กมธ.ข้องใจ กองทัพอ้างเลิกกฎพลทหารรับใช้ ทำไมยังมี ยื่น ป.ป.ช.สอบปมกด ATM ให้พวก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4465321
“กมธ.การทหาร” ผุดโครงการ “พลทหารปลอดภัย” รับเรื่องนายทหารรับใช้ ถูกรองมือรองเท้านายพล “วิโรจน์” เผยกองทัพยอมรับใน กมธ. ยกเลิกระเบียบแล้ว การันตี ถ้ามีเคสซักกางเกงใน-รับใช้นายพลอีก ผิดกฎหมาย ยันต้องตามต่อ บอกน่าห่วง ปัญหายึด ATM ไปกดเงินเงินให้นาย ลั่นเพิ่งจับได้สดๆ ร้อนๆ ก่อนส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เรียบร้อย
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ให้สัมภาษณ์กรณีพลทหารอัดคลิประบายความในใจในการทำหน้าที่พลทหารรับใช้ว่า การนำพลทหารไปทำหน้าที่รับใช้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเก็บขวดเหล้า รวมทั้งการซักเสื้อผ้า กางเกงใน เท่าที่ตรวจสอบตนเข้าใจว่าเป็นคลิปเก่า น่าจะ 2-3 ปีมาแล้ว ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพฤติการณ์หรือพฤติกรรมการนำผลทหารไปใช้งาน ซึ่งเรียกว่าไปบำรุงบำเรอนายพล ควรจะไม่ปรากฏขึ้นอีกในปัจจุบันนับจากนี้เป็นต้นไป
ส่วน กมธ.การทหาร จะตรวจสอบอย่างไร นาย
วิโรจน์กล่าวว่า เราเคยสอบผ่านในเรื่องนี้ไปว่าระเบียบเรื่องการเป็นทหารรับใช้ยังมีอยู่หรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันจากทางกองทัพว่าระเบียบนี้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่ายังมีการนำเอาพลทหารไปรับใช้รองมือรองเท้านายพลหรือไม่ ซึ่งเท่าที่เรารู้กัน ไม่ใช่แค่รับใช้นายพลที่อยู่ในราชการ แต่คนที่อยู่นอกราชการก็มีสิทธิได้รับนายทหารรับใช้ไปทำงานบ้าน ไปทำภารกิจที่ไม่ใช่งานทหารด้วย เราก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ
เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพลทหารไม่กล้าออกมาแฉตอนที่ยังประจำการอยู่ ทำให้ต้องปล่อยคลิปย้อนหลังจนกลายเป็นคลิปเก่าใช่หรือไม่ นาย
วิโรจน์กล่าวว่า แน่นอน ซึ่งทาง กมธ.การทหารมีโครงการทหารปลอดภัย ถ้าเราพบว่าพลทหารถูกทรมานทรกรรม ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ก็สามารถร้องเรียนเข้ามาได้ที่ กมธ. เราจะมีไลน์ OA (Line Official Account) โดยตนได้มอบหมายให้เรืออากาศโท
ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะรองประธาน กมธ. ดูแล
เมื่อถามว่า ระเบียบการยกเลิกพลทหารรับใช้ยกเลิกตั้งแต่ปีไหน นาย
วิโรจน์ ระบุว่า ตนเข้าใจว่ายกเลิกไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทางกองทัพก็ชี้แจงว่าไม่มีกฎระเบียบให้นายพลมีพลทหารรับใช้ แต่เข้าใจว่าจะมีการเอาไปใช้โดยพลการหรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบ แต่เรื่องที่น่ากังวลกว่านั้นที่เจอสดๆ ร้อนๆ คือการยึดบัตร ATM ของพลทหารเเล้วนำไปกดเงิน ปัญหานี้ กมธ.จับได้สดๆ และได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ซึ่งโครงการพลทหารปลอดภัยก็จะมีการรับเรื่องเหล่านี้ด้วย
ไทยสร้างไทย ห่วงภัยแล้ง มาเร็วกว่าปกติ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_688083/
ไทยสร้างไทย ห่วงภัยแล้ง มาเร็วกว่าปกติ รุนแรงในรอบหลายปี สั่ง ส.ส.รับฟังปัญหาประชาชน แจ้งรัฐบาลแก้ไข
นาย
ชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย และกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2567 เปิดเผยว่า พรรคไทยสร้างไทยมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคทุกวันอังคาร ตนจะเสนอให้พรรคแจ้ง ส.ส.ของพรรคนำความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องปัญหาภัยแล้งแจ้งให้รัฐบาลบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขอย่างเป็นระบบและอย่างเร่งด่วน
นาย
ชวลิต กล่าวว่า จากข่าวที่ปรากฎต่อสื่อมวลชนจะเห็นได้ว่า ปรากฎการณ์เอลนิโญหรือภาวะโลกร้อนเริ่มแผลงฤทธิ์ ฤดูแล้งปีนี้มาเร็วกว่าปกติและค่อนข้างจะรุนแรงในรอบหลายปี เห็นได้จากเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ได้บินสำรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้งเขื่อนลำแซะ และสำรวจลำน้ำแม่น้ำมูล เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาให้การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ซึ่งเข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตประปาเหลือปริมาณน้ำดิบสามารถจ่ายน้ำให้ประชาชนได้เพียง 48 วัน
