วย ขอบอกเรื่องการใช้สแกน บางที่บางอย่างอาจจะสแกนไม่ได้นะ ด้วยเราไม่มี วีแชชด้วย อารีเพลใช้ไม่ได้ไม่รู้เพราะอะไร เราต้องใช้เงินสดซื้อทั้งหมด บางที่เครื่องสแกนมันก็ให้เราสแกนหรือมันก็จะสแกนเรา *****(การใช้วิธีสแกนพวกนี้ดูเหมือนว่าถ้าเกิน 200 หยวนจะต้องมีค่าธรรมเนียมด้วยไม่รู้เรียกถูกไหม แต่ถ้าใช้ 2money ไม่ต้องจ่ายแต่ก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนวันนั้น ๆ ได้เลย แล้วดูเหมือนจะใช้ได้ทุกที่ด้วย ส่วนแท็กซี่เขาใช้วีแชชเป็นส่วนมากหรือทั้งหมดเลย)*** ......อีกอย่างที่อยากจะบอกมาก ๆ สำหรับคนที่จะไปที่นี่ กรุณาเข้าห้องน้ำที่ตรงที่ขายตั๋วนี้เลยเพราะดูสะอาดกว่าที่อื่น ๆ ถ้าหวังจะไปเข้าที่อื่น ตรงที่ลงรถบัส ขอร้องมันโคตรเหม็น แล้วไม่มีน้ำด้วย อยากร้องไห้ ...............พอได้ตั๋วมาแล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสถ้าเราต่างชาติต้องลงทะเบียนและให้เบอร์โทรไว้ด้วยนะ แต่กระดาษที่ให้ลงทะเบียนเป็นภาษาจีนหมด หงะ... ต้องท่องไว้เลยอันแรกคือชื่อ เลขพาสปอร์ต เบอร์โทรก็มั่ว ๆ ไป แฮ่ๆๆ ก็เดินขึ้นรถไปเต็มก็รอคันต่อไปได้จ่อรออยู่แล้วไม่นานเมื่อคนเต็มก็ออก แต่การขับคือเอ่อเส้วเสววววววววววววไม่แน่จริงทานยาแก้เมาด้วยเด้อพี่น้อง.......................อมบ๊วยหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เรากลืนน้ำลายได้บ่อย ๆจะช่วยได้เยอะเลย พอลงรถบัส.......ไม่ปวดจริงๆไม่ต้องเข้านะห้องน้ำเมาแน่นอน.........หลังจากลงรถก็เป็นเส้นทางที่เรากำหนดเองละใครเดินไปอีก ประมาณ 500 เมตร ที่เต็มไปด้วยลิงผู้หิวโหย อันนี้คือที่ป้าไม่ปลื้มสุดๆ แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คุมตลอดเส้นทางโดยถือหนังสติ๊กไว้ยิงพวกมัน ดูเหมือนช่วงเช้าขาขึ้นไปจะเยอะจะมีเจ้าหน้าที่บอกตลอกเพียงแต่เราฟังไม่ออก พยายามเดินไปเป็นกลุ่มแล้วกัน อย่าหาที่จะควักอะไรออกมาเชียวจมูกดีมาก ...พอเดินถึงก็เป็นทางที่เรากำหนดเองละว่าเราจะไปต่อด้วยรถกะเปาะคนละ 70 หยวนไป-กลับ หรือไม่อยากเสียตังค์ก็เดินแยกเข้าวัดไป (แต่เชื่อเถอะต้องไปทั้ง 2 รูทหมดแหละ เพียงแต่จะไปทั้ง 2 ที่ ในวันเดียวหรือ ชิล ๆ ไปที่ละวัน) ถ้าไปต่อด้วยรถเขาก็จะบอกว่าขึ้นได้ถึงไหนเพราะช่วงนี้คือเป็นช่วงปิดประจำปีเขา
เอ่อ เราลงมาช้าไป 17 นาที น้องที่นัดมารับไปไหนไม่รู้ละ ก็เข้าใจได้นะ เราก็เรียกรถคันอื่น ซึ่งก็หลีกไม่พ้นรถคนที่นั่งมาจากต้าวเฉิงแหละ เอ่อโลกแคบก็ตอนนี้อีกแหละ จ่าย 40 หยวนค่ำละขี้เกียจรอคนแชร์ คำคานพวกนี้ด้วย อยากกลับไปพัก
15 มีนาคม 2567
