สำหรับคนที่กำลังเครียดเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสับสนไม่รู้ตัวเองตัดสินใจไม่ได้ เครียด!!!

จากหนังสือเทคนิคการตัดสินใจสำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ได้สักที 



หนังสือเล่มนี้มีวางขายอยู่ในร้านหนังสือทั่วไป กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รีวิวหนังสือ แต่เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวหลังจากอ่านหนังสือประมวลกับความคิดเห็นตัวเองเพื่อแนะนำน้องๆที่กำลังเครียดและสับสนตัดสินใจไม่ได้เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างเลยสรุปมาให้ประมาณนี้

16 บทเรียนสำหรับคนที่สับสนกับอนาคตตัวเองตัดสินใจไม่ได้เกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่ไ

1. ชีวิตเราควรจะมีเป้าหมายอย่างน้อย
ก็ตั้งเป้าหมายไปถึงความสำเร็จและความสุข
แล้วคิดวิเคราะห์หาข้อมูลวางแผน
แล้วพยายามทำด้วยคุณภาพอย่างเต็มที่
โดยการค้นหาและอ่านให้มากๆถึงอาชีพต่างๆที่สนใจ
จะทำให้ค่อยๆรู้ตัวเองมากขึ้น

2. คุณภาพของทุกสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
มีผลมากๆกับชีวิตข้างหน้า
คุณภาพในการค้นหาข้อมูลต่างๆ
คุณภาพในการพยายามเช่นพยายามอ่านเนื้อหา
พยายามฝึกทำข้อสอบเก่า

3. ที่สับสนและตัดสินใจไม่ได้
มาจากการคิดลบของตัวเอง
ยิ่งคิดลบมากจะยิ่งเครียดและสับสน
ถ้าลืมมีเป้าหมายแล้วว่าอยากพบความสำเร็จ
เริ่มทำสิ่งที่ต้องทำด้วยคุณภาพแล้ว
จะค่อยๆลดเวลาที่เอาไปคิดฟุ้งซ่านคิดลบไปเอง

4. เราทุกคนไม่สามารถรู้อนาคตได้ 
การคาดหวังที่จะรู้อนาคตยิ่งจะทำให้เครียด
สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดมากที่สุดคือความพยายามและคุณภาพ
ควรจะภูมิใจในตัวเองที่เราได้ทำดีที่สุดไปแล้ว
ไม่ว่าผลมันจะออกมาอย่างไรก็ตาม

5. ถ้าเป็นไปได้พยายามตัดบางสิ่งออกไปบ้าง
มันจะทำให้ง่ายกว่า เช่นถ้าเราอยากเข้า
หลายคณะมากจนเกินไป มันจะทำให้สอบมากวิชาจนเกินไป
จะโฟกัสไม่ได้ต้องยอมรับความเสี่ยงในเรื่องนี้
ว่าถ้าเราเลือกที่จะโฟกัสบางคณะที่สอบน้อยวิชา
เราจะสามารถทำคะแนนในแต่ละวิชานั้นได้ดีกว่า
การสอบจำนวนมากๆวิชา

6. มันมีหลายๆปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้
เป้าหมายไม่ชัดเจน,
ข้อมูลไม่เพียงพอไม่อ่านให้เยอะๆไม่ค้น
เต็มไปด้วยคำถามต้องกระทู้ถามก็ได้คำตอบน้อย
ถามตัวเองก็ไม่ได้คำตอบ
คาดหวังอนาคตที่ดีมากจนเกินไป
การที่เราตัดสินใจไม่ได้ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะ
เราเองที่ไม่ชัดเจนเราเองที่มีข้อมูลน้อยจนเกินไป

