"นอบน้อมแด่ พุทธ ธรรม สงฆ์ อันมีคุณมากหาประมาณไม่ได้และเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า"
********************
............ โลกสูตรที่ ๓ ..........
[๔๐๒] สาวัตถีนิทาน ฯ
พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้ทูลพระผู้มี-พระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า ธรรมเท่าไรหนอแลเมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
[๔๐๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างแลเมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความ
อยู่ไม่สำราญ ธรรม ๓ อย่างเป็นไฉน ฯ
๑. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือความโลภแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
๒. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือโทสะความประทุษร้ายแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่
สำราญ ฯ
๓. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือโมหะความหลงแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
ดูกรมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างนี้แล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
[๔๐๔] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
" โลภะ โทสะ และโมหะ อันบังเกิดแก่ตนย่อมเบียดเบียน
บุรุษ ผู้มีใจเป็นบาป ดุจผลของตนเบียดเบียนไม้เต่ารั้ง
ฉะนั้น ฯ"
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=3124&Z=3145
ธรรม ๓ อย่าง เมื่อเกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความ อยู่ไม่สำราญ
********************
............ โลกสูตรที่ ๓ ..........
[๔๐๒] สาวัตถีนิทาน ฯ
พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้ทูลพระผู้มี-พระภาคว่า พระพุทธเจ้าข้า ธรรมเท่าไรหนอแลเมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
[๔๐๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างแลเมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความ
อยู่ไม่สำราญ ธรรม ๓ อย่างเป็นไฉน ฯ
๑. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือความโลภแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
๒. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือโทสะความประทุษร้ายแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่
สำราญ ฯ
๓. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือโมหะความหลงแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
ดูกรมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างนี้แล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
[๔๐๔] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
" โลภะ โทสะ และโมหะ อันบังเกิดแก่ตนย่อมเบียดเบียน
บุรุษ ผู้มีใจเป็นบาป ดุจผลของตนเบียดเบียนไม้เต่ารั้ง
ฉะนั้น ฯ"
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=15&A=3124&Z=3145