เมื่อปลายปีก่อนสามีไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งเพื่ออุทิศบุญให้มารดา พอไปบวช 15 วัน ตอนแรกโทรมาขอเลิกกับ จขกท ตอนหลังบอกจะบวชไม่สึก ก็มีร้องไห้เสียใจกันไปยกใหญ่เพราะก่อนบวชของ 15 วัน พอไปที่วัดนั่นกลับมาไม่เหมือนเดิม ใกล้วันครบกำหนดสึกก็โทรมาให้ไปรับ ให้ไปหย่าที่นั่น เราก็ไปตามที่สามีต้องการ ผ่านการร้องไห้และทำใจมาหลายวัน พอไปถึงเขาเปลี่ยนใจ แต่สภาพเขาซูบผอมมาก มีอาการเบลอ พูดไม่รู้เรื่อง เดิมรักษาซึมเศร้ามาเป็นเวลานาน กินยาพบหมอสม่ำเสมอ ไม่เคยมีอาการดังกล่าว จนไปบวชและเคร่งกับการปฏิบัติธรรมมาก ตื่นเช้ามาก นอนดึก ไม่ได้กินยาต่อเนื่อง บวกกับคิดว่าธรรมะบำบัด อาการหนักขึ้น พอไปรับกลับบ้านเริ่มมีอาการตาขวาง ระแวงคนจะทำร้ายกลัวไปหมด สภาพสามีตอนนั้นดูไม่ได้ไปทำงานก็มีอาการแปลกๆมีสติและขาดสติเป็นช่วงๆจนกระทั้งโทรหาเราบอกไม่ไหวแล้วมาหาหน่อย (จขกท กับสามีอยู่คนละที่ค่ะ)รีบขับรถ สามร้อยกว่ากิโลเพื่อไปหาและพาไปหาหมอ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน อาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งไม่มีสติจึงพาไป รพ.แอดมิท 3 สัปดาห์ มันเป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานของ จขกท มาก ขับรถไปกลับทุกอาทิตย์ เพื่อมาดูแล มาเยี่ยมดูอาการ โทรถามทุกวันจนคุณพยาบาลจะดุแล้ว รักษาตัวจนได้ออกจาก รพ. จขกท ก็มารับกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ตจว.โชคดีที่หัวหน้าของสามีดีเขาเข้าใจและให้รักษาตัวฟักฟื้นจนกลับมา ปัจจุบันก็ทำงานได้บ้างแต่ความคิดจะช้าลง ความสดใสหายไปมาก กินยาและปรับยาอยู่ยังไม่เข้าที่ สาเหตุเกิดจากประสบการณ์ในวัยเด็กและความเครียดวัยหนุ่ม ตอนนี้ก็ยังเฉยชา เบื่อ ไม่อยากทำอะไร อยากนอนอย่างเดียวไม่มีความอยากทำอะไร ไม่มีเป้าหมาย ได้ทุกอย่างแล้วไม่มีความสนใจอะไรทั้งสิ้น บ่นแต่เบื่อ จขกท เครียดมาก ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ทำทุกวิถีทางแล้ว อยากแชร์ประสบการณ์ของผู้อ่านบ้างมีวิธีการปรับสภาพจิตใจทั้งเขาและเราอย่างไรค่ะ
สามีเป็นซึมเศร้า ความเครียดจึงมาอยู่ที่เรา