เรื่องของแนน น้องสาวเราเอง ลูกพี่ลูกน้อง ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันกับเรา นางมาขอคำปรึกษา......
แนน อายุ 30 ปี แต่งงานกับอดีตสามี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่แนนเป็นลูกที่พ่อแม่เลี้ยงด้วยเงิน กับข้าวต่างๆนาๆ ก็ไม่ต้องทำเอง ทานข้าวนอกบ้านตลอด
พอแต่งงานแนนย้ายไปอยู่บ้านสามี บ้านเดียวกันกับพ่อแม่สามี แนนหยิบจับอะไรไม่ค่อยถนัด เรื่องไปจ่ายตลาด ทำกับข้าว หุงข้าว แม่สามีจะเป็นคนทำเองทั้งหมด อยู่กันไปจนมีลูกสาว 1 คน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันนะ สามีทำงานประจำเป็นช่างซ่อมแอร์ พอที่จะดูแลครอบครัว ดูแลลูกได้อยู่ ส่วนแนนก็กวาดบ้าน ถูบ้านล้างจาน ตามประสาที่แนนน้องเราจะทำได้ เราก็คิดว่าแนนคงลงตัวแล้วแหละ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนางก็แต่งงานได้เกือบสองปี มีลูก
มีรถยนต์(แต่รถสามีเป็นคนผ่อน ตอนเงินดาวน์เกือบแสน ปู่เราเป็นคนดาวห์ให้) แต่ด้วยความที่ว่าแนะไม่ฝึกหัดทำนั่นทำนี่ สามีและครอบครัวสามีเลยไม่ค่อยจะพอใจในตัวแนนเท่าไหร่ จนวันหนึ่งแนนตัดสินใจ หนีออกจากบ้านสามีคนเก่า ไปบ้านสามีคนใหม่(ซึ่งคนสามีคนใหม่คือคนปัจจุบันที่อยู่ด้วยกันตอนนี้) แนนมาปรึกษาเรา สงสารลูกก็สงสาร แต่มันอึดอัดใจ อยู่ไม่ได้เลยต้องออกมา ตอนนี้แนนจะติดต่อลูกสาว ทางอดีตสามีและครอบครัวเค้าไม่ให้ ติดต่อเลย ไปเจอหน้าสักครั้งก็ถูกกีดกัน ได้แต่ดูภาพเก่าๆที่เคยถ่ายไว้กับลูกเมื่อครั้งก่อน
ณ ตอนนี้ แนนไปมาอยู่กับสามีใหม่ (ชื่ออาม) อามไม่ได้ทำงานประจำ ดูแลสวนผัก สวนปาล์ม ถ้าถึงฤดูเกี่ยวข้าวก็จะไปเกี่ยวข้าว มีใครมาจ้างให้ไปทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าไม่มีงานก็จะอยู่บ้านเฉยๆ ส่วนแนนก็ไม่ได้ทำงานอะไรเช่นเดิม แนนหนีจากสามีเก่ามาอยู่กับอามสามีใหม่ ได้ประมาณ 5 เดือน
แต่ทางบ้านแนนพี่น้องของเราเพิ่งมารู้ได้เดือนนึงเองว่าแนน มาอยู่กับสามีใหม่แล้ว อุปนิสัยของแนน แนนจะเป็นคนรักความสบาย ไม่ชอบรสชาติของความลำบาก ต้องการทำอะไรที่มันแบบทำปุ๊ปก็ต้องได้ปั๊ปในทันที แนนฟังนะสิ่งที่เราได้บอกได้ให้คำปรึกษาไป แต่นั่นล่ะนางไม่ตามเลยสักอย่าง เราก็บอกในฐานะพี่น้องนามสกุลเดียวกัน แต่นางก็เอาคำพูดที่เราคอยบอก คอยเตือน ไปเล่าให้สามีฟังทุกอย่าง จนบางทีสามีนางก็ไม่ค่อยพอใจเรา เลยไม่อยากให้แนนมาคุยด้วย แต่แนนก็ไม่มีใครที่จะปรึกษาได้ แนนมีแค่เราคนเดียว พี่น้องคนอื่นๆแม้กระทั่งอาเราที่เป็นพ่อแม่ของแนน เมื่อแนนพลาดก็ซ้ำเติมนางตลอด