7. ตอบคำถาม 11 ข้อนี้
คณะอะไร / ทำไม / คณะนี้สอนอะไร /
จบไปแล้วทำงานอะไร /ทำงานอย่างไร / 
กับใคร / ตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ /
อนาคตเป็นอย่างไรต่อ / ค่าเทอมเท่าไหร่ /
จำนวนรับเท่าไหร่ / เกณฑ์ขั้นต่ำและสัดส่วนการคิดคะแนนวิชาต่างๆเป็นอย่างไร

8. การเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย
ของคณะต่างๆที่เราสนใจ

9. ถ้ายังไม่มีเหตุผลในการตัดสินใจ
ให้ตัดสินใจ ว่ายังไม่ตัดสินใจตอนนี้
แต่ความพยายามก็ยังต้องทำต่อไป

10. ให้โฟกัสถึงสิ่งที่ทำได้ตอนนี้
ต้องรู้ตัวเองว่าเวลามีจำกัด
ต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไรและเริ่มลงมือทำ

11. การที่เราตัดสินใจอะไรลงไปแล้ว
เราประกาศบอกคนอื่นเช่นครอบครัวหรือเพื่อน
มันจะเป็นการบังคับตัวเองเพราะเราได้พูดไปแล้ว
แต่ก็จำเป็นต้องรับผลกระทบ 
เสียงที่กลับเข้ามามีทั้งถูกและผิด
ต้องเชื่อมั่นตัวเองแต่ก็อย่าเชื่อมั่นจนเกินไป
เลือกฟังบางเสียงและไม่ฟังบางเสียงอย่างมีเหตุผลของตัวเอง

12. บางคนอยากที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จง่าย
ก็อาจจะเลือกวิธีการตั้งเป้าหมายที่ไม่สูงมาก

13.แต่บางคนตั้งเป้าหมายสูงมาก ประกาศบอกไปแล้ว
คนรอบข้างบอกว่าทำไม่ได้
ก็อย่าไปท้อใจ ก่อนเขาจะพูดว่ามันยากเราก็รู้อยู่แล้วว่ามันยาก
ในบางมุมการมีเป้าหมายที่ยากก็เป็นเรื่องที่ดี
การมีเป้าหมายที่ยากหรือสูงทำให้เราพยายามมากกว่าปกติ
ถึงแม้เราจะไปไม่ถึงเป้าหมายนั้นแต่ก็จะไปได้ไกลกว่า

14. แค่คิดไม่ใช่การตัดสินใจ
เราคิดว่าเราอยากเป็นหมอ
แต่ไม่ลงมืออ่านหนังสือไม่ขยันไม่ทำด้วยคุณภาพ
มันเป็นเพียงแค่การคิด
การตัดสินใจคือการที่เราลงมือทำเพื่อสิ่งนั้น
ลงมืออย่างเต็มที่ที่สุดทุ่มเทที่สุด
เพื่อที่จะทำให้การตัดสินใจนั้นมันสำเร็จ

15.กำหนดสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน
ระหว่างมหาวิทยาลัย / คณะ / สาขา /
ภาคปกติ/ภาคพิเศษหรือภาคอินเตอร์
เราต้องกำหนดว่าอะไรสำคัญที่สุดก่อนหลัง
สำหรับเรา แล้วยึดสิ่งที่สำคัญกว่าไว้ก่อน
มากกว่าสิ่งที่ลบให้ความสำคัญน้อยกว่า
จะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
มากกว่าเอาทุกสิ่งผสมปนเปกันแล้วตัดสินใจ

16 . อย่าใช้สัญชาตญาณในการตัดสินใจ
ถ้าเราไม่มีข้อมูลนั้นๆมาก่อน
เราอย่าคิดเองเออเอง
หรือตัดสินใจไปด้วยสัญชาตญาณมันจะพลาดได้ง่าย
เราจะต้องค้นข้อมูลแล้วอ่านให้มากๆ
ได้คีย์เวิร์ดใหม่ขึ้นมาก็ค้นแล้วอ่านอีกทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
การอ่านมากๆจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง
จะทำให้ตัดสินใจได้ดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่