หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
เที่ยวตุรกี ตอนที่ 3 "ปามุคคาเล่"
กระทู้สนทนา
Backpack
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศตุรกี
เที่ยวตุรกี ตอนที่ 3 "ปามุคคาเล่"
สวัสดีครับทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ต้องขออภัยหากเรื่องราวที่เขียนไม่ได้มีรีวิวอะไรมากมายเป็นการมาเล่าสู่กันฟังถึงทริปเที่ยวตุรี 10 วันของเราเผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจจะไปเที่ยวตุรกีตามเส้นทางของเราซึ่งเที่ยว 4 เมือง ก็ตามกันไปได้เลยนะครับ หลังจากเที่ยวอิสตันบูลและอิชมีร์ไปแล้วก็มาถึง "ปามุคคาเล่" ตามแผนเที่ยวของเราจะนอนปาทุคคาเล่แค่ 1 คืน เที่ยวปราสาทปุยฝ้ายแล้วเราก็จะเดินทางต่อไปที่แคปปาโดเกียร์ หลังจากที่เราเที่ยวอิชมีร์ 2 วัน คือวันที่ 8 และ 9 ตุลาคม ก็มาถึงในวันที่ 10 ตุลาคมเราจะต้องเอารถที่เช่ามาไปคืนที่สนามบินอิชมีร์ เราออกเดินทางจากเชสเม่ตั้งแต่เช้ามาถึงสนามบินประมาณ 10 โมงกว่าๆ จัดการคืนรถเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางกันต่อไปยังจุดหมายที่เราจะไปคือปามุคคาเล่ การเดินทางจะต้องขึ้นรถไฟจากสนามบินอิชมีร์ไปลงที่สถานี "เดนิชลี" และหลังจากนั้นนั้งรถมินิบัสจากสถานีเดนิชลีไปยังปามุคคาเล่ สถานีรถไฟจะอยู่ตรงข้ามกับสนามบินอิชีมร์เลยครับเดินข้ามมาเล็กน้อยก็จะพบกับร้านอาหารและมินิมาร์ทก่อนสถานีรถไฟจะอยู่ด้านหลัง หลังจากไปสอบถามเส้นทางและราคาตั๋วเราก็จัดการเป็นที่เรียบร้อย รอบที่เร็วที่สุดคือ 11.00 เรามีเวลาประมาณ 30 นาทีหลังจากไปคืนรถเสร็จก็เลยต้องรีบๆกันนิดนึงไม่อยากตกขบวนนี้ ด้วยความหิวเลยขอรองท้องด้วยแซนวิสที่ร้านอาหารและมินิมาร์ทนั้นก่อนอยากบอกว่าอร่อยเลยครับ
หลังจากจัดการอาหารเรียบร้อยเราก็ไปขึ้นรถไฟกันแต่ด้วยเราไม่ได้จองตั๋วไว้ล่วงหน้าก็เลยเหลือแต่ที่นั่งแบบไม่ได้จอง ตั๋วรถไฟแบบไม่จองที่นั่งคือจะได้นั่งก็ต่อเมื่อไม่มีคนนั่งและราคาถูกกว่าแบบจองที่นั่ง แนะนำว่าจองแบบเลือกที่นั่งดีกว่าครับเพราะระยะทางไกลแต่สำหรับผมเลือกไม่ได้แล้ว ตั๋วก็สามารถซื้อได้จากเคาเตอร์ที่สถานีได้เลยไดตั๋วเสร็จก็มายืนรอแปบนึงรถไฟก็มาพร้อมที่จะไปเดนิชลีกันแล้วค้าบ และนี่คือสภาพการเดินทางของตั๋วแบบไม่มีที่นั่ง
ไม่มีที่นั่งก็เลยต้องนั่งพื้นไม่ใช่แค่เราสองคนนะครับมีหลายคนที่นั่งแบบเราสองคนก็สนุกไปอีกแบบ นั่งไปนานพอสมควรน่าจะประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสถานีเดนิชลี เราก็จะต้องต่อรถมินิบัสไปยังปามุคคาเล่ คราวนี้ได้นั่งละเพราะรถมีหลายเที่ยวมีผู้คนเดินทางไปบนรถเต็มทุกที่นั่งเลยทีเดียว
ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากก็ถึงที่หมายนั่นคือ ปามุคคาเล่ ป้ายที่เราลงจะลงกลางหมู่บ้านเลยพอลงมาก็จะเจอกับบริษัททัวร์ตรงนี้ขายทุกอย่าง โปรแกรมทัวร์ทั้งที่ปามุคคาเล่ และที่แคปปาโดเกียร์ด้วย และยังสามารถจองไนท์บัสไปยังแคปปาโดเกียร์ได้ด้วยเราก็เลยจัดการจองรถสะเลยจะได้ไม่พลาด
เราเดินจากบริษัททัวร์ไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลมากที่พักของเราชื่อว่า Ozbay Hotel ราคา 1065 บาท เป็นห้องเดี่ยว ซึ่งถือว่าดีมากๆเพราะที่พักอยู่ใกล้กับปราสาทปุยฝ้ายสามารถเดินไปเที่ยวได้เลยและเราพักแค่คืนเดียวเท่านั้น โดยเราวางแผนจะเที่ยวที่ปราสาทปุยฝ้ายช่วงเช้าและบ่ายเราจะออกจากที่นี่เพื่อไปแคปปาโดเกียร์ หลังจากเข้าที่พักเราก็พักผ่อนอาบน้ำเพราะเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง เย็นๆเราก็ออกมาหาอะไรทานกัน ตอนที่เราเข้าไปขอคำแนะนำจากบริษัททัวร์เขาก็แนะนำร้านอาหารให้เราก็เลยไปตามนั้นและตัดสินใจถูกเพราะอาหารอร่อยมาก และเป็นมื้อแรกที่ได้กินปลา ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเจอแต่ไ่และเนื้อ เราก็สั่งมา 2 ชุด แต่ละชุดจะมีข้าวมาให้1ถ้วยเล็ก ด้วยความที่อยากกินข้าวก็เลยสั่งข้าวเพิ่มไปอิ่มอร่อยมากกับมื้อนี้ จำชื่อร้านไม่ได้จริงๆขออภัยมีแต่บรรยากาศเล็กน้อยมาฝาก
หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็กลับที่พักเพื่อพักผ่อนและจะได้ตื่นเช้าไปเที่ยวปราสาทปุยฝ้าย
เช้าวันที่ 11 ตุลาคม 2565
เราตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปเที่ยวปราสาทปุยฝ้าย การเที่ยวของเราไม่เหมือนคนอื่นๆเพราะส่วนใหญ่คนทั่วไปนั่งรถเพื่อไปเข้าทางหลักที่อย่บนเขาระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร เราสองคนไม่มีรถและไม่ได้ซื้อทัวร์ใดๆเลยตัดสินใจที่จะเดินสวนขึ้นไปจากอีกทางหนึ่งซึ่งอยู่ด้านล่างอยากบอกว่าใครที่ชอบเดินถ้าเที่ยวจากด้านล่างจะได้เจอปราสาทปุยฝ้ายที่สะอาดและสวยงามมาก เพราะเท่าที่สังเกตุพอเราเดินขึ้นไปเรื่อยๆจะพบว่าหินปูนสีขาวจะมีสีดำเยอะน่าจะเกิดจากการเดินย่ำของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากแต่ด้านล่างจะขาวสะอาดเราเก็บภาพมาฝาดสำหรับคนที่อยากจะไปเที่ยวปามุคคาเล่นะครับ และวันนั้นเรายังได้ยืนชมบอลลูนตอนเช้าด้วย ภาพก่อนที่เราจะเดินเข้าไปในปราสาทปุยฝ่าย
