JJNY : 5in1 เปิดเบื้องหลัง กมธ.งบ’67│สุดารัตน์ชี้มายด์เซต│โคราชขาดน้ำดิบ│ขอนแก่นข้าวเหนียวมะม่วงขายฝืด│อินเดียทลายแก๊ง

เปิดเบื้องหลัง กมธ.งบ’67 ฝั่งก้าวไกล โหวตหนุนทัพเรือ สู้ซีกรบ. อุทธรณ์ซื้อฟริเกต
https://www.matichon.co.th/politics/news_4461641
 
 
’พนิดา‘ เปิดเบื้องหลัง กมธ.งบฯ ควํ่าซื้อเรือฟริเกต ระบุ ’ก้าวไกล‘ โหวตป้อง ทร. ชี้ เหตุจัดซื้อเหมาะสม ทดแทนลําปลดระวาง-ได้เทคโนโลยี
 
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เปิดเผยภาพรวมการทํางานของ กมธ.ว่า บรรยากาศแตกต่างจากหายปีที่ผ่านมา เพราะการพิจารณางบประมาณล่าช้า ทำให้หลายหน่วยงานงบไปพลางก่อนแล้ว ดังนั้นการตัดลดงบประมาณส่วนใหญ่ จะเป็นงบผูกพันที่ตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้ หรือเป็นงบที่ทาง กมธ.มองว่าไม่จำเป็นจริงๆ
 
ส่วนกรณีที่มีการปรับลดงบประมานโครงการจัดหาเรือฟริเกต 17,000 ล้านบาท น.ส.พนิดา กล่าวว่า ทางกองทัพเรือได้ขออุทธรณ์ จึงมีการพิจารณาเรื่องนี้ใน กมธ.ชุดใหญ่ ทางกองทัพเรือได้ชี้แจงเหตุผลว่า 1. ปัจจุบันมีเรือฟริเกตคอยลาดตระเวน 4 ลํา โดยเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นลำที่เก่าแก่ที่สุด และกำลังถูกปลดระวางในปี 2569 ดังนั้นหากไม่เตรียมจัดซื้อในปีนี้ ก็จะทำให้เหลือเรือคอยลาดตระเวนแค่ 3 ลํา ซึ่งถือว่าน้อย นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าเรือทุกลำจะสามารถลาดตระเวนพร้อมกันทั้งหมด แต่ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียน เพื่อไปซ่อมบำรุง
 
2. การจัดซื้อครั้งนี้ มาพร้อมกับนโยบายออฟเซต (Offset Policy) ที่ระบุว่าต้องมีการต่อเรือในประเทศไทย ทำให้เราจะได้รับเทคโนโลยีในการประกอบเรือด้วย ซึ่งเทคโนโลยีนี้ไม่เคยปรากฎในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์มาก่อน จึงมองว่าเป็นผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย เพราะหากมีการถ่ายทอดวิทยาการเหล่านี้มา ก็อาจเกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้
 
ดังนั้น ทางพรรคก้าวไกล จึงเห็นชอบต่อคําขออุทธรณ์ แต่เสียงโหวตไม่พอ จึงไม่ผ่านการโหวต
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษก กมธ.วิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 67 ระบุว่า ชั้นอนุ กมธ. ปรับลดงบประมาณดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ข้อมูลการจัดซื้อ ไม่มีรายละเอียดที่ลงลึก น.ส.พนิดา กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า รายละเอียดการเสนอราคายังมีไม่พอ เนื่องจากยังไม่มีการผ่านงบประมาณ จึงยังไม่เกิดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
 
แต่โดยหลักการความจำเป็น เรามองว่า สมเหตุสมผล เพราะต้องมีการจัดซื้อในอนาคตอยู่แล้ว หากจัดซื้อได้ทันก่อนมีการปลดระวางเรือลําเก่า ก็จะช่วยสร้างความพร้อม และเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพเรือ เพื่อให้ปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
 
