สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน คืออยากจะขอคำปรึกษาเรื่องการทานข้าวกับที่บ้านแฟนเพิ่มเติมทีค่ะพอดีว่ามันค่อนข้างเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเราตอนนี้
เราก็แฟนคบกันมา 2 ปีกว่า แฟนเราเป็นคนต่างชาติ (จีน-มาเลเซีย) คือตั้งแต่เราคบกันแรกๆเราจะมีปัญหาเรื่องอาหารที่แม่ของแฟนเราเป็นคนทำทุกครั้ง เราพยายามจะเข้าใจเรื่อง culture การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของที่บ้านแฟน แต่ว่าแม่แฟนเราทำอาหารแบบ จืด และ มัน ขนาดข้าวสวยที่กินกันปกติเรายังต้องหุ้งแยกหม้อกับที่บ้านเค้า แต่เราก็พยายามปรับมาตลอดนะช่วงแรกๆ เราก็พยายามซื้ออาหารที่เรากินได้มานั่งทานข้าวกับเข้า และช่วงหลังๆ ถ้าเรากินไม่ได้จริงๆเราก็จะทอดไข่เจียวหรือไข่ดาวกินกับที่บ้านเค้า หรือไม่ก็บางครั้งเราก็ทำอาหารไทยสัก 1-2 เมนูทานกับที่บ้านเค้าเพื่อจะได้พยายามปรับและเข้ากับคนในครอบครัวของเค้า (แต่ตอนแรกๆเลยเราพยายามกินนิดๆหน่อยๆ และหลังจากนั้นค่อยให้แฟนเราพาไปหาอย่างอื่นแทน)
แต่ว่าเมื่อวานนี้มันมีปัญหานิดหน่อยคือเราบอกแฟนเราว่าเราหิวข้าวตั้งแต่ 5 โมงเย็น (เราเป็นคนกินข้าวตรงเวลามากค่ะทั้ง 3 มื้อ เพราะว่าเป็นโรคกระเพราะกับโรคกรดไหลย้อน) แฟนเราก็เหมือนจะยุ่งๆอยู่เราเลยหาขนมกิน เสร็จแล้วเราก็บอกเค้าอีกทีช่วง 6 โมงเย็น คือตอนนั้นเราเริ่มปวดท้องและมีอาการอวกออกมาและสักพักใหญ่ๆเค้าเลยพาเราลงไปข้างล่างเพราะเค้าบอกว่าที่บ้านน่าจะรอเค้าทานข้าวอยู่ เราก็โอเคคิดว่าลงไปจะได้ทานข้าวเลยซึ่งมันไม่ใช่แบบที่เราคิด คือเราต้องรออีกประมาณ 30 นาที จนเราปวดท้อง และ อวกตลอดเวลาจนเราไม่ไหวเราเลย whatsapp ไปถามแฟนว่าเราสามารถไปกินข้าวข้างนอกได้ไหมหรือส่งเรากับคอนโดได้ไหม (ไม่ได้พักอยู่กับแฟน) เพราะเราต้องมีแสตนบายช่วยน้องในทีมดูงาน หลังจากนั้นเค้าก็เดินมาถามเราว่ากินข้าวที่แม่เค้าทำได้ไหมเราก็ไม่ได้ตอบเค้า เพราะเราโมโหหิวกับอาการเริ่มเริ่มไม่ค่อยดี หลังจากนั้นอีกกว่า 20 นาทีบ้านเค้าถึงจะเริ่มกินข้าวกันที่บ้านเค้ากับมาเรียกเราไปทานข้าวแต่เราทั้งโมโห ทั้งนอย จนแบบเรากินอะไรไม่ลงแล้วเราก็เลยบอกให้เค้าไปทานข้าวกับที่บ้านก่อน (แฟนค่อนข้างให้ความสำคัญกับครอบครัว) และหลังจากนั้นเค้ากินเสร็จเค้าก็ถามเราว่าเราจะกินอะไร เราก็บอกเค้าไปตรงๆว่าไม่รู้จะกินอะไร ตอนนี้เราปวดท้องนะถ้าเดี๋ยวเราไม่โอเคอาจจะต้องไป admit ที่โรงพยาบาล (แฟนเราบอกว่าตอนเราคุยกับเค้าเราชักสีหน้าใส่เค้า + หาว่าเราประชดเค้า) และหลังจากนั้นเค้าก็เหมือนจะเริ่มไม่พอใจเท่าไหร่ จริงๆเหตุการณ์มันเริ่มมาจากช่วงบ่ายเพราะในวันนั้นเรากิน brunch ก็เกือบ 3 โมงเย็น
หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถกันเราเลยบอกว่าทุกอย่างคือความผิดเราที่เราไม่สามารถกินข้าวกับที่บ้านเค้าได้ เราก็บอกว่าเดี๋ยวเราลงไปขอโทษพอกับแม่ของเค้าซึ่งแฟนเราบอกว่าไม่ต้องเพราะที่บ้านเค้ารู้อยู่แล้วว่าเรากินของที่บ้านเค้าทำไม่ค่อยได้ แฟนเราก็พูดขึ้นมาเลยว่าทำไมเราถึงชอบมีปัญหากับพ่อและแม่ของเค้า??? ทำไมวันนี้เราถึงนั่งกินข้าวด้วยไม่ได้??? ทำไมเราไปทอดไข่นั่งกินเฉยๆไม่ได้?? ทำไมเราต้องสร้างปัญหา และเค้าบอกว่าเราชักสีหน้าใส่เค้า แต่เราอธิบายไปแล้วว่าเราไม่รู้ว่าเราชักสีหน้าเพราะตอนพูดเราไม่ได้ส่องกระจกและเราจะรู้ไหม แต่ว่าตอนที่เราพูดตอนนั้นเค้าก็สามารถบอกเราได้เลยว่าเราชักสีหน้า และเค้าไม่โอเค ซึ่งเราเป็นคนรับฟังเหตุผลตลอดเวลานะ
เราก็เลยถามเค้าเรื่อง solution ว่ามันจะมีเวย์ไหนที่ตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ไหม เพราะเค้าก็ย้อนเรากลับมาเค้านัดทานข้าวกับที่บ้านและจะให้เค้ายกเลิกนัดที่บ้านเค้าและต้องพาเราไปกินข้าวตอนนั้นเลย? และทุกๆครั้งที่เรามาบ้านเค้าช่วงหลังๆเค้าพาเราไปกินข้าวกับเค้าตลอดเลยทำไม่ให้เค้ากินข้าวกับพ่อกับแม่ของเค้า ซึ้งอาทิตย์นึงเราเจอเค้า 2 ครั้ง คือช่วง weekday 1 วัน (ทานข้าวตอนเย็น)และ ช่วง weekend 1 วัน (คือวันของเราทั้งว้นต้องแต่เช้าจนเย็น) เราเลยถามเค้าว่าเอาแบบนี้ไหมช่วง weekend เราไม่มาหาเค้าที่บ้านนะ เราเจอกันตามห้างหรือร้านคาเฟ่ก็ได้จะได้ตัดปัญหาเรื่องนี้ พอกินข้าวเสร็จแล้วก็แยกย้ายหรือว่าเค้าอยากได้ solution แบบไหนก็ให้เค้าแชร์ออกมา แต่เค้ากลับตอบเรามาว่า Do you what ever you want! ซึ่งมันไม่ใช้แค่ครั้งแรกที่แฟนเราตอบเราแบบนี้ทุกคนครั้งที่มีปัญหาจะมีแค่เราคนเดียวที่ต้องจัดการปัญหาทั้งหมดเอง
เสร็จแล้วเราก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเรากำลังช๊อคอยู่ + กับร้องไห้ไม่หยุด และหลังจากนั้นเค้าก็มาส่งเราที่ๆนึงและเราเรียก grab กลับคอนโดและก็ไม่คุยไม่ติดต่อเค้าอีกเลย จริงๆเราไม่รู้นะว่าเราทำถูกไหมที่ไม่ทักไปหาเค้าก่อนแต่ทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราจะต้องเป็นฝ่ายง้อหรือฝ่ายที่ทักไปก่อนทุกที
ซึ่งตัวเราเองไม่เคย look down ที่บ้านของเค้าเลยนะถึงแม้ว่าจะโตมาในการเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามปรับและพยายามยอมเค้ามาตลอดเพื่อให้เข้าได้กับทั้งเค้า ครอบครัวเค้า เพื่อนเค้า โดยเรายอมทิ้งสังคมที่เราอยู่เลยเพราะเราไม่อยากให้เพื่อนเรามองเค้าไม่ดีว่าไม่สามารถดูแลเราได้และอะไรหลายๆอย่าง เราเลยอยากรุ้ว่าที่เราพยายามปรับตัวมาทั้งหมดนี้คือเรา เป็นคนเห็นแก่ตัวอยู่ใช่ไหมคะ? หรือว่าเราทุ่มเทให้เค้าเกินไปแบบไม่ลืมหูลืมตา? คือมันค่อนข้างทำให้เราเสียสุขภาพจิต แบบเป็น toxic relationship ไปแล้วสำหรับเราตอนนี้ เลยอยากให้เพื่อนๆทุกคนช่วยแนะนำทีค่ะว่าเราต้องทำยังไงต่อไป
