วันนี้มีเรื่องมาเล่า เกี่ยวกับการถูกหลอกให้โอนค่าที่พักกันนะครับ (จะว่าหลอกก็ไม่ได้เราโอนไปเองเนอะ 555)
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 24 ก็นั่งหาดูที่พักเขาค้อตามปรกติอย่างที่เคยทำตลอด
ไปเจอเพจที่พักแห่งหนึ่งซึ่งก็คุ้นๆอยู่นะว่าราคาอยู่ที่ประมาณ 3-3500/คืน แต่ในเพจปลอม(มารู้ทีหลังว่าปลอม) ลงราคา 2000
เลยเข้าไปสอบถามตกลงจองห้องพักและโอนเงินไปตามปรกติ
ประมาณ 5 นาทีมีข้อความขึ้นมาว่าท่านต้องจ่ายค่ามัดจำห้อง 1000 บาท โดยต้องโอนไปอีกบัญชีที่เป็นคนละชื่อกับครั้งแรก
เราก็เริ่มแปลกใจและ ที่ผ่านมาจองที่พักไม่เคยมีให้โอนค่ามัดจำอะไรนี่หว่า
เลยเข้าไปค้นหาเพจเพื่อจะหาเบอร์โทรติดต่อ ความจริงเริ่มชัดขึ้นคือไปเจอเอาหน้าเพจชื่อเดียวกันระบุว่า
ระวังเพจปลอม บอกกับตัวเองทันที
ว่าโดนแน่แล้วเลยโทรไปที่เพจจริงแจ้งว่ามีการรับจองในชื่อเรามั้ย เพจจึงบอกว่าไม่มีเราน่าจะโดนบัญชีม้าหลอกแนะนำให้เรารีแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่อายัดบัญชีปลายทาง คราวนี้ก็ว้าวุ่นเลย ติดต่อไปที่เพจปลอมเพื่อขอเงินคืนก็ได้รับคำตอบว่าไม่คืนหลังจากนั้นก็บล็อคเราทันที เป็นอันว่าจบ โดนโกงแน่ๆ
มาถึงขั้นตอนดำเนินการกัน
1. หลังจากรู้ว่าโดนแน่ๆแล้วก็หาข้อมูลทุกทางจนไปเจอเพจของตำรวจไซเบอร์ก็เลยส่งข้อความติดต่อไป ก็ดันกลายเป็นเพจปลอม(ซึ่งก็มาทราบทีหลังว่าเป็นเพจปลอม เนื่องจากมีการโทรไปที่ 1441 สำเร็จแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีการรับแจ้งผ่านช่องทางอื่นนอกจาก 1441) ซึ่งจะมีการให้เรา add line คุยกับทนายอาสา(ก็คาดว่าน่าจะปลอมอีกเช่นกัน) มาถึงตรงนี้ย้ำนะครับ พยายามติดต่อ 1441 เท่านั้น หลังจากติดต่อได้(ซึ่งนานมาก แต่คุ้มค่ามากครับที่ติดต่อได้) เจ้าหน้าที่ก็จะประสานงานกับธนาคารต้นทางของเราเพื่อคุยสอบถามข้อมูลกับเราร่วมกับเจ้าหน้าที่ 1441 เพื่ออายัดบัญชีปลายทางที่เราโอนยอดไปภายใน 72 ชม. เมื่อสำเร็จ เจ้าหน้าที่จะส่งข้อความมาให้เรา เพื่อนำไปติดต่อ สถานีตำรวจเพื่อใช้แจ้งความดำเนินคดี
2.ขั้นตอนการเข้าแจ้งความที่โรงพัก ก็เตรียมข้อมูลการโดนโกงเช่น ข้อความที่คุยกัน ชื่อเพจ หลักฐานการโอน สำเนาบัตรประชาชน ตรงนี้เจ้าหน้าที่จะให้เราไปขอ สเตทเม้น ของวันที่เราโอนเงินให้มิจฉาชีพ(มาถึงตรงนี้เรียกมิจฉาชีพได้เต็มปากและ) จากธนาคารมาให้เพิ่มเติมนะครับ หรือถ้าใครสะดวกก็ขอมาได้เลย ตรงนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งความแนะนำเพิ่มเติมมาอีกว่าถ้าเป็นไปได้ ควรแจ้งความ ณ.สน ที่เกิดเหตุ (สน. ที่เราทำการโอนเงินค่าเสียหาย) ดีที่สุด ตรงจุดนี้เราจะได้เอกสารที่เรียกว่าใบแจ้งความครับ.......ยังไม่จบเท่านี้ เจ้าหน้าที่จะนัดเราเพื่อให้สารวัตรสอบปากคำต่อ
ในขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายเรียกเจ้าตัวให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 26 มกราคม 24
3. วันสอบปากคำ เราก็จะต้องรับการสอบปากคำเพื่อบันทึกสำนวน เพื่อเจ้าหน้าที่จะใช้ในการทำสำนวนเพื่อออกหมาเรียกผู้กระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา (ลึมเล่าไป ระหว่างรอกระบวนการนี้ประมาณ 1 เดือน ท่านผู้หมวดเจ้าของคดีจะโทรมาหาเรา เพื่อ update ความคืบหน้าคดีตลอดเช่น รู้ชื่อที่อยู่แล้ว ได้ประสานกับสืบให้ลงพื้นที่ตามตัวผู้กระทำผิดแล้วแต่ไม่พบตัว
4. วันที่ 23 กุมภา 24 ท่านผู้หมวดเจ้าของคดีได้โทรมาบอกว่าผู้กระทำความผิด ได้โทรติดต่อมาว่าได้รับหมายเรียกและจะขอเจรจาเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งในวันเดียวกัน ผู้กระทำความผิดก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอชดใช้ค่าเสียหาย
5. วันที่ 07 มีนาคม 24 ได้มีเงินโอนเข้ามาระบุชื่อผู้โอนคือผู้กระทำความผิด หลังจากนั้นท่านผู้หมวดเจ้าของคดีจะโทรมาหาเรา เพื่อให้เราเข้ามาดำเนินการถอนแจ้งความ เราเองก็เลยรีบขับรถไปที่สถานีตำรวจภายใน 10 นาทีเพื่อทำการถอนแจ้งความทันที เพราะไม่อยากที่จะต้องเสียเวลาไปกับการที่จะต้องมาขึ้นศาลต่ออีก
เป็นอันว่าจบเรื่องราวของการติดตามเงินคืนมูลค่า 2,000 บาท ใช้เวลาในการได้คืน 62 วัน เงินน้อยหรือมากก็คือเงินเราครับ หวังว่าสิ่งที่เล่ามาจะพอเป็นแนวทางและสร้างความหวังให้พี่ๆน้องๆ ในการทวงเงินคืนนะครับ ผมจะสรุปขั้นตอนให้ฟังคร่าวๆนะครับ
1. ก่อนอื่นข้อแรกพยายามอย่าโดนโกง แต่ถ้ารู้ว่าโดนโกงแน่ๆแบบผม ให้รีบโทรแจ้งธนาคารของเราเพื่ออายัดเลขบัญชีปลายทางครับ เพราะตอนนี้มีกฏหมายคุ้มครองเรื่องนี้ หรือโทร 1441 เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดีมากๆครับ
2. นำหนักฐานที่มีเข้าไปแจ้งความที่ สน.เกิดเหตุ หรือไกล้บ้าน หลักฐานการโอน การพูดคุย ชื่อเพจ บัตรประชาชน สเตทเม้น ของวันที่เราโอนเงิน
3. เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมตามวันนัดหมาย หลังจากนั้นก็รอให้เจ้าหน้าที่หรือผู้กระทำผิดติดต่อเราเพื่อเจรจา