อย่างไรก็ตาม จากการขอข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องรายละเอียดการจัดซื้อ ในชั้นอนุ กมธ. และ กมธ.ชุดใหญ่นั้น มีเพียงข้อมูลคร่าวๆ อาทิ ประเทศที่สนใจจะจัดซื้อ หรือรุ่นของเรือ แต่ก็ไม่ละเอียดพอให้ทาง กมธ.เห็นภาพชัด
 
เมื่อถามว่า มองเรื่องนี้เป็นการเมืองหรือไม่ น.ส.พนิดา กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ฝ่ายรัฐบาลคงมองว่า มีส่วนอื่นจำเป็นกว่า เพราะในการอภิปราย มีการเป็นห่วงปากท้องของประชาชน แต่ทางกองทัพเรือก็ให้เหตุผลว่า ไม่ได้ของบประมาณมากกว่าเดิม เพราะได้ตัดลดงบส่วนอื่น เพื่อจัดซื้อเรือลําใหม่แล้ว ดังนั้นสัดส่วนการของบ ไม่ได้มากจนผิดวิสัย
 
น.ส.พนิดา กล่าวว่า อีกเรื่องที่น่ากังวลคือ การตั้งคำของบประมาณ ปี 68 ถูกส่งไปที่สำนักงบประมาณ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีคำขอเรื่องจัดซื้อเรือฟริเกต และต้องรอทำคำขอใหม่ในปี 69 ซึ่งอาจไม่ทันการปลดระวางเรือหลวงรัตนโกสินทร์ หรือความเป็นไปได้อีกทางคือ ต้องมีการแก้ไขคำของบประมาณ ปี 68 ใหม่



 
สุดารัตน์ ชี้ มายด์เซตคือจุดแข็งของผู้หญิง พร้อมเปิดพื้นที่ให้สตรี มีบทนำทำการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4462078
 
“สุดารัตน์” ชี้ MindSet คือจุดแข็งของผู้หญิงในทางการเมือง คิดทุกอย่างบนหลักความยั่งยืน ยึด Positive Thinking ลุยสู้งาน อึดถึกทน พร้อมเปิดพื้นที่ให้สตรีมีบทบาทนำ เพื่อพัฒนาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ
 
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เนื่องในวันสตรีสากล International Women Day “Change in Challenge” ตอนหนึ่งว่า บทบาทผู้หญิงในทางการเมือง จะมีทั้งโอกาส และความยากลำบากในเวลาเดียวกัน อยู่ที่เราจะมีวิธีการอย่างไร ในการเข้ามาทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
 
คุณหญิงสุดารัตน์มองว่า จุดแข็งของผู้หญิงในทางการเมืองคือ Mind Set โดยเฉพาะธรรมชาติของผู้หญิงในฐานะที่เป็นแม่ ต้องการเห็นอนาคตที่ดี จึงมองทุกอย่างอยู่บนหลักการของความยั่งยืน โดยทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไม่เกี่ยงงาน อึดถึกทน มีความมุ่งมั่นและความพยายามสูง ที่สำคัญคือการคิดแบบ Positive Thinking ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะสิ่งที่ตนได้สัมผัส เมื่อเริ่มต้นการเมือง คือการลงพื้นที่พูดคุยกับพี่น้องประชาชน สัมผัสได้ว่าความต้องการของผู้หญิงตั้งอยู่บนความยั่งยืน เช่นการมีศูนย์เด็กเล็ก มีโรงเรียนที่ดีให้กับลูกหลาน
 
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า การผลักดันให้สตรี เข้ามามีบทบาทในสภา เป็นเรื่องที่พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญ และพยายามผลักดันให้เป็นรูปธรรม แต่เมื่อมาพิจารณาจากค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่พบว่า สัดส่วนของสส.หญิงอยู่ที่ 26.6 เปอร์เซนต์ ส่วนค่าเฉลี่ย ส.ส.หญิงในอาเซียนอยู่ที่ 23 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎร ปี 2535 มี ส.ส.ที่เป็นผู้หญิงของไทยอยู่ที่ 15 คนจาก ส.ส.ในสภาทั้งหมด 360 คนคิดเป็น 4.17 เปอร์เซนต์ เท่านั้น แม้ในปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรปี 2566 จะมี ส.ส.หญิง 97 คนจาก 500 คน หรือคิดเป็น 19.4 เปอร์เซนต์ ของสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม แต่ยังสามารถผลักดัน ให้ ส.ส.หญิงเข้าไปมีบทบาทในสภาเพิ่มขึ้นได้
 
คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำด้วยว่า ตลอดชีวิตทางการเมือง ยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาตลอด ตรงไปตรงมาต่อประชาชน ซื่อสัตย์ต่อประชาชนไม่ทรยศต่อคำพูดของตนเอง แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคมากมายตลอด 32 ปี บนถนนการเมืองก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคจากสรีระหรือความพร้อมของร่างกาย รวมถึงการถูกใส่ร้ายป้ายสีกล่าวหาด้วยความเท็จ เช่น การนำเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ไม่เป็นความจริงมาเล่นงาน
 
ทั้งนี้ ในส่วนของการทำงาน มีหลักคิดที่สำคัญคือการทำงานต้องแจกโอกาส ไม่ใช่คิดแต่การแจกเงิน ต้องทำนโยบายที่สร้างความยั่งยืน พรรคไทยสร้างไทยจึงคิดนโยบายกองทุนเครดิตประชาชน ขึ้นมาโดยให้เปลี่ยนจากการแจกเงิน มาเป็นการแจกเครดิตให้กับประชาชนด้วย “กองทุนเครดิตประชาชน” ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กได้ทำมาหากินอย่างยั่งยื่น สามารถกู้ได้ตั้งแต่ 10,000 บาท ดอกเบี้ยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน หากรักษาเครดิตได้ดีจะกู้เพิ่มได้ไปจนถึง 100,000 บาท เพื่อให้เขาได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว
 
 คุณหญิงสุดารัตน์มุ่งหวังให้พรรคไทยสร้างไทย เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนคนตัวเล็กอย่างแท้จริง เราได้เปิดพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพแก่ผู้หญิงให้มีส่วนร่วมกับการเมือง ผ่านการจัดอบรมหลักสูตร “More Women in Politics (More-WIP)” ด้วยเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนผู้หญิงในการขับเคลื่อนประเทศ และสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายให้เกิดขึ้นจริง
 
รวมถึงการผลักดันนโยบายด้านอื่นๆเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งและความเสมอภาคให้กับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง “กองทุนพลังหญิง” เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีงานทำและมีการ Upskill & Reskill ของตัวเอง, ตั้งศูนย์ “Women Care” เพื่อส่งเสริมและสร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้ผู้หญิง, จัดตั้ง “กองทุนแม่เลี้ยงเดี่ยว” เพื่อให้แม่เลี้ยงเดี่ยวมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง สามารถเลี้ยงดูตัวเองและบุตรได้



โคราชขาดน้ำดิบผลิตประปาหลังลำมูลแห้งขอด
https://www.innnews.co.th/news/local/news_687324/
 
การประปาส่วนภูมิภาคโคราชขาดน้ำดิบผลิตประปา หลังลำมูลแหล่งน้ำดิบหลักแห้งขอด
 
ที่ สถานีสูบน้ำดิบท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นางจรรยมณฑน์ ถวัลย์ภูวนาถ ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจลำน้ำมูลบริเวณด้านหลังสถานีสูบน้ำท่าช้างซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำดิบหลักของการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ซึ่งสภาพลำน้ำมูลในปัจจุบันพบว่าลำน้ำมูลบริเวณนี้แห้งขอดจนเห็นสันดอนดินโผล่พ้นพื้นน้ำขึ้นมา
 
ซึ่งจากสภาพที่แห้งขอดนี้เองทำให้สถานีสูบน้ำท่าช้างไม่สามารถสูบน้ำดิบเพื่อมาผลิตเป็นน้ำประปาได้ ทำให้การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา  นั้นจำเป็นต้องใช้น้ำดิบที่สำรองเอาไว้ภายในสระเก็บน้ำดิบที่บ้านโนนไม้แดง ต.ท่าช้าง นำมาผลิตประปาแจกจ่ายให้กับประชาชนก่อน
 