****อย่าพิมพ์แรงมากนะ เจ้าของกระทู้บ่อน้ำตาแตกง่ายอยู่ แต่ก็น้อมรับความเห็นของทุกคนค่ะ****
มีปัญหาเรื่องกินข้าวกับที่บ้านของแฟน
เราก็แฟนคบกันมา 2 ปีกว่า แฟนเราเป็นคนต่างชาติ (จีน-มาเลเซีย) คือตั้งแต่เราคบกันแรกๆเราจะมีปัญหาเรื่องอาหารที่แม่ของแฟนเราเป็นคนทำทุกครั้ง เราพยายามจะเข้าใจเรื่อง culture การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของที่บ้านแฟน แต่ว่าแม่แฟนเราทำอาหารแบบ จืด และ มัน ขนาดข้าวสวยที่กินกันปกติเรายังต้องหุ้งแยกหม้อกับที่บ้านเค้า แต่เราก็พยายามปรับมาตลอดนะช่วงแรกๆ เราก็พยายามซื้ออาหารที่เรากินได้มานั่งทานข้าวกับเข้า และช่วงหลังๆ ถ้าเรากินไม่ได้จริงๆเราก็จะทอดไข่เจียวหรือไข่ดาวกินกับที่บ้านเค้า หรือไม่ก็บางครั้งเราก็ทำอาหารไทยสัก 1-2 เมนูทานกับที่บ้านเค้าเพื่อจะได้พยายามปรับและเข้ากับคนในครอบครัวของเค้า (แต่ตอนแรกๆเลยเราพยายามกินนิดๆหน่อยๆ และหลังจากนั้นค่อยให้แฟนเราพาไปหาอย่างอื่นแทน)
แต่ว่าเมื่อวานนี้มันมีปัญหานิดหน่อยคือเราบอกแฟนเราว่าเราหิวข้าวตั้งแต่ 5 โมงเย็น (เราเป็นคนกินข้าวตรงเวลามากค่ะทั้ง 3 มื้อ เพราะว่าเป็นโรคกระเพราะกับโรคกรดไหลย้อน) แฟนเราก็เหมือนจะยุ่งๆอยู่เราเลยหาขนมกิน เสร็จแล้วเราก็บอกเค้าอีกทีช่วง 6 โมงเย็น คือตอนนั้นเราเริ่มปวดท้องและมีอาการอวกออกมาและสักพักใหญ่ๆเค้าเลยพาเราลงไปข้างล่างเพราะเค้าบอกว่าที่บ้านน่าจะรอเค้าทานข้าวอยู่ เราก็โอเคคิดว่าลงไปจะได้ทานข้าวเลยซึ่งมันไม่ใช่แบบที่เราคิด คือเราต้องรออีกประมาณ 30 นาที จนเราปวดท้อง และ อวกตลอดเวลาจนเราไม่ไหวเราเลย whatsapp ไปถามแฟนว่าเราสามารถไปกินข้าวข้างนอกได้ไหมหรือส่งเรากับคอนโดได้ไหม (ไม่ได้พักอยู่กับแฟน) เพราะเราต้องมีแสตนบายช่วยน้องในทีมดูงาน หลังจากนั้นเค้าก็เดินมาถามเราว่ากินข้าวที่แม่เค้าทำได้ไหมเราก็ไม่ได้ตอบเค้า เพราะเราโมโหหิวกับอาการเริ่มเริ่มไม่ค่อยดี หลังจากนั้นอีกกว่า 20 นาทีบ้านเค้าถึงจะเริ่มกินข้าวกันที่บ้านเค้ากับมาเรียกเราไปทานข้าวแต่เราทั้งโมโห ทั้งนอย จนแบบเรากินอะไรไม่ลงแล้วเราก็เลยบอกให้เค้าไปทานข้าวกับที่บ้านก่อน (แฟนค่อนข้างให้ความสำคัญกับครอบครัว) และหลังจากนั้นเค้ากินเสร็จเค้าก็ถามเราว่าเราจะกินอะไร เราก็บอกเค้าไปตรงๆว่าไม่รู้จะกินอะไร ตอนนี้เราปวดท้องนะถ้าเดี๋ยวเราไม่โอเคอาจจะต้องไป admit ที่โรงพยาบาล (แฟนเราบอกว่าตอนเราคุยกับเค้าเราชักสีหน้าใส่เค้า + หาว่าเราประชดเค้า) และหลังจากนั้นเค้าก็เหมือนจะเริ่มไม่พอใจเท่าไหร่ จริงๆเหตุการณ์มันเริ่มมาจากช่วงบ่ายเพราะในวันนั้นเรากิน brunch ก็เกือบ 3 โมงเย็น
หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถกันเราเลยบอกว่าทุกอย่างคือความผิดเราที่เราไม่สามารถกินข้าวกับที่บ้านเค้าได้ เราก็บอกว่าเดี๋ยวเราลงไปขอโทษพอกับแม่ของเค้าซึ่งแฟนเราบอกว่าไม่ต้องเพราะที่บ้านเค้ารู้อยู่แล้วว่าเรากินของที่บ้านเค้าทำไม่ค่อยได้ แฟนเราก็พูดขึ้นมาเลยว่าทำไมเราถึงชอบมีปัญหากับพ่อและแม่ของเค้า??? ทำไมวันนี้เราถึงนั่งกินข้าวด้วยไม่ได้??? ทำไมเราไปทอดไข่นั่งกินเฉยๆไม่ได้?? ทำไมเราต้องสร้างปัญหา และเค้าบอกว่าเราชักสีหน้าใส่เค้า แต่เราอธิบายไปแล้วว่าเราไม่รู้ว่าเราชักสีหน้าเพราะตอนพูดเราไม่ได้ส่องกระจกและเราจะรู้ไหม แต่ว่าตอนที่เราพูดตอนนั้นเค้าก็สามารถบอกเราได้เลยว่าเราชักสีหน้า และเค้าไม่โอเค ซึ่งเราเป็นคนรับฟังเหตุผลตลอดเวลานะ
เราก็เลยถามเค้าเรื่อง solution ว่ามันจะมีเวย์ไหนที่ตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ไหม เพราะเค้าก็ย้อนเรากลับมาเค้านัดทานข้าวกับที่บ้านและจะให้เค้ายกเลิกนัดที่บ้านเค้าและต้องพาเราไปกินข้าวตอนนั้นเลย? และทุกๆครั้งที่เรามาบ้านเค้าช่วงหลังๆเค้าพาเราไปกินข้าวกับเค้าตลอดเลยทำไม่ให้เค้ากินข้าวกับพ่อกับแม่ของเค้า ซึ้งอาทิตย์นึงเราเจอเค้า 2 ครั้ง คือช่วง weekday 1 วัน (ทานข้าวตอนเย็น)และ ช่วง weekend 1 วัน (คือวันของเราทั้งว้นต้องแต่เช้าจนเย็น) เราเลยถามเค้าว่าเอาแบบนี้ไหมช่วง weekend เราไม่มาหาเค้าที่บ้านนะ เราเจอกันตามห้างหรือร้านคาเฟ่ก็ได้จะได้ตัดปัญหาเรื่องนี้ พอกินข้าวเสร็จแล้วก็แยกย้ายหรือว่าเค้าอยากได้ solution แบบไหนก็ให้เค้าแชร์ออกมา แต่เค้ากลับตอบเรามาว่า Do you what ever you want! ซึ่งมันไม่ใช้แค่ครั้งแรกที่แฟนเราตอบเราแบบนี้ทุกคนครั้งที่มีปัญหาจะมีแค่เราคนเดียวที่ต้องจัดการปัญหาทั้งหมดเอง
เสร็จแล้วเราก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเรากำลังช๊อคอยู่ + กับร้องไห้ไม่หยุด และหลังจากนั้นเค้าก็มาส่งเราที่ๆนึงและเราเรียก grab กลับคอนโดและก็ไม่คุยไม่ติดต่อเค้าอีกเลย จริงๆเราไม่รู้นะว่าเราทำถูกไหมที่ไม่ทักไปหาเค้าก่อนแต่ทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องอะไรเราจะต้องเป็นฝ่ายง้อหรือฝ่ายที่ทักไปก่อนทุกที
ซึ่งตัวเราเองไม่เคย look down ที่บ้านของเค้าเลยนะถึงแม้ว่าจะโตมาในการเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามปรับและพยายามยอมเค้ามาตลอดเพื่อให้เข้าได้กับทั้งเค้า ครอบครัวเค้า เพื่อนเค้า โดยเรายอมทิ้งสังคมที่เราอยู่เลยเพราะเราไม่อยากให้เพื่อนเรามองเค้าไม่ดีว่าไม่สามารถดูแลเราได้และอะไรหลายๆอย่าง เราเลยอยากรุ้ว่าที่เราพยายามปรับตัวมาทั้งหมดนี้คือเรา เป็นคนเห็นแก่ตัวอยู่ใช่ไหมคะ? หรือว่าเราทุ่มเทให้เค้าเกินไปแบบไม่ลืมหูลืมตา? คือมันค่อนข้างทำให้เราเสียสุขภาพจิต แบบเป็น toxic relationship ไปแล้วสำหรับเราตอนนี้ เลยอยากให้เพื่อนๆทุกคนช่วยแนะนำทีค่ะว่าเราต้องทำยังไงต่อไป
****อย่าพิมพ์แรงมากนะ เจ้าของกระทู้บ่อน้ำตาแตกง่ายอยู่ แต่ก็น้อมรับความเห็นของทุกคนค่ะ****