4. ถ้าขั้นตอนที่ข้อ 3 ไม่เกิดขึ้น ก็รอวันที่ศาลจะนัดต่อไปครับ

เตือนภัยโอนจองที่พัก
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 24 ก็นั่งหาดูที่พักเขาค้อตามปรกติอย่างที่เคยทำตลอด
ไปเจอเพจที่พักแห่งหนึ่งซึ่งก็คุ้นๆอยู่นะว่าราคาอยู่ที่ประมาณ 3-3500/คืน แต่ในเพจปลอม(มารู้ทีหลังว่าปลอม) ลงราคา 2000
เลยเข้าไปสอบถามตกลงจองห้องพักและโอนเงินไปตามปรกติ
ประมาณ 5 นาทีมีข้อความขึ้นมาว่าท่านต้องจ่ายค่ามัดจำห้อง 1000 บาท โดยต้องโอนไปอีกบัญชีที่เป็นคนละชื่อกับครั้งแรก
เราก็เริ่มแปลกใจและ ที่ผ่านมาจองที่พักไม่เคยมีให้โอนค่ามัดจำอะไรนี่หว่า
เลยเข้าไปค้นหาเพจเพื่อจะหาเบอร์โทรติดต่อ ความจริงเริ่มชัดขึ้นคือไปเจอเอาหน้าเพจชื่อเดียวกันระบุว่า ระวังเพจปลอม บอกกับตัวเองทันที
ว่าโดนแน่แล้วเลยโทรไปที่เพจจริงแจ้งว่ามีการรับจองในชื่อเรามั้ย เพจจึงบอกว่าไม่มีเราน่าจะโดนบัญชีม้าหลอกแนะนำให้เรารีแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่อายัดบัญชีปลายทาง คราวนี้ก็ว้าวุ่นเลย ติดต่อไปที่เพจปลอมเพื่อขอเงินคืนก็ได้รับคำตอบว่าไม่คืนหลังจากนั้นก็บล็อคเราทันที เป็นอันว่าจบ โดนโกงแน่ๆ
มาถึงขั้นตอนดำเนินการกัน
1. หลังจากรู้ว่าโดนแน่ๆแล้วก็หาข้อมูลทุกทางจนไปเจอเพจของตำรวจไซเบอร์ก็เลยส่งข้อความติดต่อไป ก็ดันกลายเป็นเพจปลอม(ซึ่งก็มาทราบทีหลังว่าเป็นเพจปลอม เนื่องจากมีการโทรไปที่ 1441 สำเร็จแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีการรับแจ้งผ่านช่องทางอื่นนอกจาก 1441) ซึ่งจะมีการให้เรา add line คุยกับทนายอาสา(ก็คาดว่าน่าจะปลอมอีกเช่นกัน) มาถึงตรงนี้ย้ำนะครับ พยายามติดต่อ 1441 เท่านั้น หลังจากติดต่อได้(ซึ่งนานมาก แต่คุ้มค่ามากครับที่ติดต่อได้) เจ้าหน้าที่ก็จะประสานงานกับธนาคารต้นทางของเราเพื่อคุยสอบถามข้อมูลกับเราร่วมกับเจ้าหน้าที่ 1441 เพื่ออายัดบัญชีปลายทางที่เราโอนยอดไปภายใน 72 ชม. เมื่อสำเร็จ เจ้าหน้าที่จะส่งข้อความมาให้เรา เพื่อนำไปติดต่อ สถานีตำรวจเพื่อใช้แจ้งความดำเนินคดี
2.ขั้นตอนการเข้าแจ้งความที่โรงพัก ก็เตรียมข้อมูลการโดนโกงเช่น ข้อความที่คุยกัน ชื่อเพจ หลักฐานการโอน สำเนาบัตรประชาชน ตรงนี้เจ้าหน้าที่จะให้เราไปขอ สเตทเม้น ของวันที่เราโอนเงินให้มิจฉาชีพ(มาถึงตรงนี้เรียกมิจฉาชีพได้เต็มปากและ) จากธนาคารมาให้เพิ่มเติมนะครับ หรือถ้าใครสะดวกก็ขอมาได้เลย ตรงนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งความแนะนำเพิ่มเติมมาอีกว่าถ้าเป็นไปได้ ควรแจ้งความ ณ.