กฏหมายแรงงาน มาตรา9วรรค2 เงินเพิ่ม-ไม่เห็นเคสตัวอย่างวรรคนี้เลย

สอบถามกฎหมายแรงงานครับ

ในกฎหมายแรงงานนั้น มีใจความ  ในมาตรา9 วรรค2 ว่า
 "ในกรณีที่นายจ้างจงใจไม่คืนหรือไม่จ่ายเงินตามวรรคหนึ่งโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เมื่อพ้นกำหนดเวลำเจ็ดวันนับแต่วันที่ถึงกำหนดคืนหรือจ่าย ให้นายจ้างเสียเงินเพิ่มให้แก่ลูกจ้างร้อยละสิบห้าของเงินที่ค้างจ่ายทุกระยะเวลาเจ็ดวัน"
 
 ผมไม่เห็นมีกรณีตัวอย่างของวรรคนี้ออกมาสู่สาธารณะบ้างเลยครับ เท่าที่ศึกษาดูแล้วก็ยังไม่พบเอกสารว่าสามารถได้เงินตรงส่วนนี้กันเลย
          ถามเจ้าพนักงานตรวจแรงงานก็บอกว่า เงินเพิ่มไม่สามารถ เรียกร้องได้ ในชั้นการดำเนินการของพนักงานตรวจแรงงาน ต้องรอนายจ้างอุทธร ถึงจะไปเรียกได้ในชั้นศาล
         พอเราถามว่าถ้าขึ้นศาล เราจะเรียกร้อง เงินเพิ่ม ได้ ใช่หรือไม่ พนักงานแรงงานก็ตอบว่า มันเป็นหมายล้ม
 เราก็เข้าใจประมาณว่า กฎหมายมี แต่มันใช้จริงไม่ได้ เช่นนั้นหรือ?

         เพราะคำว่าจงใจไม่จ่ายโดยไม่มีเหตุอันควรนั้น ความหมายค่อนข้างกว้างมาก และขึ้นอยู่กัลดุลพินิจของศาลท่านอีกว่า เหตุใดเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่าย "จงใจไม่จ่าย โดยไม่ปราศจากเหตุอันควร"
 

         ดังนั้น จึงขอยกตัวอย่างเคสของผม ขึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการของพนักงานตรวจแรงงาน เพื่อให้พี่ๆ ทนาย หรือ ผู้มีความรู้ด้านกฏหมาย มาแบ่งปันมุมมองหรือช่วยวิเคราะห์กันได้นะครับ

เรื่องเริ่มด้วย
18/8/2564 ผมเริ่มทำงานบริษัทหนึ่ง 
25/12/2566 บริษัท แจ้งว่า ไปต่อไม่ได้ เนื่องจากขาดทุน
25/1/2567 ผมทำงานวันสุดท้าย จากที่บริษัทได้แจ้งล่วงหน้าตั้งแต่25ธันวา
ระหว่างเดือนสุดท้ายที่ทำงาน บริษัทฯ ได้มีการประชุม เพื่อต่อรอง ค่าชดเชย ซึ่งในส่วนของผม ตามอายุงานต้องได้ 3 เดือน
แต่สรุปบริษัทแจ้งว่า พร้อมจ่ายให้ได้แค่ 1.5เดือน ถ้าใครยอมรับให้มาเซ็นยอมรับ ถ้าใครไม่รับก็ไปฟ้องเอา
สุดท้าย มีพนักงานอยู่ 4คนที่ไม่เซ็นรับข้อเสนอเงินปลดที่1.5เดือนและพนักงานทั้ง4คนนั้นก็ไม่ได้รับเงินปลด

ต่อมา
1/2/2567 ผมและพนักงานอีก2คนได้ไปดำเนินการ ร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน ลงบันทึกและให้ข้อมูลเรียบร้อย โดยทางแรงงานบอกว่า เคสเราโอเค ได้แน่นอน100%
16/2/2567 พนักงานตรวจแรงงานเรียกฝั่งนายจ้างเข้ามารับทราบและรับข้อมูลจากนายจ้าง
บริษัทฯ มีการฝากต่อรองกับทางพนักงานว่า ถ้ายอมรับค่าชดเชย ที่ 2เดือนจะจ่ายให้ในวันที่ 15/3/2567
ทางลูกจ้างทุกคนปฎิเสธ เนื่องจากต้องการรักษาสิทธิ์ของตนเอง 
ก่อนหน้านี้ไม่จ่าย พอจะจ่ายก็มาต่อรองอีก 
พนักงานตรวจแรงงานแจ้งว่าจะออกหนังสือคำสั่งให้นายจ้าง ภายใน 
15/3/2567
และนายจ้างจะต้องดำเนินการจ่าย ภายใน 
15/4/2567

จบเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันเพียงเท่านี้

ในส่วนของอนาคตมีโอกาสสูงที่ต้องขึ้นศาล เพราะนายจ้างอ้างว่าไม่มีเงินจ่าย 
ซึ่งทางลูกจ้างก็มีหลักฐานเหมือนกันว่านายจ้างมีเงินมากพอที่จะจ่ายแต่ไม่จ่าย

ดังนั้น ถ้าเรื่องต้องขึ้นศาลจริงๆ
ผมจะมีโอกาสเรียกร้อง เงินเพิ่มได้หรือไม่ครับ
เพราะนายจ้างก็จงใจไม่จ่ายเงินจริงๆ 

โดยส่วนตัวของผมมองว่า
1.นายจ้างมีเงินพร้อมจ่ายค่าปลด แต่หลีกเลี่ยงการจ่าย (มีหลักฐานการรับรายได้ของบริษัท เพราะเราประสานงานขายของให้บริษัท)
2.นายจ้างจ่ายเงินปลด พนักงานส่วนใหญ่ แต่ไม่จ่ายพนักงาน4คน ที่ไม่เซ็นรับข้อตกลง ทั้งที่เป็นหน้าที่ตามกฏหมาย ที่ต้องจ่าย
3.นายจ้างรู้และเข้าใจเรื่องกฏหมายเป็นอย่างดี ว่าเงินปลดต้องจ่าย โดยมีการต่อรองกับพนักงานถึงสองครั้ง และยังใช้คำพูดว่า ถ้าไม่รับข้อเสนอก็ไปฟ้องเอา
4.บุริมสิทธิของ เงินชดเชย(เงินปลด) เทียบเท่ากับภาษี การไม่จ่ายภาษี มีโทษทางอาญา ซึ่งนายจ้างก็ทราบดี แต่ก็จงใจหาช่องว่างในการไม่จ่ายเงิน
5.นายจ้างทำให้ ลูกจ้างเดือดร้อน จากการที่ไม่ยอมจ่ายเงินปลดลูกจ้าง ทำให้ลูกจ้างไม่มีต้นทุนสำรอง ในการหางานใหม่ และไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนต้องกู้หนี้ยืมสิน(มีหลักฐาน)
6.นายจ้างไม่มีความเห็นอกเห็นใจลูกจ้าง ว่าถ้าเขาไม่จ่ายเงินปลด จะทำให้ลูกจ้างเดือดร้อน
7.ทั้งที่มีกฎหมายเงินเพิ่มใน มาตรา9วรรค2 เพื่อป้องกันไม่ให้นายจ้างเพิกเฉยต่อการจ่ายเงิน เพราะถ้าจงใจไม่จ่าย เงินเพิ่มตามกฎหมายนั้นถือว่าเยอะมาก หากคิดแล้วอาจจะมากกว่าเงินปลดด้วยซ้ำไป แต่นายจ้างก็ยังคงไม่จ่าย
8.บริษัท มีการเสนอขายห้องชุดต่อเนื่อง แม้ว่าจะรู้ว่าไปต่อไม่ไหว และไม่แจ้งต่อผู้ทำสัญญารายอื่นๆ(รายเก่า)ว่าโครงการไม่ได้ไปต่อ และยังโกหกหลอกลวงลูกค้าว่า โครงการต้องชะลอการดำเนินงานเนื่องจากของที่สั่งไม่ตรงตามแบบ ทำให้ต้องตีวัสดุกลับต่างประเทศทั้งล็อต ซึ่งการกระทำของบริษัทนั้น เป็นการหลอกลวงโดยไร้ศีลธรรม
9.บริษัท มีการขายห้องซ้ำ(โครงการเก่า) โดยเลขห้องเดียวกัน แต่ทำสัญญาซื้อขาย หลายฉบับ จึงอนุมานได้ว่า บริษัท จงใจหลอกลวงลูกค้าให้ได้รับความเสียหาย

และถ้าหากได้ขึ้นศาลจริงๆ ผมก็จะขอให้ศาลวินิจฉัย หัวข้อเรื่องเงินเพิ่ม เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายและภาระที่ลูกจ้างได้รับ

พี่ๆน้องๆ มีความเห็นเกี่ยวกับ กฏหมาย"เงินเพิ่ม"อย่างไรกันบ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่