แต่สุดท้ายแนนก็เลือกที่จะฟังสาทีมากกว่า แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไรนาง ถ้านางประสบความสำเร็จเราพร้อมยินดีเสมอ
แนนมาอยู่กับอามพ่อแม่อามบอกว่าไม่ต้องแต่งงาน เพราะไปดูหมอมา มาบอกว่าถ้าแต่งงานจะอยู่กันไม่ได้ นางก็เชื่อพ่อแม่สามีนะ มีแค่ผูกข้อไม้ข้อมือ สินสอดทองหมั้นเล็กๆน้อยๆก็ไม่มี #เพื่อนๆคิดว่ามันเกี่ยวกับที่แม่สามีนางพูดหรือเปล่าถ้าแต่งจะอยู่กันไม่ได้ จดทะเบียนสมรสก็ไม่ได้จดอีกเหมือนกันกับสมีเก่านาง แต่สามีนางมีความคิดที่จะสร้างบ้านหลังเล็กๆใกล้กับบ้านแม่สามีเอง พ่อแม่สามีบอกว่าจะกู้สินเชื่อให้เริ่มที่ตั้งไว้ประมาณแสนห้า ถ้าจะให้กู้กันเองเกรงว่าจะไม่ผ่านเพราะไม่มีงานประจำกันทั้งสองคน แนนก็มาบอกเรานะว่าจะสร้างบ้าน เราก็บอกนางว่ามีความคิดที่จะสร้างตัวน่ะดีแล้ว แต่ในเมื่อกู้เงินธนาคารมาเป็นชื่อแม่สามีเราก็ต้องช่วยผ่อนคืนธนาคารนะ เพราะบ้านที่สร้างเป็นของแนนกับสามีสองคน นางก็บอกช่วยสิทำงานไง งานดูแลสวนช่วยสามีเก็บเงินที่นางบอก เราก็ถามไปว่าแล้วทำไมไม่ทยอยทำไปทีละนิดล่ะ เก็บเงินได้แล้วไปซื้อวัสดุมา แล้วไหนจะค่าแรงคนงานอีก ถึงจะกันเองแต่น้ำใจเล็กน้อยที่เค้ามาข่วยสร้างบ้านก็ต้องมี จะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หรือถ้าจะกู้จริงๆก็ในวงเงินที่ผ่อนคืนไหว แนนตอบเราว่า สามีนางบอก #ถ้าไม่เป็นหนี้ก็ไม่ได้สร้าง ใช่คำนี้จริงนะเราไม่ขัด แต่ต้องกู้หนี้ในปริมาณที่พอดี ล่ะเนี่ยพอบ้านเสร็จวสงแผนจะมีลูกกับอามสามีใหม่อีกใช่ไหมที่แนนพูด เพราะแม่สามีนางบอกว่าสร้างบ้านเสร็จให้มีลูกเลย มดลูกจะได้ไม่แห้ง (อันนี้เราไม่มีความรู้นะ ใครรู้บอกด้วย อิๆ) แล้วถ้าสะสมทำไม่เป็นหนี้ทำด้วยเงินเก็บตัวเองจะดีกว่าถ้าคิดรีบจะมีลูกเลย แทนที่เอาเงินไปผ่อนหนี้ พอมีลูกไหนจะค่านม แพมเพิส บลาๆๆอีก ของต้องกินต้องใช้ทุกวัน เอาเงินมาจ่ายภายในครอบครัวดีกว่าไหม นางบอกว่าไม่เป็นไรพ่อแม่อามซัพพอร์ตเอง (อามสามีนางอายุ 27 ปี ส่วนแนน 30 ปี ) เราก็ไม่ว่าอะไรนางนะ แค่บอกนางไปว่านี่เราพูดให้ฟังในมุมของเราที่ใช้ชีวิตแบบคนฐานะไม่ได้ร่ำรวยคนนึงนะว่า...