ครอบครัวเป็นเซฟโซนให้เราจริงไหม?

ครอบครัวเป็นเซฟโซนให้เราจริงไหม ?
สวัสดีค่ะ หนูอยากถามพี่ๆน้องๆว่า หนูควรอยู่ต่อไปหรือหนูควรออกไปจากครอบครัวหนูดีค่ะ ยาวหน่อยนะคะ
ก่อนอื่นเลย ในครอบครัวหนูมี2ครัวจะเป็นบ้าน หลังแรกเป็นบ้านแม่หนู ส่วนหลังที่2เป็นบ้านยายหนู  
ในบ้านหนูจะคนอยู่ทั้งหมด4คน คือแม่ น้า(แฟนแม่) น้องหนู   ส่วนบ้านหลังที่2จะมีน้า น้าสะใภ้ ลูกของน้า2คน ตา ยาย  หนูมีพี่น้อง3คน ส่วนหนูเป็นลูกคนกลาง
ย้านเวลาไปเมื่อ3ปีที่แล้ว หนูกำลังจะจบปวช.สาขาท่องเที่ยวภาษาอังกฤษ หนูเลยจะปรึกษาแม่จะให้หนูต่อปวส.หรือต่อมหาลัยดี (แต่ในใจหนูอยากเรียนมหาลัยคณะนิติเพราะหนูอยากเป็นทนายความ) หนูเลยโทรหาแม่ แม่หนูจะต่อปวส.หรือมหาลัยดี แม่บอกอยากเรียนอะไรละ แม่ว่าหนูลงมาหาสอบตำรวจทหารดีสอบข้าราชการดีกว่าไหม ตอนนั้นเลยคิดว่าเอาก็เอาผู้ใหญ่ชี้ทางน่าจะเป็นทางที่ดีให้กับเรา (ความฝันที่จะเป็นทนายค่อยๆดับลง) แต่ลองดูสักตั้งคงไม่เสียหาย เลยตัดสินใจดรอปเรียนเผื่ออ่านหนังสือจะไปสอบตำรวจ ตอนนั้นมอรามเขากำลังเปิดรับสมัครนักศึกษา หนูเลยสนใจ ก็สมัครแล้วเรียบร้อยแต่ยังไม่จ่ายเงิน  หนูเลยตัดสินใจบอกแม่ว่าอยากเรียนราม แม่บอกว่าเอาไว้ก่อนได้ไหม ปีหน้าค่อยเรียน แม่ยังไม่มีเงินเลย  (ตอนนั้นหนูอ่านหนังสือช่วยงานแม่อย่างเดียวหนูเลยยังไม่มีเงิน )  หนูก็เข้าใจแม่มากถึงมากที่สุด พอถึงวันสอบตำรวจ น้าแม่แฟนหนูขับรถมาส่งหนูสอบ ตอนนั้นหนูใจฟูมาก เพราะว่าครอบครัวเราคือเซฟโซนที่ดี แต่ถึงวันประกาศสรุปหนูไม่ติดตำรวจ อีกไม่กี่อาทิตย์เขาจะเปิดสมัครทหารพราน สรุปหนูก็สอบไม่ติด ระยะเวลา1ปีเต็มๆ หนูสอบอะไรไม่ติดเลยต่อจากนั้นประมาน3วัน แม่ก็เริ่มพูดละเมื่อไรจะหางานหาการทำสักที หนูก็ไปสมัครโรงแรม,โลตัส,บิ้กซี ระหว่างรอเขาเรียกสัมภาษณ์ตอนนั้นแฟนให้เงินทุนหนู3500 หนูเลยลองขายไก่ทอด ใช่ค่ะ หนูขายไก่ทอดได้3อาทิตเจ๊งไม่รอดคนไม่ติดค่าที่ลงสุดแพง ไก่ขายหมดแต่เงินไม่เหลือ  ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่  ตอนนั้นมีโทรศัพจากโรงแรมพัทยาโทรมาให้หนูไปสัมภาษณ์ หนูดีใจมากเลยบอกแม่ว่า แม่มีคนโทรมาให้สัมภาษณ์งานแล้ว แม่บอกว่าไปทำที่ไหน โรงแรมที่พัทยาเขาให้ไปสัมภาษณ์วันศุกร์นี้ แม่บอกทันที่โอ้ยพัทยาไกลก็ไกล(บ้านหนูอยู่สัตหีบ) ไม่ต้องไปหรอกไหนค่ารถละ ค่ากินเงินเดือนกว่าจะออก หนูเลยถามสรุปจะให้ไปไหม ไม่ต้องไปหรอกไกลหาแถวๆบ้านเนี่ยใกล้ๆ