การเหลือปริมาณน้ำดิบที่จะผลิตน้ำประปาได้เพียง 48 วันดังกล่าว ถือว่าเป็นสถานการณ์วิกฤตที่รัฐบาลต้องทราบและพิจารณาหาทางแก้ไขวิกฤตดังกล่าวนั่นเป็นสถานการณ์ในภาคอีสานบางส่วน
ในภาคใต้ มีรายงานว่า จากภาวะฝนทิ้งช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเริ่มแล้งหนัก ส่งผลกระทบต่อป่าพรุควนเคร็ง ระดับน้ำใต้ผิวดินระเหยอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ระดับน้ำจะเสมอดิน ทำให้พรุเริ่มแห้ง หลายพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า
จากการเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2567 ทำให้ทราบว่ามีหลายส่วนราชการมีศักยภาพในการนำน้ำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละส่วนราชการทำงานแยกส่วน ต่างหน่วย ต่างทำ ถ้าไม่บูรณาการ มอบหมายงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเป็นระบบ งานก็จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น
ณ สถานการณ์ความเดือดร้อนในปัญหาภัยแล้งเช่นนี้ รัฐบาลควรบูรณาการทุกภาคส่วนด้วยการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแห่งชาติขึ้น หรือหากมีอยู่แล้ว ก็ปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยหน่วยที่ควรมี ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข เป็นอาทิ
หน่วยที่จะช่วยงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ทันที คือกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีแผนที่น้ำใต้ดิน มีเครื่องมือ อุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาล กรมฝนหลวง มีเครื่องบินทำฝนหลวงให้ฝนตกเหนือเขื่อยกรมชลประทาน กรม ปภ. หน่วยทหารพัฒนา ทุกหน่วยมีความพร้อม แต่ต่างหน่วย ต่างทำ ถ้ามีผู้บูรณาการ จะทำให้งานแก้ไขปัญหาภัยแล้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประการสุดท้ายเป็นงานระยะปานกลาง และระยะยาว คือ การปลูกป่า และการรักษาป่าต้นน้ำลำธาร มีกรณีศึกษาที่มีการแผ้วถางป่าบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จนเกิดกรณีพิพาทระหว่างกรมอุทยาน ฯ กับสำนักงาน สปก. นาย
ชวลิต กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครผิด ใครถูก ยังไม่ทราบ แต่ที่เห็นตรงกัน คือ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ สปก.ในพื้นที่ป่าและพื้นที่ลาดชันได้
คลังเก็บรายได้รัฐ 4 เดือนแรก ต่ำกว่าเป้า 8.8 พันล้าน สรรพสามิตรายได้หาย 12%
https://www.prachachat.net/finance/news-1519403
คลังเผยการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ช่วง 4 เดือนแรกต่ำกว่าประมาณการ 8.8 พันล้านบาท สรรพากรเก็บเกินเป้าสูงสุด 9.2 พันล้าน ขณะที่สรรพสามิตเจอผลกระทบอุ้มภาษีน้ำมันรายได้หายกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท
วันที่ 11 มีนาคม 2567 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – มกราคม 2567) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 824,115 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 8,836 ล้านบาท หรือ 1.1 %
โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ เนื่องจากมีการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน ขณะที่การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและ การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากรัฐวิสาหกิจบางแห่งมีการนำส่งรายได้เหลื่อมมาจากปีก่อนหน้าและการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าประมาณการเป็นสำคัญ
ขณะที่รายได้รัฐบาลสุทธิจัดเก็บได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.8% เนื่องจากฐานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้พิเศษรวม 36,666 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้รัฐบาลสุทธิจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.7%
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่าสำหรับ กรมสรรพากร เก็บรายได้ 4 เดือนแรก จำนวน 622,691 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 9,299 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5% และ สูงกว่าประมาณการ 6,780 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 1.1%
ขณะที่กรมสรรพสามิต เก็บรายได้จำนวน 172,821 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 12,352 ล้านบาท หรือลดลง 7.7 % และต่ำกว่าประมาณการ 23,744 ล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้า 12.1%