ถ้าเป็นเราอะเราจะไม่กู้ทยอยเด็บเงินจากงานประจำของสามีและของเรา พอคิดว่าโอเคเพียงพอที่จะไปซื้อวัสดุมาก่อน ก็ไปซื้อมาไว้ของมันไม่ได้เน่าเสีย พอต่อไปก็ค่อยๆทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนได้ครบ เรื่องค่าแรงเราก็ให้พี่ชายของสามีเราและพ่อสามี และสามีช่วยกัน ไม่เกิน 5เดือน บ้านก็เสร็จ ถ้าไม่รีบหวือหวาน่ะ ไม่เป็นหนี้ก็มีได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย บางครั้งถ้าหมุนเงินไม่ทันก็ไปหยิบยืมพี่น้องมาครั้งละพันสองพัน สองสามวันก็ให้คืนเค้า แต่แนนคือรีบต้องการอะไรคือต้องได้โดยเร็ว อีกอย่างเราก็อยากให้พ่อแม่สบายตอนบั้นปลายชีวิต ถึงจะมีให้ไม่เยอะเหมือนครอบครัวอื่น แต่เราก็ไม่ให้พ่อแม่ต้องมาใช้หนี้ให้เราไปตลอดชีวิตแทนที่ท่านจะได้พักและอยู่แบบสบายใจ ต้องมาเคลียร์หนี้สินให้เราอีก แนนก็บอกเรา ไม่เป็นไรพ่อแม่พี่อามซัพพอร์ตเต็มที่ นางก็พูดแต่คำนี้แหละ
เราบอกนาง ถ้าผ่อนธนาคารทันก็โอเค ไม่มีปัญหา ต้นทุนชีวิตคนเรามีมาไม่เท่ากัน ถ้าแนนไหวเราไม่ได้ห้ามอะไร แต่การเป็นหนี้ก้อนโตเอามากอดไว้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ถ้าหมุนไม่ทันก็จบแะมมีปัญหาครอบครัวตามมาอีก ทะเลาะกันอีก แต่ถ้าแนนกับสามีคิดดีแล้ว ก็โอเค แต่อย่าลืมนะว่าแนนเคยพลาดมาครั่งหนึ่งแล้ว แม้กระทั่งโทรคุยกับลูกก็ไม่ได้ สามีเก่าปลูกฝังลูกไปแล้วว่าแม่หนีไปมีสามีใหม่ แนนได้รับบทเรียนยังไงบ้าง น่าจะรู้ดี ้เพราฉะนั้น อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมอีก เป็นห่วงนะแนน ปัจจุบันนี้บ้านเพิ่งจะลงเสา เราจะอยู่ตรงนี้ไม่ก้าวก่ายชีวิตนาง เพราะเราก็จัดการชีวิตตัวเองก็วุ่นแล้วในแต่ละวัน คอยดูห่างๆอย่างห่วงๆล่ะกัน ชีวิตทั้งเราและนางก็ต้องไปต่อ จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นวันข้างหน้า ถือว่านางเลือกแล้ว( นางอาจจะมาแบบ อะไรเอ่ยปรึกษาเรา แต่ไม่เคยฟังเราเลย อิๆๆ )เดี๋ยววันข้างหน้าแนนก็จะเข้าใจเองแหละว่าที่เราพูดในวันนี้มันจริงหรือเปล่า ❤️❤️❤️❤️❤️
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ งดคำหยาบคายเดี๋ยวทางเว็บจะบล็อกได้นะคะ