เสร็จปุ๊ปลุงโทรให้แม่หาคนงานให้หน่อยจะให้ไปขัดพื้น แม่บอกหนูไปขัดพื้นไหม ไปทำกับลุง หนูคิดว่าแค่ขัดพื้น หนูเลยบอกว่าไม่รู้(ในใจนอยด์ๆเรื่องทำงานโรงแรม) แม่บอกแค่ขัดพื้นเองงานหมูๆ หนูเลยบอกไปก็ไป แม่บอกพรุ่งนี้เตรียมตัวลุงจะรับไปทำงาน  ใช่แล้วค่ะหนูไม่ได้ทำงานโรงแรม แต่หนูไปทำงานกับลุงไปถึงหน้างาน หนูทำทุกอย่างไม่ใช่แค่ขัดพื้น ทาสีบ้านทาสีรั้ว แย็กปูนเก่าออก เทปูนใหม่ ผสมปูน ยกปูน ยกหิน ปูกระเบื้อง เอาถุงปูนเก่าไปทิ้ง  ตัดเหล็ก ส่วนขัดพื้นที่แม่ก่อนหน้าไม่ได้ขัดค่ะ จ้างคนอื่นมาขัดแทนเขามีเครื่องมาขัดเลย  หนูงานกับลุงตลอด3เดือน (หนูไม่เคยคิดในหัวเลยว่าหนูต้องมาทำแบบนี้) สุดท้ายสิ่งที่ไม่ชอบก็ได้มาทำ  หนูทำงานเสร็จถึงบ้านเอาเงินแบ่งให้แม่ด้วยไปทำงานมา เหลือประมาน10วันจะสงกรานต์ หนูพอมีทุนหนูเลยถามแม่ แม่สงกรานต์หนูขายน้ำเครื่องดื่มต่างๆดีไหม หนูมีทุนอยู่แม่บอกโอ้ยจะขายทำไมน้ำ ขายไม่ดีไม่ได้หรอก จะขายขายข้าวดีกว่า ทำข้าวกล่องไปขายนู่น ใช่ค่ะหนูฟังแม่ ทำข้าวกล่องไปขาย แม่ให้หนูทำตั้งแต่ตี2เพื่อจะไปขายหน้าอำเภอก่อนค่อยไปขายที่เขาเล่นสงกรานต์ต่อ สรุปเจ๊งค่ะบูดหมด จากนั้นหนูพยายามหางานทั้งสมัครโรงแรมโรงงานทั้งงานบริการเสริฟ ตลอดเวลา3เดือนไม่มีใครเรียกหนูเลย หนูมีเงินเก็บก้อนสุดท้ายลงทุนขายเสื้อผ้า หนูเลยติดรถแม่ไปขายตลาดนัดด้วย(แม่ก็ขายของตลาดนั้นด้วย) สรุปไม่เจ๊งค่ะ ขายได้ด้วยวันนั้นขายได้500 หนูดีใจมาก จากนั้นก็ขายเลื่อยๆอาทิตนึ่งหนูได้ไปตลาดนัดแค่3วันระหว่างรองานขายได้ไม่มากอย่างน้อยเราก็มีเงินไม่ใช่อยู่เฉยๆ ตอนนั้นหนูเห็นบ้าน2ชั้นสวยมาก นั้งรถไปกับแม่ หนูบอกแม่ๆบ้านนั้นสวยเนาะ แม่เริ่มพูด ซื้อสิ เก็บเงินซื้อสิ หาทำงานทำการสิจะได้มีตังมาซื้อ เชื่อไหมน้ำตาหนูไหลไม่รู้ตัว พอผ่านไปได้เดือนหนึ่งมีโรงงานนึ่งแถวปิ่นทองโทรมาให้หนูไปสัมภาษณ์ หนูเลยบอกแม่พรุ่งนี้หนูไปสัมภาษณ์งานนะ แม่ถามที่ไหน โรงงานแถวปิ่นทอง น้า(แฟนแม่)บอก โอ้ยจะไปทำหรอทำไหวหรอ เพื่อนน้าทำยังไม่ไหวเลย แม่ก็บอกไปอะมีเงินหรอ จะไปนะ หนูบอกว่าเงินมี3พันเงินขายผ้านั้นแหละเก็บเล็กผสมา