เดินไปเรื่อยๆก็จะมาถึงทางเข้าซึ่งเป็นทางเข้าด้านล่างนะครับท่างเข้าหลักต้องนั่งรถขึ้นไป แต่เราเบือกจะเดินย้อนขึ้นไป
ภาพบรรยากาศปราสาทปุยฝ้ายที่ปามุคคาเล่ (ขออภัยที่มีแต่รูปภรรยาผมนะค้าบบบบ)
หลังจากเดินขึ้นมาถึงด้านบนสุดซึ่งจริงๆมาทางเข้าหลักก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของต่างๆที่เป็นของปราสาทปุยฝ้ายแห่งนี้ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ก็ไม่ควรพลาดเลยครับ
จริงๆด้านบนมีสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่านี้มีบ่อน้ำ มีโรงละครแต่ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เนื่องด้วยเราสองคนจะต้องเดินทางไปต่อก็เลยตัดสินใจเดินกลับ ซึ่งเราไม่ได้เดินย้อนลงไปตามทางที่เรามาแต่เราเดินกลับไปทางเข้าหลักที่เป็นถนนใหญ่ระยะทางประมาณ 3-4 กิโล แต่เดินไปได้สัก 2 กิโลก็เจอกับรถชาวไร่ เขาก็เลยจอดรับเราลงไปข้างล่างด้วยกัน คนตุรกีมีน้ำใจและน่ารักมากๆ
ก็เป็นอันจบการเที่ยวปามุคคาเล่ครึ่งวันของเรา หลังจากนี้ก็จะเป็นการเดินทางแบบข้ามคืนด้วยไนท์บัสไปแคปปาโดเกีย ใครที่สนใจก็ติดตามมาอ่านกันนะครับ เจอกันตอนที่ 4 "แคปปาโดเกีย" ฝากติดตามด้วยค้าบบบบบบบบบ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อินโดนีเซีย จัดการเครื่องบิน Kaan บ ยุคที่ 5 จากตุรกี 48 ลำ
นอกเรื่องการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชากัน และมาดูเพื่อนอาเซียนทางใต้เรา อินโดนีเซีย ได้ประกาศจัดการเครื่องบินรบ ยุคที่ 5 (ยุคเดียวกับ F-35) จากตุรกี จำนวน 48 ลำแล้วครับ โดยเครืองบินรุ่น Kaan นี้ทางตุรกี
สมาชิกหมายเลข 1630720
"แอน ทองประสม" รีวิวประเทศที่ทำให้ใจเต้นแรงเบาๆ เปิดภาพวิวสวยๆ น่าตามรอยมาก
ทำเอาแฟนๆ กดไลก์กันรัวๆ เมื่อนางเอกสาวตลอดกาลอย่าง "แอน ทองประสม" ปล่อยภาพสวยงามจากการเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของประเทศตุรกี พร้อมรีวิวความประทับใจผ่านแคปชั่นสุดละมุนที่อ่านแล้วชวนให้เก็บกระเป๋
สมาชิกหมายเลข 4468906
{CR}ตุรกี.....ดีจริงๆ ตอนที่2 เมืองโบราณเฮียราโพลิส - ปามุคคาเล่ - พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า - คาราวานซาราย - ระบำหน้าท้อง
เมื่อวานพอชมเมืองโบราณ เอเฟซุสแล้วเราก็วิ่งรถมานอนที่ปามุคคาเล่ วันนี้ตามโปรแกรม เราจะไปชม เมืองโบราณเฮียราโพลิส - ปามุคคาเล่ หรือปราสาทปุยฝ้าย - พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า - คาราวานซารายและจบด้วยระบำหน้าท้อง
เถาไอวี่
ตุรกี .... เดินทางตามนี้ถูกต้องมั้ยคะ?