โรงแรมเรียกแท็กซี่คันเดินที่ไปส่งเมื่อวานให้ 40 หยวน เขาถามจะให้รอรับตอนเย็นไหม เราบอกไม่ต้องไม่รู้เราจะลงมากี่โมง (ไม่อยากผูกมัดแหละ) วันนี้เราไปวัดชงกู่ระยะทางสั้น คิดว่าแป๊ป ๆ แต่ที่ไหนได้มันไม่ได้ง่ายเลยนะ เราเลือกเดินเข้าไปทางในวัดแทนทางเดินที่สะดวกที่เขาทำไว้ให้เพราะมันดูเหมือนปีนกะไดอย่างเดียว อันนี้แล้วแต่นะว่าแต่ละคนสะดวกอย่างไร เพราะจริง ๆ มันก็จะไปเจอกันแหละ ส่วนเราเลือกเดินออกประตูหลังวัดแล้วเดินขึ้นไปทางไม่สะดวกนักแต่ป้ามีความรู้สึกว่ามันสั้นกว่า อดทนนะ เพราะทางไม่ได้เปิดตลอดเวลา ต้องไปให้ถึงเป็นจุด ๆ ไปอย่าเพิ่งถอดใจ แต่บอกเลยว่าวิวที่ได้คือวิวมหาชนที่ทุกคนไปต้องมี และถ้าไหวก็เดินต่ออีก320 เมตร ก็จะได้วิวที่คิดว่าใกล้ที่สุด อย่างสวยเลยแหละ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะถ่ายรูปกันตรงทะเลสาบ ขอร้องละให้เดินต่อรอบ ๆ ทะเลสาบมีว้าวได้อีก
ระหว่างนั้นเราได้รับแจ้งจากสายการบินว่าจะยกเลิกเที่ยวบินเที่ยวที่เราจะกลับเข้าเฉิงตูวันที่ 18 กัน ไม่รู้มันเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย ......แต่เราสามารถเปลี่ยนตั๋วได้ 1 ครั้ง เราก็เลยคุยกันว่ามันไม่มีอะไรแล้วนิ น่าจะกลับไปให้เร็ว ๆ ไม่รู้จะไปไหนต่อละงั้นเรากลับวันที่ 16 แล้วกันถ้ามันเป็นไปได้ ก็คุยผ่าน Trip.com อันนี้ขอให้คะแนนเขานะเขาดูแลเราได้ดีกว่าเจ้าอื่นจริงๆ แจ้งเราแบบไม่ต้องรอนานได้เลย ให้คะแนนแบบไม่มีหักนะ ตามนั้นจะได้มีเวลาลั้นลาที่เฉิงตูอีก 1 วันแบบชิลๆๆๆ เราแจ้งโรงแรมว่าเราจะออกวันที่ 16 เช้าเลยเพื่อไปนอนที่ต้าวเฉิงเตรียมตัวไปสนามบินเพราะเที่ยวบินเช้า (ทางไปสนามบินก็นะไกลเหลือเกิน)
16 มีนาคม 2567
โรงแรมก็ให้น้องทิเบตนั้นแหละไปส่ง จ่ายเหมา ๆ 200 หยวน แล้วโรงแรมถามว่าทำไมไม่เอาคนที่มาส่งตอนแรกพวกเราทำหน้าแบบ ซึ่งคิดว่าเขาเข้าใจก็ได้แต่หัวเราะกัน ระยะทาง 75 กม. แต่อย่างว่าระหว่างทางคือไม่เคยเห็นไม่เคยเจอสวยตลอดทาง มาถึงต้าวเฉิงน้องแท็กซี่ก็พาไปหาโรงแรมที่เราจองไว้โทรหาคุย เขาถามว่าจะให้รับไปสนามบินไหม 200 หยวนเราว่าแพงไป เดี๋ยวเราให้โรงแรมหารถให้
เมืองต้าวเฉิงที่จริงพวกเราว่าน่าอยู่นะใหญ่ เป็นเหมือนเมืองที่ผู้คนต่างเมืองเข้ามาจับจ่ายซื้อของน่าจะเป็นเมืองค้าขายของย่านนี้ แต่...แต่เราไม่โอเครกะโรงแรม น้ำเย็นตลอด (ไม่อยากจะบอกว่าพวกเราไม่อาบน้ำฮ่า ๆ ) เมืองนี้หนาว ๆ มากกว่าทุก ๆ ที่ที่ผ่านมาในครั้งนี้ละคุยกะน้องต้อนรับโรงแรมซึ่งหน้าออกจะไม่รับแขกตลอด เราขอเขาเรียกแท็กซี่ให้พรุ่งนี้ตอน 7.00 ราคา 200 เราก็ตกลงตามนั้น ลงมาเพื่อรับคำยืนยัน 2-3 ครั้งไม่เคยเจอ แอบบ่นกันว่าพรุ่งนี้