แค่นั้นจะพออะไรอย่างน้อยๆมีเงินสัก5พันถ้าจะไปไหนจะไปเช่าห้องอีกละ ไหนจะค่ารถค่ากินค่าเดินทาง จะไปจะไม่กินเลยงั้ย  หนูเลยบอกว่าแล้วแม่จะให้หนูทำงานอะไรบอกมา แม่บอกก็เซเว่นไง เซเว่นไง ทำสิเซ่เว่นใกล้ๆบ้าน มีคำนึ่งที่แม่พูดออกมา น้ำตาหนูไหลเลย กูเห็นนั้งๆนอนๆกินๆอยู่บ้านได้ ไม่เห็นจะดิ้นรนไป งานแถวบ้านเยอะแยะหาทำสิ จะเหาะไปทำไกลทำไม  วันนั้นหนูไปบ้านยาย ตาเล่าให้ฟังว่า อย่าไปบอกแม่นะมันมาบ่น แม่อะมาบ่นให้กูฟัง ว่างานบ้านก็ไม่ช่วยทำให้แต่น้องทำ กินๆนอนๆไม่ยอมไปสมัครงานหางานทำ งานใกล้ๆบ้านมีก็ไม่ทำ ขายอะไรก็เจ้งไปหมด ขายผ้าได้ก็ไม่เคยจะให้ไม่เคยเติมน้ำมันรถ กับข้าวไม่เคยจะให้ซื้อกิน ให้ไปทำเซเว่นก็ไม่ไป เลือกงาน ที่พี่มันยังทำได้เลย(พี่หนูทำเซเว่นที่กทม.) ค่าน้ำมันไปสอบก็ไม่จ่ายให้ ค่าน้ำมันไปขายผ้าก็ไม่ให้ ไหนจะกินอีก ไวไฟฟายก็ใช้ก็ไม่คิดจะจ่ายให้  ตอนแรกก็ไม่คิดว่าแกจะพูดกับยายหนูคิดว่าตาหลอกด่าเราหรือป่าว แต่ไม่ใช่เลยน้าสะใภ้ก็บอกหนู เพราะต่อหน้าแกไม่เคยพูดเรื่องค่าทุกอย่างเลย หนูจะไปทำงานก็ไม่ให้หนูไปพอหนูอยู่ก็ว่าหนูเกาะแม่กิน พอหนูเคยผ้าก็ว่าหนูเอารถไปเปลืองค่าน้ำมัน พอหนูสมัครเซเว่นแต่เขาไม่รับเขาก็บอกให้สมัครใหม่เร็วๆ ที่อื่นเปิดรับสมัครเยอะแยะ ส่วนน้องหนูแม่ตามใจทุกอย่าง เป็นผู้ชายอายุ15ปี แม่ยังรีดผ้าซักผ้าให้เลย ขนาดเสื้อหนูติดในถังเครื่องสักผ้าตัวเดียวเขายังเอาออกไม่ซักให้หนูเลย หนูบอกน้องว่าให้อ่านหนังสือบ้างเล่นแต่โทรศัพท์ เขายังว่าหนูว่าจะไปยุ่งวุ่นวายอะไรนักหนามันจะอ่านเองแหละ พี่คนโตขอเงินค่าน้ำมันมอไซค์300 ทุกอาทิตย์ไม่เคยบ่นเลย หนูขายผ้าวันนั้นได้70บาท ค่าล็อคหนูก็ไม่มีหนูยืมแม่130บาทจ่ายค่าล็อค เขาทำไม่พอใจประชดประชันใส่ ตอนหนูอายุ13หนูยากได้โทรศัพท์แม่ก็ไม่เคยซื้อให้เราต้องไปรับจ้างเก็บซื้อไอโฟน5ได้ ไอโฟน5ใช้จนหนูอายุ19 ตอนหนูอยู่หอเรียนปวช.แม่โอนให้200 หนูดีใจมากนึกว่าให้วันละ200ที่ไหนได้ให้กิน3วัน แต่ส่วนน้องหนูให้วันละ100บาง 80บาง