ไม่แต่งงาน ไม่มีค่าสินสอด เพราะเคยผ่านการมีลูกมาแล้ว
แนน อายุ 30 ปี แต่งงานกับอดีตสามี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่แนนเป็นลูกที่พ่อแม่เลี้ยงด้วยเงิน กับข้าวต่างๆนาๆ ก็ไม่ต้องทำเอง ทานข้าวนอกบ้านตลอด
พอแต่งงานแนนย้ายไปอยู่บ้านสามี บ้านเดียวกันกับพ่อแม่สามี แนนหยิบจับอะไรไม่ค่อยถนัด เรื่องไปจ่ายตลาด ทำกับข้าว หุงข้าว แม่สามีจะเป็นคนทำเองทั้งหมด อยู่กันไปจนมีลูกสาว 1 คน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันนะ สามีทำงานประจำเป็นช่างซ่อมแอร์ พอที่จะดูแลครอบครัว ดูแลลูกได้อยู่ ส่วนแนนก็กวาดบ้าน ถูบ้านล้างจาน ตามประสาที่แนนน้องเราจะทำได้ เราก็คิดว่าแนนคงลงตัวแล้วแหละ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนางก็แต่งงานได้เกือบสองปี มีลูก
มีรถยนต์(แต่รถสามีเป็นคนผ่อน ตอนเงินดาวน์เกือบแสน ปู่เราเป็นคนดาวห์ให้) แต่ด้วยความที่ว่าแนะไม่ฝึกหัดทำนั่นทำนี่ สามีและครอบครัวสามีเลยไม่ค่อยจะพอใจในตัวแนนเท่าไหร่ จนวันหนึ่งแนนตัดสินใจ หนีออกจากบ้านสามีคนเก่า ไปบ้านสามีคนใหม่(ซึ่งคนสามีคนใหม่คือคนปัจจุบันที่อยู่ด้วยกันตอนนี้) แนนมาปรึกษาเรา สงสารลูกก็สงสาร แต่มันอึดอัดใจ อยู่ไม่ได้เลยต้องออกมา ตอนนี้แนนจะติดต่อลูกสาว ทางอดีตสามีและครอบครัวเค้าไม่ให้ ติดต่อเลย ไปเจอหน้าสักครั้งก็ถูกกีดกัน ได้แต่ดูภาพเก่าๆที่เคยถ่ายไว้กับลูกเมื่อครั้งก่อน
ณ ตอนนี้ แนนไปมาอยู่กับสามีใหม่ (ชื่ออาม) อามไม่ได้ทำงานประจำ ดูแลสวนผัก สวนปาล์ม ถ้าถึงฤดูเกี่ยวข้าวก็จะไปเกี่ยวข้าว มีใครมาจ้างให้ไปทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าไม่มีงานก็จะอยู่บ้านเฉยๆ ส่วนแนนก็ไม่ได้ทำงานอะไรเช่นเดิม แนนหนีจากสามีเก่ามาอยู่กับอามสามีใหม่ ได้ประมาณ 5 เดือน
แต่ทางบ้านแนนพี่น้องของเราเพิ่งมารู้ได้เดือนนึงเองว่าแนน มาอยู่กับสามีใหม่แล้ว อุปนิสัยของแนน แนนจะเป็นคนรักความสบาย ไม่ชอบรสชาติของความลำบาก ต้องการทำอะไรที่มันแบบทำปุ๊ปก็ต้องได้ปั๊ปในทันที แนนฟังนะสิ่งที่เราได้บอกได้ให้คำปรึกษาไป แต่นั่นล่ะนางไม่ตามเลยสักอย่าง เราก็บอกในฐานะพี่น้องนามสกุลเดียวกัน แต่นางก็เอาคำพูดที่เราคอยบอก คอยเตือน ไปเล่าให้สามีฟังทุกอย่าง จนบางทีสามีนางก็ไม่ค่อยพอใจเรา เลยไม่อยากให้แนนมาคุยด้วย แต่แนนก็ไม่มีใครที่จะปรึกษาได้ แนนมีแค่เราคนเดียว พี่น้องคนอื่นๆแม้กระทั่งอาเราที่เป็นพ่อแม่ของแนน เมื่อแนนพลาดก็ซ้ำเติมนางตลอด