ส่วนกรมศุลกากรเก็บได้ 39,965 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 7,147 หรือลดลง 15.2% แต่สูงกว่าประมาณการ 1,065 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 2.7 %
JJNY : อ้างเลิกกฎพลทหารรับใช้│ไทยสร้างไทยห่วงภัยแล้ง│คลังเก็บรายได้ 4 ด.แรกต่ำกว่าเป้า│หลายปท.ในยุโรปนำเข้าอาวุธ 5 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4465321
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ให้สัมภาษณ์กรณีพลทหารอัดคลิประบายความในใจในการทำหน้าที่พลทหารรับใช้ว่า การนำพลทหารไปทำหน้าที่รับใช้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเก็บขวดเหล้า รวมทั้งการซักเสื้อผ้า กางเกงใน เท่าที่ตรวจสอบตนเข้าใจว่าเป็นคลิปเก่า น่าจะ 2-3 ปีมาแล้ว ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพฤติการณ์หรือพฤติกรรมการนำผลทหารไปใช้งาน ซึ่งเรียกว่าไปบำรุงบำเรอนายพล ควรจะไม่ปรากฏขึ้นอีกในปัจจุบันนับจากนี้เป็นต้นไป
ส่วน กมธ.การทหาร จะตรวจสอบอย่างไร นายวิโรจน์กล่าวว่า เราเคยสอบผ่านในเรื่องนี้ไปว่าระเบียบเรื่องการเป็นทหารรับใช้ยังมีอยู่หรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันจากทางกองทัพว่าระเบียบนี้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่ายังมีการนำเอาพลทหารไปรับใช้รองมือรองเท้านายพลหรือไม่ ซึ่งเท่าที่เรารู้กัน ไม่ใช่แค่รับใช้นายพลที่อยู่ในราชการ แต่คนที่อยู่นอกราชการก็มีสิทธิได้รับนายทหารรับใช้ไปทำงานบ้าน ไปทำภารกิจที่ไม่ใช่งานทหารด้วย เราก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ
เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพลทหารไม่กล้าออกมาแฉตอนที่ยังประจำการอยู่ ทำให้ต้องปล่อยคลิปย้อนหลังจนกลายเป็นคลิปเก่าใช่หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า แน่นอน ซึ่งทาง กมธ.การทหารมีโครงการทหารปลอดภัย ถ้าเราพบว่าพลทหารถูกทรมานทรกรรม ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ก็สามารถร้องเรียนเข้ามาได้ที่ กมธ. เราจะมีไลน์ OA (Line Official Account) โดยตนได้มอบหมายให้เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะรองประธาน กมธ. ดูแล
เมื่อถามว่า ระเบียบการยกเลิกพลทหารรับใช้ยกเลิกตั้งแต่ปีไหน นายวิโรจน์ ระบุว่า ตนเข้าใจว่ายกเลิกไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทางกองทัพก็ชี้แจงว่าไม่มีกฎระเบียบให้นายพลมีพลทหารรับใช้ แต่เข้าใจว่าจะมีการเอาไปใช้โดยพลการหรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบ แต่เรื่องที่น่ากังวลกว่านั้นที่เจอสดๆ ร้อนๆ คือการยึดบัตร ATM ของพลทหารเเล้วนำไปกดเงิน ปัญหานี้ กมธ.จับได้สดๆ และได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ซึ่งโครงการพลทหารปลอดภัยก็จะมีการรับเรื่องเหล่านี้ด้วย
ไทยสร้างไทย ห่วงภัยแล้ง มาเร็วกว่าปกติ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_688083/
ไทยสร้างไทย ห่วงภัยแล้ง มาเร็วกว่าปกติ รุนแรงในรอบหลายปี สั่ง ส.ส.รับฟังปัญหาประชาชน แจ้งรัฐบาลแก้ไข
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย และกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2567 เปิดเผยว่า พรรคไทยสร้างไทยมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคทุกวันอังคาร ตนจะเสนอให้พรรคแจ้ง ส.ส.ของพรรคนำความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องปัญหาภัยแล้งแจ้งให้รัฐบาลบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขอย่างเป็นระบบและอย่างเร่งด่วน
นายชวลิต กล่าวว่า จากข่าวที่ปรากฎต่อสื่อมวลชนจะเห็นได้ว่า ปรากฎการณ์เอลนิโญหรือภาวะโลกร้อนเริ่มแผลงฤทธิ์ ฤดูแล้งปีนี้มาเร็วกว่าปกติและค่อนข้างจะรุนแรงในรอบหลายปี เห็นได้จากเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ได้บินสำรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้งเขื่อนลำแซะ และสำรวจลำน้ำแม่น้ำมูล เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาให้การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ซึ่งเข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตประปาเหลือปริมาณน้ำดิบสามารถจ่ายน้ำให้ประชาชนได้เพียง 48 วัน
การเหลือปริมาณน้ำดิบที่จะผลิตน้ำประปาได้เพียง 48 วันดังกล่าว ถือว่าเป็นสถานการณ์วิกฤตที่รัฐบาลต้องทราบและพิจารณาหาทางแก้ไขวิกฤตดังกล่าวนั่นเป็นสถานการณ์ในภาคอีสานบางส่วน
