10 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเรียนภาษาระยะสั้นที่ญี่ปุ่น (repost from Facebook 2014)

ก่อนอื่นเลย ขอเรียนแจ้งว่าโพสต์นี้มีการดัดแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันหลังโควิด 19 ซึ่งการเขียนครั้งแรกคือในปี 2014 และการแก้ไขฉบับนี้คือ 2024 ค่ะ

ดังนั้น เราขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวในฐานะ นักเรียนคอร์สระยะสั้น โรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่นนะคะ

1. การสมัคร => ควรสมัครล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 4 เดือนนับจากวันปฐมนิเทศคอร์สค่ะ สมัครได้จากเอเจนท์ต่างๆในไทย เช่น J-education, Mainichi, หรืออื่นๆที่มีคอนเน็คชั่นกับทางโรงเรียน หรือถ้าโรงเรียนไหนมีหน้าเว็บภาษาไทย ลอง email เป็นภาษาอังกฤษ/ไทยไปถามทางโรงเรียนดูค่ะว่าเราสมัครเองได้มั้ย (แนะนำให้ email เป็น Eng) ไปมากกว่าค่ะ หากว่าจะสมัครไปเองโดยไม่ผ่านเอเจ้นท์

2. วีซ่า => สำหรับคอร์สระยะสั้น สามารถใช้วีซ่าท่องเที่ยวในการเข้ามาเรียนได้ แต่วีซ่าท่องเที่ยวจะไม่สามารถทำงานได้นะคะ หากว่าแอบทำงานจะถือว่าผิดกฏหมาย โดยวีซ่าจะใช้ระยะเวลา 7–15 วันทำการสำหรับวีซ่าแบบ Single Entry ค่ะ ส่วนมากจะอยู่ได้ 90 วัน หรือน้อยกว่านั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

3. หอพัก => มีทั้งแบบที่ให้โรงเรียนหาให้ มีโฮมสเตย์ หรือจะหาหอเองก็ได้ค่ะ ปกติการหาหอพักในญี่ปุ่นจะต้องผ่านนายหน้า ซึ่งในไทยก็จะมีนายหน้าของญี่ปุ่นที่ให้บริการนักเรียนต่างชาติ เช่น LandHousing ฯลฯ

4. ซิมโทรศัพท์ => เนื่องจากไม่ใช่วีซ่าระยะยาว ทำให้ไม่สามารถออกบัตรประจำตัวคนต่างชาติ(ไซริวการ์ด)ได้ จึงไม่สามารถเปิดเบอร์ได้ คนต่างชาติในญี่ปุ่นจึงนิยมใช้ Tourist ซิม ซึ่งจะใช้เน็ตได้ แต่จะโทรออกไม่ได้ ภายหลังก็มีบางเจ้าที่ให้แพ็คเกจทั้งโทรและเน็ต เช่น GTN Mobile (https://matcha-jp.com/th/9909) ค่ะ

5. ไปรษณีย์ => ไปรษณีย์ที่ญี่ปุ่นสามารถสั่งของให้มาส่งที่ปณ.ที่ใกล้ที่อยู่เรามากที่สุด หรือสามารถให้ส่งตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ค่ะ บริการนี้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย (https://www.getaroundjapan.jp/archives/2373)

6. ธนาคาร => เนื่องจากเป็นวีซ่าระยะสั้น จึงเปิดบัญชีที่ญี่ปุ่นไม่ได้ แต่บัตรเครดิตที่ไทยทั้งหมด และเดบิตเกือบทุกประเภทในไทย สามารถใช้รูดเงิน/กดเงินที่ญี่ปุ่นได้ค่ะ (ณ ปี 2024 แนะนำบัตร ATM เป็น KrungThai Travel Card, SCB Planet, และ Krungsri Boarding Card ค่ะ เลือกอันใดอันหนึ่ง)

7. บัตรรถไฟ => บัตรรถไฟญี่ปุ่น ถือบัตรเดียว บัตรใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Suica, Pasmo, ICOCA หรืออื่นๆ ก็สามารถใช้ข้ามกันได้ทั่วประเทศค่ะ มีโปรโมชั่นแบบรายเดือนด้วยนะคะ อีกทั้งบัตรยังใช้กับขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆ เช่นรถเมล์ รถราง หรือร้านสะดวกซื้อได้อีกด้วย (ณ ปี 2024 ใครจะผูก Apple Pay/Google Pay ต้องเปลี่ยน Region เป็น Japan นะคะ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย เปลี่ยนกลับไม่ได้ แต่ข้อเสียคือเติมเงินผ่าน app ไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่มีบัญชีธนาคาร คิดให้ดีๆก่อนผูกจ้า แต่เติมเงินสดได้ที่ร้านสะดวกซื้อทุกสาขา)

8. ประกันการเดินทาง => ทำประกันรายปีคุ้มค่ะ เลือก Japan ไปเลย แผนที่เหมาะกับเรา แล้วอย่าลืมดูเงื่อนไขการรักษาโควิดด้วยจ้า

9. กลับไม่ทัน ตกเครื่องแล้ววีซ่าหมด ให้ติดต่อตม.สนามบินแล้วโชว์ตั๋วเครื่องบินขากลับ ตม.จะยืดอายุให้อีก 14 วัน แต่ทำได้แค่ครั้งเดียว แล้วต้องจองตั๋วเครื่องบินขากลับทันทีพร้อมจองที่พักระหว่างรอกลับเพื่อแสดงต่อจนท.ตม. => อันนี้เผื่อบางคนไม่รู้ ไม่ใช่เข้าเมืองไปหาตำรวจนะคะ ไม่งั้นอาจจะซวยได้

10. VAT Refund ได้ข่าวว่าปี 2024 เปลี่ยนกฏแล้วใช่ไหมคะ? เช็คกันดีๆนะคะ แล้วแชร์กันได้ว่าอยู่ 3 เดือน เสียตัว เอ๊ย! เสียตังไปกับอะไรกันบ้าง

สำหรับวันนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบและสวัสดีค่ะ ^_^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่