แต่สุดท้ายแนนก็เลือกที่จะฟังสาทีมากกว่า แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไรนาง ถ้านางประสบความสำเร็จเราพร้อมยินดีเสมอ
แนนมาอยู่กับอามพ่อแม่อามบอกว่าไม่ต้องแต่งงาน เพราะไปดูหมอมา มาบอกว่าถ้าแต่งงานจะอยู่กันไม่ได้ นางก็เชื่อพ่อแม่สามีนะ มีแค่ผูกข้อไม้ข้อมือ สินสอดทองหมั้นเล็กๆน้อยๆก็ไม่มี #เพื่อนๆคิดว่ามันเกี่ยวกับที่แม่สามีนางพูดหรือเปล่าถ้าแต่งจะอยู่กันไม่ได้ จดทะเบียนสมรสก็ไม่ได้จดอีกเหมือนกันกับสมีเก่านาง แต่สามีนางมีความคิดที่จะสร้างบ้านหลังเล็กๆใกล้กับบ้านแม่สามีเอง พ่อแม่สามีบอกว่าจะกู้สินเชื่อให้เริ่มที่ตั้งไว้ประมาณแสนห้า ถ้าจะให้กู้กันเองเกรงว่าจะไม่ผ่านเพราะไม่มีงานประจำกันทั้งสองคน แนนก็มาบอกเรานะว่าจะสร้างบ้าน เราก็บอกนางว่ามีความคิดที่จะสร้างตัวน่ะดีแล้ว แต่ในเมื่อกู้เงินธนาคารมาเป็นชื่อแม่สามีเราก็ต้องช่วยผ่อนคืนธนาคารนะ เพราะบ้านที่สร้างเป็นของแนนกับสามีสองคน นางก็บอกช่วยสิทำงานไง งานดูแลสวนช่วยสามีเก็บเงินที่นางบอก เราก็ถามไปว่าแล้วทำไมไม่ทยอยทำไปทีละนิดล่ะ เก็บเงินได้แล้วไปซื้อวัสดุมา แล้วไหนจะค่าแรงคนงานอีก ถึงจะกันเองแต่น้ำใจเล็กน้อยที่เค้ามาข่วยสร้างบ้านก็ต้องมี จะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หรือถ้าจะกู้จริงๆก็ในวงเงินที่ผ่อนคืนไหว แนนตอบเราว่า สามีนางบอก #ถ้าไม่เป็นหนี้ก็ไม่ได้สร้าง ใช่คำนี้จริงนะเราไม่ขัด แต่ต้องกู้หนี้ในปริมาณที่พอดี ล่ะเนี่ยพอบ้านเสร็จวสงแผนจะมีลูกกับอามสามีใหม่อีกใช่ไหมที่แนนพูด เพราะแม่สามีนางบอกว่าสร้างบ้านเสร็จให้มีลูกเลย มดลูกจะได้ไม่แห้ง (อันนี้เราไม่มีความรู้นะ ใครรู้บอกด้วย อิๆ) แล้วถ้าสะสมทำไม่เป็นหนี้ทำด้วยเงินเก็บตัวเองจะดีกว่าถ้าคิดรีบจะมีลูกเลย แทนที่เอาเงินไปผ่อนหนี้ พอมีลูกไหนจะค่านม แพมเพิส บลาๆๆอีก ของต้องกินต้องใช้ทุกวัน เอาเงินมาจ่ายภายในครอบครัวดีกว่าไหม นางบอกว่าไม่เป็นไรพ่อแม่อามซัพพอร์ตเอง (อามสามีนางอายุ 27 ปี ส่วนแนน 30 ปี ) เราก็ไม่ว่าอะไรนางนะ แค่บอกนางไปว่านี่เราพูดให้ฟังในมุมของเราที่ใช้ชีวิตแบบคนฐานะไม่ได้ร่ำรวยคนนึงนะว่า...