ในภาคใต้ มีรายงานว่า จากภาวะฝนทิ้งช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเริ่มแล้งหนัก ส่งผลกระทบต่อป่าพรุควนเคร็ง ระดับน้ำใต้ผิวดินระเหยอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ระดับน้ำจะเสมอดิน ทำให้พรุเริ่มแห้ง หลายพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า
จากการเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2567 ทำให้ทราบว่ามีหลายส่วนราชการมีศักยภาพในการนำน้ำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละส่วนราชการทำงานแยกส่วน ต่างหน่วย ต่างทำ ถ้าไม่บูรณาการ มอบหมายงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเป็นระบบ งานก็จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น
ณ สถานการณ์ความเดือดร้อนในปัญหาภัยแล้งเช่นนี้ รัฐบาลควรบูรณาการทุกภาคส่วนด้วยการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแห่งชาติขึ้น หรือหากมีอยู่แล้ว ก็ปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยหน่วยที่ควรมี ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข เป็นอาทิ
หน่วยที่จะช่วยงานแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ทันที คือกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีแผนที่น้ำใต้ดิน มีเครื่องมือ อุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาล กรมฝนหลวง มีเครื่องบินทำฝนหลวงให้ฝนตกเหนือเขื่อยกรมชลประทาน กรม ปภ. หน่วยทหารพัฒนา ทุกหน่วยมีความพร้อม แต่ต่างหน่วย ต่างทำ ถ้ามีผู้บูรณาการ จะทำให้งานแก้ไขปัญหาภัยแล้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประการสุดท้ายเป็นงานระยะปานกลาง และระยะยาว คือ การปลูกป่า และการรักษาป่าต้นน้ำลำธาร มีกรณีศึกษาที่มีการแผ้วถางป่าบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จนเกิดกรณีพิพาทระหว่างกรมอุทยาน ฯ กับสำนักงาน สปก. นายชวลิต กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครผิด ใครถูก ยังไม่ทราบ แต่ที่เห็นตรงกัน คือ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ สปก.ในพื้นที่ป่าและพื้นที่ลาดชันได้
คลังเก็บรายได้รัฐ 4 เดือนแรก ต่ำกว่าเป้า 8.8 พันล้าน สรรพสามิตรายได้หาย 12%
https://www.prachachat.net/finance/news-1519403
คลังเผยการจัดเก็บรายได้รัฐบาล ช่วง 4 เดือนแรกต่ำกว่าประมาณการ 8.8 พันล้านบาท สรรพากรเก็บเกินเป้าสูงสุด 9.2 พันล้าน ขณะที่สรรพสามิตเจอผลกระทบอุ้มภาษีน้ำมันรายได้หายกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท
วันที่ 11 มีนาคม 2567 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – มกราคม 2567) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 824,115 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 8,836 ล้านบาท หรือ 1.1 %
โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ เนื่องจากมีการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน ขณะที่การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและ การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ เนื่องจากรัฐวิสาหกิจบางแห่งมีการนำส่งรายได้เหลื่อมมาจากปีก่อนหน้าและการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าประมาณการเป็นสำคัญ
ขณะที่รายได้รัฐบาลสุทธิจัดเก็บได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.8% เนื่องจากฐานการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้พิเศษรวม 36,666 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้รัฐบาลสุทธิจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.7%
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่าสำหรับ กรมสรรพากร เก็บรายได้ 4 เดือนแรก จำนวน 622,691 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 9,299 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5% และ สูงกว่าประมาณการ 6,780 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 1.1%
ขณะที่กรมสรรพสามิต เก็บรายได้จำนวน 172,821 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 12,352 ล้านบาท หรือลดลง 7.7 % และต่ำกว่าประมาณการ 23,744 ล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้า 12.1%
ส่วนกรมศุลกากรเก็บได้ 39,965 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 7,147 หรือลดลง 15.2% แต่สูงกว่าประมาณการ 1,065 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 2.7 %