ตลอดเวลาหนูมาอยู่บ้าน3ปี เขาจะพูดเปรียบเทียบพี่คนโตตลอด ว่าพี่ไม่เคยจะเสียอะไรมากเลยทำงานก็โอนมาให้ทุกเดือนเดือนละหมื่นบาง5พันบาง น้องมันอยากได้โทรศัพท์ก็ซื้อให้ตลอด แม่อยากได้อะไรก็ซื้อให้ตลอด ไม่ได้มาเรื่องมากเรื่องงานมันจบเกษตรมามันยังทำงานอีกอย่าง ไม่มีใครทำงานตรงสายหรอก มันทำเซเว่นเป้นลองผู้จัดการมันยังอยู่ของมันได้ (พอหนูไปสมัครเซเว่นเขารับแต่ไรเดอร์ ก็ไล่ให้หนูไปทำใบขับขี่ จะได้สมัครเซเว่น) เวลาแม่รีดผ้าให้น้องหนูจะบอกว่าแม่ทำไมไม่ให้มันรีดเองบ้างอายุ15แล้วทำได้แล้ว แม่บอกมันรีดไม่เรียบยับไปหมดใส่ไปก็อายเพื่อนป่าวๆ ตัดมาที่หนูไม่มีใครสอนเลยดูยายรีดเอาแล้วทำตาม จำได้เลยเสื้อนักเรียนไหม้ข้างหลังไม่มีใครทำให้เลย กระเป๋าน้องขาดให้ตังไปซื้อใหม่ ส่วนหนูขาดเอาเข็มกับด้ายให้หนูเย็บ บางทีน้องอยากกินต้มหัวไชเท้าของโปรดน้อง แต่หนูไม่กินไชเท้าเขาก็ไม่สนใจหนูเขาก็ต้มใชเท้า3วันติด เมื่อ3ปีก่อนพี่หนูสอบจ่าหารเรือไม่ติด เขาเลยไม่ให้หนูเลยอยากให้หนูมาสอบตำรวจ พอไม่ติดเขาจะให้หนูมาทำเซ่เว่นเหมือนพี่หนู อย่างเมื่อวานหนูจะลงทุนเอาเสื้อเด็กมาขายแล้วหนูอยู่ตลาดนัดหนูลืมเอากระเป๋าเงินสดมา หนูเลยบอกแม่ว่าหนูลืมเอากระเป๋าตังมาจ่ายให้หนูก่อนได้ไหมโอนให้หนูได้ไหม390บาท เขาจะตัดยอดตอน6โมงขนส่งมาจะได้ทันรอบวันนี้ แม่บอกว่า อย่าพึ่งมาขอยังขายของไม่ได้ จะซื้ออะไรหนักหนาผ้า แค่นั้นก็ขายให้มันหมดก่อนเถอะ จะสั่งอะไรหนาหน้าไร้สาระ น้ำตาหนูคลอเดินมาแฟนถามว่าเป็นอะไรหนูก็ไม่พูด จนให้แฟนเดินไปเอาเงินสดให้ลีลายื้อเวลาไว้โอนให้ตอน6โมงครึ่งซึ่งร้านผ้าเขาตัดรอบไปแล้ว ถ้าส่งวันนั้นหนูจะได้ผ้ามาขายพอดี เรื่องล่าสุดแม่อยากได้ที่ดินข้างบ้าน เงินเดือนต่อขายผ้าได้ยังไม่ถึง3พันงานก็ยังไม่โทรเรียก เขาบอกว่าให้หนูออกค่าที่ดินกับเขาคนละ5พัน หนูเลยบอกว่าหนุหาให้ไม่ได้หรอก5พัน หนูยังไม่มีงาน ก็หางานสิ ทำงานสิ อยู่แบบนี้จะมีไหมบ้านรถนะ หนูถามคำถามเดิม แบบจะให้หนูทำงานอะไร เซเว่นไง ไปทำสิ พี่ยังทำได้เลยทำไมจะไม่ได้เลือกงานแบบนี้จะรวยเมื่อไร หนูไปสมัครแล้วเขารับแต่ไรเดอร์ แม่บอกก็หาเงินมาใบขับขี่สิ  อีก3วันต่อ หนูกำลังจะไปสมัครงานที่โรงแรมนาจอมเทียน บอกหนูจะไปไหน หนูบอกจะไปสมัครงาน