ซึ่งสระดังกล่าวนี้อยู่บนเนื้อที่กว่า 700 ไร่ ที่บ้านหนองไม้แดง มีความจุประมาณ 4.1 ล้านลูกบาสก์เมตร ทางการประปาส่วนภูมิภาคฯนั้นได้เริ่มใช้น้ำดิบภายในสระมาผลิตประปาตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันนี้เหลือน้ำดิบที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเหลือน้ำผลิตประปาเอาไว้ใช้อุปโภค บริโภค อีกเพียง 47 วัน
 
โดยนางจรรยมณฑน์ เผยว่า การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมานั้นผลิตประปาให้ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบของอำเภอเมือง มีผู้ใช้น้ำประปาประมาณ 45,000 ครัวเรือนร่วมไปถึงภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้สถานการณ์น้ำดิบที่ใช้ผลิตประปานั้นอยู่ในช่วงวิกฤติเนื่องจากปัญหาภัยแล้งทำให้ลำน้ำมูลซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักสำหรับผลิตน้ำประปานั้นแห้งขอดไม่สามารถสูบขึ้นมาเพื่อใช้ผลิตเป็นน้ำประปาได้ทำให้ต้องมีการนำน้ำสำรองภายในสระเก็บน้ำดิบของการประปาฯนำมาผลิตเป็นน้ำประปาเพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น
 
ซึ่งจากปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ภายในสระสามารถผลิตประปาได้อีก 47 วันทำให้ตอนนี้ทางการประปาส่วนภูมิภาคฯได้เตรียมเข้าหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำดิบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในเบื้องต้นเตรียมขอน้ำจากเขื่อนลำแชะที่อำเภอครบุรีให้ส่งน้ำผ่านลำมูลจนมาถึงบริเวณจุดสูบน้ำเข้าสระของสระเก็บน้ำดิบที่บ้านหนองไม้แดงเพื่อสูบน้ำเติมเข้าภายในสระ



ขอนแก่นข้าวเหนียวมะม่วงขายฝืดเหตุศก.ไม่ปัง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_687321/

ข้าวเหนียวมะม่วงขอนแก่นปีนี้ยังเงียกว่าทุกปี คาดมาจากปัญหาเศรษฐกิจและ ข้าวของที่แพงขึ้น
 
ที่ร้านเรไร ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งตั้งอยู่ภายในตลาดโต้รุ่งร่วมจิตร เขตเทศบาลนครขอนแก่น น.ส.กิตติยา ทัศนนพนันท์ อายุ 51 ปี เจ้าของร้านขนมไทยเรไร กำลังเตรียมข้าวเหนียวมะม่วงให้กับลูกค้าที่มาซื้อ ซึ่งในหนึ่งชุดประกอบด้วย ข้าวเหนียวมูลเขี้ยวงูหอมๆ กะทิฉ่ำๆ และมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ของอำเภอบ้านแฮด ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติความหวาน ที่เป็นมาตรฐานระดับของฝากส่งออกทั่วประเทศและต่างประเทศ โดยบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายข้าวเหนียวมะม่วงในช่วงนี้ เจ้าของร้านบอกว่าเงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน
 
เพราะปกติลูกค้าจะนิยมซื้อข้าวเหนียวมะม่วงในช่วงนี้เริ่มต้นเป็นจำนวนมาก และจะมาแวะเวียนสั่งซื้อเต็มหน้าร้านแล้ว ซึ่งปัจจัยอาจมาจากเศรษฐกิจที่ซบเซาข้าวของแพง โดยที่ร้านจำหน่ายข้าวเหนียวมะม่วงพร้อมทาน ในราคาเริ่มต้นชุดละ 60 บาท หากจะซื้อมะม่วงทางร้านจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท ข้าวเหนียวมูลเขี้ยวงูของทางร้านจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 220 บาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่