สมัยที่ลุงตู่บริหารประเทศ หลายคนบอกไว้ว่าคนกำลังอดตาย เศรษฐกิจกำลังถดถอย ทำอะไรไม่ได้เลย จะตายกันอยู่แล้ว
ซึ่งคนที่พูดก็คือคนที่ได้เริ่มทำธุรกิจประสบความสำเร็จในยุคลุง สามารถสร้างฐานะเป็น 10 ล้าน 100 ล้าน
แต่คนเหล่านี้ก็ยังเลือกพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แล้ววาทะกรรมที่สร้างมามันคืออะไร เลือกพรรคที่ไม่เคย
มีผลงานอะไร แล้วใยคนเหล่านั้นถึงไม่คิดถึงการบริหารของลุงที่สามารถทำให้สร้างฐานะร่ำรวย
************************************ถ้าให้เปรียบเทียบคนในครอบครัว การบริหารงานหรือวิธีคิดคงจะเปรียบได้
กับคนเป็นพ่อแม่ ที่อายุประมาณ 50 ปี และที่หลายคนเรียกว่าด้อมส้มคงจะเปรียบได้กับลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น
คนเป็นพ่อแม่ได้ทำงานสร้างฐานะสร้างสิ่งต่างๆ สร้างบ้าน(กู้ธนาคาร) สร้างรถ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวก
ให้กับลูกให้ลูกมีความสุข แต่เมื่อลูกถึงวัยรุ่นซึ่งเปรียบได้กับด้อมส้มเพราะวิธีคิดต่างๆ จะคล้ายกัน เป็นวัยที่ต่อต้านพ่อแม่
ไม่ค่อยจะเชื่อฟังพ่อแม่ วัยนี้จะเริ่มมีแฟน คบเพื่อนสนิทและจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพ่อแม่ บางครั้งจะทะเลาะกัน
ไม่ค่อยคุยกันด้วยเหตุผล ใช้อารมณ์มาก่อน********************
ปล.หากประเทศไทยคนส่วนใหญ่ยังใช้อารมณ์ อคติ มาก่อน เหตุและผล การคิดวิเคราะห์ อนาคตนี้สิจะเรียกว่าสิ้นหวังแล้ว
คนที่เริ่มทำธุรกิจในสมัยรัฐบาลลุงตู่บริหาร ประสบความสำเร็จเป็น 10 ล้าน 100 ล้าน แต่เลือกพรรคก้าวไกล เพราะอะไร
ซึ่งคนที่พูดก็คือคนที่ได้เริ่มทำธุรกิจประสบความสำเร็จในยุคลุง สามารถสร้างฐานะเป็น 10 ล้าน 100 ล้าน
แต่คนเหล่านี้ก็ยังเลือกพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แล้ววาทะกรรมที่สร้างมามันคืออะไร เลือกพรรคที่ไม่เคย
มีผลงานอะไร แล้วใยคนเหล่านั้นถึงไม่คิดถึงการบริหารของลุงที่สามารถทำให้สร้างฐานะร่ำรวย
************************************ถ้าให้เปรียบเทียบคนในครอบครัว การบริหารงานหรือวิธีคิดคงจะเปรียบได้
กับคนเป็นพ่อแม่ ที่อายุประมาณ 50 ปี และที่หลายคนเรียกว่าด้อมส้มคงจะเปรียบได้กับลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น
คนเป็นพ่อแม่ได้ทำงานสร้างฐานะสร้างสิ่งต่างๆ สร้างบ้าน(กู้ธนาคาร) สร้างรถ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวก
ให้กับลูกให้ลูกมีความสุข แต่เมื่อลูกถึงวัยรุ่นซึ่งเปรียบได้กับด้อมส้มเพราะวิธีคิดต่างๆ จะคล้ายกัน เป็นวัยที่ต่อต้านพ่อแม่
ไม่ค่อยจะเชื่อฟังพ่อแม่ วัยนี้จะเริ่มมีแฟน คบเพื่อนสนิทและจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพ่อแม่ บางครั้งจะทะเลาะกัน
ไม่ค่อยคุยกันด้วยเหตุผล ใช้อารมณ์มาก่อน********************
ปล.หากประเทศไทยคนส่วนใหญ่ยังใช้อารมณ์ อคติ มาก่อน เหตุและผล การคิดวิเคราะห์ อนาคตนี้สิจะเรียกว่าสิ้นหวังแล้ว