คนทำงานสายเทค ไร้ความสุขที่สุด กลัวเลย์ออฟ กังวล AI ค่าจ้างน้อยลง

คนทำงานสายเทค
ไร้ความสุขที่สุด
กลัวเลย์ออฟ กังวล AI ค่าจ้างน้อยลง
.
ผลสำรวจความพึงพอใจ และความสุขของพนักงานล่าสุดในสหรัฐอเมริกา จัดทำโดย BambooHR ผู้ให้บริการด้านโซลูชันซอฟต์แวร์ทรัพยากรบุคคลบนคลาวด์ พบว่า ค่าเฉลี่ยความสุขของพนักงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี พูดง่ายๆ มีความสุขน้อยกว่าช่วงโควิด-19 ด้วยซ้ำ โดยรายงานนี้รวบรวมจากบริษัทมากกว่า 1,600 แห่งทั่วสหรัฐ สำรวจพนักงานมากกว่า 57,000 คน
.
'อนิต้า แกรนแธม' หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ BambooHR กล่าวว่า การสำรวจนี้มีความสำคัญกับองค์กรและนายจ้างที่พยายามจะหาทางบริหารจัดการสุขภาพจิตของพนักงานและการไม่มีความสุขในการทำงาน เพราะน่าแปลกใจว่าความพึงพอใจ และความสุขของพนักงานตอนนี้ต่ำยิ่งกว่าช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรงที่สุดด้วย
.
โดยวิเคราะห์ว่าความพึงพอใจในการทำงานลดลงมาจากปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ปัญหาเงินเฟ้อ ปัญหาทางการเงิน การทำงานที่ไม่สอดคล้องกับตำแหน่งหน้าที่ ความคาดหวังของพนักงานที่เปลี่ยนแปลงไป และการเลิกจ้างพนักงาน รวมทั้งการที่หลายองค์กรมุ่งเน้นไปที่เรื่อง AI มากขึ้นได้จุดประเด็นความรู้สึกไม่แน่นอนในการทำงานขึ้นมา
.
ผลสำรวจพบว่า คนทำงานสายเทคโนโลยีไม่มีความสุขที่สุด อีกทั้งพนักงานสายนี้จัดเป็นกลุ่มที่ไม่มีความสุขที่สุดมาตั้งแต่ปี 2020 อยู่แล้ว และยังคงต่อเนื่องจากการสำรวจจนถึงสิ้นปี 2023
.
เหตุผลสำคัญมากจากแม้จะยังมีงานประจำทำอยู่ แต่มีความกังวลและกลัวการเลิกจ้าง รวมทั้งความไม่แน่นอนของเทคโนโลยี AI ที่มีแนวโน้มจะยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ใจมากขึ้นในกลุ่มคนทำงานด้านเทคโนโลยี
.
จะเห็นว่ามีการเลิกจ้างงานด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเลย์ออฟอย่างรวดเร็ว โดยมีเหตุผลสำคัญมาจากองค์กรเทคโนโลยีหันไปให้ความสำคัญงานด้าน AI ด้านหนึ่งเลยเป็นดาบสองคมสำหรับพนักงาน เพราะมีพนักงานเกือบครึ่งหนึ่ง รายงานว่ารู้สึกกังวลเกี่ยวกับ AI มากขึ้น มีทั้งกังวลว่างานของพวกเขาจะหายไป และกลัวจะได้รับค่าจ้างน้อยลง
.
รองลงมาจากสายเทคโนโลยี พบว่าคนที่ทำงานในองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรก็ติดอันดับไม่มีความสุขเป็นอันดับสอง โดยผลสำรวจพบว่าพนักงานที่ทำงานในกลุ่มนี้มีความสุขและความพึงพอใจลดลงอย่างมาก สาเหตุหนึ่งวิเคราะห์ว่ามาจากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรกำลังได้รับผลกระทบจากการมีผู้บริจาคน้อยลง รวมถึงการบริจาคทั่วไปก็น้อยลงด้วย สวนทางกับความต้องการการบริจาคที่สูงขึ้น
.
มีรายงานว่าผู้บริจาคและการบริจาคที่น้อยลงเกิดขึ้นต่อเนื่องติดกันมา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปี 2023 โดยพบว่ายอดบริจาคจากผู้บริจาคทั้งรายใหญ่และรายย่อยลดลง ผู้บริจาคหลายรายให้เหตุผลถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การบริจาคลดลง
.
มีผู้จัดการโครงการที่ไม่แสวงหากำไรที่ไม่เปิดเผยชื่อ ให้ข้อมูลในการสำรวจครั้งนี้ว่า เงินทุนของรัฐบาลกลางที่มีมาหลายปีกำลังจะสิ้นสุดลง จึงมีเวลาอีกไม่กี่เดือนที่จะต้องเร่งหาเงินทุนใหม่ ไม่อย่างนั้นจะต้องปิดตัวลง ขณะที่มีความต้องการของชุมชน(ที่องค์กรเข้าไปดูแลช่วยหลือ) เพิ่มมากขึ้น และพนักงานในองค์กรขอขึ้นค่าจ้างที่สูงขึ้น
.
ภาพรวมคือ ปัญหาการขาดเงินทุน การขาดแคลนพนักงาน และการรักษาพนักงานไว้ให้ทำงานกับองค์กรล้วนมีผลกระทบต่อความสุขของพนักงานที่ทำงานในกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
.
แล้วพนักงานในกลุ่มธุรกิจไหนที่มีความสุขมากขึ้น คำตอบคือ กลุ่มคนทำงานในธุรกิจก่อสร้าง ท่องเที่ยว อาหาร
.
ผู้จัดการฝ่ายการเงินในธุรกิจก่อสร้าง ให้ข้อมูลว่า องค์กรที่ทำงานอยู่ยังเป็นไปได้ด้วยดี งานมีเข้ามาเรื่อยๆ ส่งเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัท ไม่มีลักษณะงานที่ไม่แน่นอนหรือมีตำแหน่งขึ้นๆ ลงๆ
.
ส่วนคนทำงานในภาคการท่องเที่ยวเดินทางก็มีความสุขขึ้น ปัจจัยสำคัญคือบรรยากาศการเดินทางและท่องเที่ยวและการบริโภคที่ฟื้นกลับมา ทำให้ตลาดงานสายนี้เปิดกว้างมากขึ้นส่งผลทำให้พนักงานเกิดความหวังในการเพิ่มค่าจ้างและสภาพการทำงานที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับพนักงานในกลุ่มธุรกิจอาหารที่ยอดขายของร้านอาหารหลายแห่งสูงขึ้น และร้านอาหารในสหรัฐฯ ยังจ้างพนักงานมากขึ้น และคาดว่าปีหน้าก็จะเพิ่มตำแหน่งงานมากขึ้นอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่