สน ที่เกิดเหตุ (สน. ที่เราทำการโอนเงินค่าเสียหาย) ดีที่สุด ตรงจุดนี้เราจะได้เอกสารที่เรียกว่าใบแจ้งความครับ.......ยังไม่จบเท่านี้ เจ้าหน้าที่จะนัดเราเพื่อให้สารวัตรสอบปากคำต่อ ในขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายเรียกเจ้าตัวให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 26 มกราคม 24
3. วันสอบปากคำ เราก็จะต้องรับการสอบปากคำเพื่อบันทึกสำนวน เพื่อเจ้าหน้าที่จะใช้ในการทำสำนวนเพื่อออกหมาเรียกผู้กระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา (ลึมเล่าไป ระหว่างรอกระบวนการนี้ประมาณ 1 เดือน ท่านผู้หมวดเจ้าของคดีจะโทรมาหาเรา เพื่อ update ความคืบหน้าคดีตลอดเช่น รู้ชื่อที่อยู่แล้ว ได้ประสานกับสืบให้ลงพื้นที่ตามตัวผู้กระทำผิดแล้วแต่ไม่พบตัว
4. วันที่ 23 กุมภา 24 ท่านผู้หมวดเจ้าของคดีได้โทรมาบอกว่าผู้กระทำความผิด ได้โทรติดต่อมาว่าได้รับหมายเรียกและจะขอเจรจาเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งในวันเดียวกัน ผู้กระทำความผิดก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอชดใช้ค่าเสียหาย
5. วันที่ 07 มีนาคม 24 ได้มีเงินโอนเข้ามาระบุชื่อผู้โอนคือผู้กระทำความผิด หลังจากนั้นท่านผู้หมวดเจ้าของคดีจะโทรมาหาเรา เพื่อให้เราเข้ามาดำเนินการถอนแจ้งความ เราเองก็เลยรีบขับรถไปที่สถานีตำรวจภายใน 10 นาทีเพื่อทำการถอนแจ้งความทันที เพราะไม่อยากที่จะต้องเสียเวลาไปกับการที่จะต้องมาขึ้นศาลต่ออีก
เป็นอันว่าจบเรื่องราวของการติดตามเงินคืนมูลค่า 2,000 บาท ใช้เวลาในการได้คืน 62 วัน เงินน้อยหรือมากก็คือเงินเราครับ หวังว่าสิ่งที่เล่ามาจะพอเป็นแนวทางและสร้างความหวังให้พี่ๆน้องๆ ในการทวงเงินคืนนะครับ ผมจะสรุปขั้นตอนให้ฟังคร่าวๆนะครับ
1. ก่อนอื่นข้อแรกพยายามอย่าโดนโกง แต่ถ้ารู้ว่าโดนโกงแน่ๆแบบผม ให้รีบโทรแจ้งธนาคารของเราเพื่ออายัดเลขบัญชีปลายทางครับ เพราะตอนนี้มีกฏหมายคุ้มครองเรื่องนี้ หรือโทร 1441 เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดีมากๆครับ
2. นำหนักฐานที่มีเข้าไปแจ้งความที่ สน.เกิดเหตุ หรือไกล้บ้าน หลักฐานการโอน การพูดคุย ชื่อเพจ บัตรประชาชน สเตทเม้น ของวันที่เราโอนเงิน
3. เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมตามวันนัดหมาย หลังจากนั้นก็รอให้เจ้าหน้าที่หรือผู้กระทำผิดติดต่อเราเพื่อเจรจา
4. ถ้าขั้นตอนที่ข้อ 3 ไม่เกิดขึ้น ก็รอวันที่ศาลจะนัดต่อไปครับ