DUNE PART TWO
เหมือนเป็นการแก้กรรมจากภาคแรกที่คนบ่นว่า หนังดีแต่เดินเรื่องราบเรียบ พอเข้า ภาคสอง พี่แกเลยจัดให้ทั้ง บทพูดเรียกเสียงฮา ฉากระเบิดมโหฬาร ฉากต่อสู้ที่บ้างคลั่ง และ ฉากขี่หนอนทรายที่เล่นขี่เป็นรถไฟฟรีเลยทีเดียว
การสร้างฉาก ไม่ว่าจะเป็น ดาว อาราคิส หรือ กิดี ไพรส์ อันนี้ถือว่างานดีเลยล่ะ ทำให้หายสงสัยแล้วว่าทำไมในตัวอย่าง โทนสีของมันถึงออกมาเป็น ขาวดำ มันมีเหตุผลของมันอยู่
ดนตรีประกอบของหนัง รียูสจากภาคแรกเยอะอยู่นะ แต่ก็มีการอแดปบางส่วนให้ดูไม่น่าเกลียดเกินไป ช่วงฉากใหญ่ ทำได้ถึงทุกฉาก
พลังของนักแสดง ไล่มาตั้งแต่ ชาลาเม่ต์ ในบท พอล เราได้เห็นพัฒนาการตั้งแต่ช่วงเข้าวิถีแห่งเฟรเมน ไปจนถึงวินาทีที่เข้าไม่อาจย้อนคืน ทั้งสีหน้าแลละแววตา คือคนละคนไปเลย รอดูความChipหาย ในภาคสามไม่ไหวแล้ว
ฝั่งของ เซนดาญ่า และนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็ต่างทำหน้าที่ร้อยเรียงเรื่องราวได้ดี โอเค นักแสดงบางคนอาจมีเวลาบนจอน้อยกว่าที่หวัง แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ออสติน บัทเลอร์ ในบท เฟ-รอทา โอ้โห นี่มันส่วนผสมของ คนบ้า คนฉลาด แบดบอย และ มิก แจ๊กเกอร์ ใครอะไร ขี้เก๊ก โรคจิต และหล่อ

เป็นการออกแบบตัวะครที่แย่งซีนสุดๆ ฉากเปิดพี่แกก็พอดูออกแล้วว่า มันจะบ้า แค่ไม่คิดว่าจะบ้าขนาดนี้
แถมให้อีกตัว คือ สติลการ์ ที่รับบทโดน ฮาเวียร์ บาเด็ม อันนี้ของจริง ต้องไปดูในโรง
ว่ากันแล้ว ดูน มันคือการตัวแทนของการใช้ความเชื่อเพื่อความต้องการของตนเอง เราได้เห็นถึงการบ่มเพาะความเชื่อของกลุ่มแม่ชี เบเนเจซิริส ว่าจะมีผู้ปลดปล่อยมาสู่พวกเฟรเมน และพอลก็ใช้มันเป็นเครื่องมือในการล้างแค้น ถึงแม้ช่วงแรกเขาจะยังลังเลอยู่ก็นั่นแหล่ะ หนังทำส่วนนี้ออกมาได้ดี และแสดงให้เห็นว่า เมื่อคนเราเลือกที่จะเชื่อโดยไม่ลืมหูลืมตา ผลกระทบที่ตามมามันหายนะขนาดไหน และเมื่อคนๆนั้นลุแก่อำนาจ เขาอาจกลายเป็น ทรราชย์ในที่สุด
คงไม่ต้องอวยอะไรไปมากกว่านี้แล้ว เพราะเรามั่นใจมากว่า ดูน จะต้องเป็นงานที่ใช้กระแสปากต่อปากเรียกคนดูเข้าโรงแน่นอน เพราะทั้งหลายแหล่ที่กล่าว นี่คือหนังที่คุ้มค่าตั๋วที่สุดเรื่องนึง ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายเต็มราคาแน่นอน
[CR] รีวิว Dune Part Two
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้