ถ้าเป็นเราอะเราจะไม่กู้ทยอยเด็บเงินจากงานประจำของสามีและของเรา พอคิดว่าโอเคเพียงพอที่จะไปซื้อวัสดุมาก่อน ก็ไปซื้อมาไว้ของมันไม่ได้เน่าเสีย พอต่อไปก็ค่อยๆทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนได้ครบ เรื่องค่าแรงเราก็ให้พี่ชายของสามีเราและพ่อสามี และสามีช่วยกัน ไม่เกิน 5เดือน บ้านก็เสร็จ ถ้าไม่รีบหวือหวาน่ะ ไม่เป็นหนี้ก็มีได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย บางครั้งถ้าหมุนเงินไม่ทันก็ไปหยิบยืมพี่น้องมาครั้งละพันสองพัน สองสามวันก็ให้คืนเค้า แต่แนนคือรีบต้องการอะไรคือต้องได้โดยเร็ว อีกอย่างเราก็อยากให้พ่อแม่สบายตอนบั้นปลายชีวิต ถึงจะมีให้ไม่เยอะเหมือนครอบครัวอื่น แต่เราก็ไม่ให้พ่อแม่ต้องมาใช้หนี้ให้เราไปตลอดชีวิตแทนที่ท่านจะได้พักและอยู่แบบสบายใจ ต้องมาเคลียร์หนี้สินให้เราอีก แนนก็บอกเรา ไม่เป็นไรพ่อแม่พี่อามซัพพอร์ตเต็มที่ นางก็พูดแต่คำนี้แหละ
เราบอกนาง ถ้าผ่อนธนาคารทันก็โอเค ไม่มีปัญหา ต้นทุนชีวิตคนเรามีมาไม่เท่ากัน ถ้าแนนไหวเราไม่ได้ห้ามอะไร แต่การเป็นหนี้ก้อนโตเอามากอดไว้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ถ้าหมุนไม่ทันก็จบแะมมีปัญหาครอบครัวตามมาอีก ทะเลาะกันอีก แต่ถ้าแนนกับสามีคิดดีแล้ว ก็โอเค แต่อย่าลืมนะว่าแนนเคยพลาดมาครั่งหนึ่งแล้ว แม้กระทั่งโทรคุยกับลูกก็ไม่ได้ สามีเก่าปลูกฝังลูกไปแล้วว่าแม่หนีไปมีสามีใหม่ แนนได้รับบทเรียนยังไงบ้าง น่าจะรู้ดี ้เพราฉะนั้น อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมอีก เป็นห่วงนะแนน ปัจจุบันนี้บ้านเพิ่งจะลงเสา เราจะอยู่ตรงนี้ไม่ก้าวก่ายชีวิตนาง เพราะเราก็จัดการชีวิตตัวเองก็วุ่นแล้วในแต่ละวัน คอยดูห่างๆอย่างห่วงๆล่ะกัน ชีวิตทั้งเราและนางก็ต้องไปต่อ จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นวันข้างหน้า ถือว่านางเลือกแล้ว( นางอาจจะมาแบบ อะไรเอ่ยปรึกษาเรา แต่ไม่เคยฟังเราเลย อิๆๆ )เดี๋ยววันข้างหน้าแนนก็จะเข้าใจเองแหละว่าที่เราพูดในวันนี้มันจริงหรือเปล่า ❤️❤️❤️❤️❤️
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ งดคำหยาบคายเดี๋ยวทางเว็บจะบล็อกได้นะคะ