สมัครงานที่ไหนอีกอะ โรงแรมนาจอมเทียน บอกหนูว่าไกล ใครจะไปส่ง จะเอาตังจากไหนไปทำงานรถรับส่งเขาไม่มี จะไปทำทำไม ไม่ต้องไป ไปทำไมไปกลับ+-ดูดิกว่าจะได้กินเงินเดือน  ตาหนูน้าสะใภ้หนูก็เป็นนาตาชาบอกหนุตลอดว่าเขาบ่นหนูตลอดเวลามาบ้านยาย มีเงินขายผ้าได้ก็ไม่เคยให้ มีตังก็ไม่จะซื้อกับข้าวมากิน ช่วยทำงานก็ให้  พอแฟนหนูมาหาบ่อยๆ
ก็ว่าหนูเดียวก็ท้อง พอหนูอ้วนก็หาว่าหนูกินยาคุม พอแฟนคุยด้วย ก็พูดเมื่อก่อนเนี่ยคบกับพ่อพี่คนโต (พี่คนโตละพ่อกับหนู หนูกับน้องคนเล็กพ่อเดียวกัน) ยายไม่ต้องทำอะไรเลยเขามาขอมาแต่งถึงบ้าน ยายไม่ต้องเตรียมอะไรสักอย่าง ชุดเจ้าสาวเขาก็พาไปตัดทองก็พาไปซื้อ ปีที่แล้วหนูได้สมัครรามอีกครั้งซึ่งหนูจ่ายตังค่าเทอมเรียบร้อย(เอาเงินที่ขายผ้ามาจ่าย)ตอนหนูบอกแม่ว่าหนูสมัครเรียนแล้วนะ แม่ถามเรียนอะไรเรียนราม แม่บอกแม่ไม่มีเงินหรอก ไม่ต้องเรียนหรอกเนาะให้น้องเรียนแทน ส่งเสียน้องดีกว่าไม่ต้องเรียนแล้ว หนูเลยบอกว่าค่าเทอมหนูจ่ายแล้ว เหลือแต่ไปสอบ สรุปตอนหนูได้ไปสอบหนูไม่ได้ไป แม่ไม่ให้ไปบอกไม่ใีเงินค่ารถให้หนูไปสอบตั้งหลายวันไหนจะค่าโรงแรมอีก ค่อยสอบแก้เอาเดียวจะจ่ายค่าสอบแก้ให้  พอสอบแก้หนูจ่ายเองแม่บอกเหมือนเดิมไม่มีเงินให้หนูออกไปก่อน สรุปวันสอบแก้หนูก็ไม่ได้ไป ต้องเรียนใหม่หมดเลย หนูนั่งร้องไห้ทำไมต้องเป็นหนูด้วยละ หนูจะมำอะไรจากตัวเองไม่ได้เลยหรอ หรือเพราะเขากลัวหนูใช้เงินเขา
หนูไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ต้องการอะไรกับหนูตอนนี้ หนูอยากไปทำงานก็ไม่ให้หนูไป พอหนูไม่ไปก็บ่นหนู หนูลืมปิดพัดลมใช้ไฟฟ้าเยอะก็ว่าหนูไม่ยอมช่วยค่าไฟ หนูไม่รู้เขาต้องการอะไรจากหนู(ตอนนี้พิมไปร้องไห้ไป) หนูซื้อขนมมากินไม่แบ่งน้องก็บแกว่าหนูงกกับน้อง หนูควรอยู่หรือหนูควรไปดีค่ะ เหมือนหนูอยู่ตัวคนเดียวในบ้านที่หลายคนอยู่ คิดมากทุกวันค่ะ บางทีแม่ก็ไม่ได้ว่าหนูตรงๆชอบว่าลับหลังชอบพูดลับหลังหนู หนูไม่ได้มาประจานแม่ตัวเองให้คนอื่นสมน้ำหน้า แต่หนูมาระบายอยากถามทุกคนว่าหนูควรไปต่อไหม หนูว่าเราห่างกันความสัมพันธ์มันจะดีกว่าหรือป่าวค่ะ หนูเหมือนเป็นภาระให้ทางบ้านเลยค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่