คือประมาณว่าถ้าเดินทางตามนี้จะเป็นการย้อนไปย้อนมารึป่าว รบกวนหน่อยนะคะ จากอิสตันบูล ไปอิซเมียร์ จากอิซเมียร์ ไปปามุคคาเล่ จากปามุคคาเล่ ไปโคปปาโดเกีย จากโคปปาโดเกีย กลับมา อิสตันบูล รวมทั้งหมด 13 วั
สมาชิกหมายเลข 1265317
ลุงอ้วน กินกะเที่ยว ๑๑๑๑๑...ท่อง ตุรกี ตอนที่ 3...๑๑๑๑๑
การทำรีวิวครั้งนี้ไม่ได้เพื่อประสงค์ทางธุรกิจ อยากให้ท่านผู้อ่านใช้ วิจารณญาน ในการอ่าน ในการตัดสินใจ และไม่ได้แนะนำให้ไปซื้อ ไปใช้ หรือ ไปกิน ตามรีวิวดังที่ปรากฎ การมี แฟนเพจ เช่นกัน ทำขึ้นเพื่อให้ท่
ลุงอ้วน กินกะเที่ยว
Türkiye ทูร์เคีย Turkey ตุรกี 9 วัน 7 คืน ง้อทัวร์ (บ้างก็ดีนะ.....) EP.2
Türkiye ทูร์เคีย Turkey ตุรกี 9 วัน 7 คืน ง้อทัวร์ (บ้างก็ดีนะ.....) EP.2 บันทึกการเดินทางครั้งนี้แบ่งเป็น 4 ตอน ดังนี้ EP.1 ก่อนเดินทาง, ข้อมูล, ประวัติศาสตร์ตรุกี, ว่าด้วยเรื่องน้องแมว-น้องหมาต
สมาชิกหมายเลข 3206800
จากสนามบิน ADB airport ไปปามุคคาเล่ยังไงคะ
เราจะไปเที่ยวตุรกีช่วงปลายเดือนเมษาค่ะ เราบินจากอิสตันบูลมาลงสนามบิน ADB airport เวลา03.00น ของวันที่29/4/2562 เราจะรบกวนเพื่อนๆช่วยแนะนำเราหน่อยค่ะ เราถามเป็นข้อๆนะคะ -จาก ADB airport จะไปปามุคคาเล่
สมาชิกหมายเลข 1124446
จองอาร์กับออมสิน ใครโดดสูงกว่ากันคะ
ตำนานจองอาร์ทุบโหดเขี่ยตุรกีตกรอบโอลิมปิคที่โตเกียว ตำนานออมสินตบโหตุรกีพ่ายไทยรอบแรกทีมเดียว ชิงแชมป์โลกที่เนเธอร์แลนด์ สาวตุรกีตายบอลทรงนี้
สมาชิกหมายเลข 8492878
เที่ยวตุรกี ตอนที่ 1 อิสตันบูล
เที่ยวตุรกี ตอนที่ 1 อิสตันบูล ผ่านไปเป็นปีกว่าจะมีเวลามาเขียนรีวิวเที่ยวตุรกี ทริปที่สนุก สวยงาม และมีความทรงจำแสนพิเศษ เพราะตั้งใจจะไปขอแฟนแต่งงาน (ตอนเขียนอยู่ขณะนี้แต่งแล้วค้าบบบบ)
สมาชิกหมายเลข 5086401
รบกวนตรวจแผนการเดินทาง และสอบถามข้อมูลการเที่ยวตุรกีเพิ่มเติมค่ะ
สวัสดีค่ะ เรากับเพื่อนวางแผนไปเที่ยวตุรกีกันในเดือน พ.ค.58 (ได้ตั๋วโปรโมชั่นของการ์ต้า) วางแผนไว้คร่าวๆ ตามนี้ค่ะ 1 พ.ค.58 ถึงอินตันบูลประมาณเที่ยง ต่อเครื่องไปอิชเมียร์ นอนที่อิชเมียร์ 2 พ.ค.58 เดินท
junekl
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศตุรกี
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
เที่ยวตุรกี ตอนที่ 3 "ปามุคคาเล่"
สวัสดีครับทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ ต้องขออภัยหากเรื่องราวที่เขียนไม่ได้มีรีวิวอะไรมากมายเป็นการมาเล่าสู่กันฟังถึงทริปเที่ยวตุรี 10 วันของเราเผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจจะไปเที่ยวตุรกีตามเส้นทางของเราซึ่งเที่ยว 4 เมือง ก็ตามกันไปได้เลยนะครับ หลังจากเที่ยวอิสตันบูลและอิชมีร์ไปแล้วก็มาถึง "ปามุคคาเล่" ตามแผนเที่ยวของเราจะนอนปาทุคคาเล่แค่ 1 คืน เที่ยวปราสาทปุยฝ้ายแล้วเราก็จะเดินทางต่อไปที่แคปปาโดเกียร์ หลังจากที่เราเที่ยวอิชมีร์ 2 วัน คือวันที่ 8 และ 9 ตุลาคม ก็มาถึงในวันที่ 10 ตุลาคมเราจะต้องเอารถที่เช่ามาไปคืนที่สนามบินอิชมีร์ เราออกเดินทางจากเชสเม่ตั้งแต่เช้ามาถึงสนามบินประมาณ 10 โมงกว่าๆ จัดการคืนรถเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางกันต่อไปยังจุดหมายที่เราจะไปคือปามุคคาเล่ การเดินทางจะต้องขึ้นรถไฟจากสนามบินอิชมีร์ไปลงที่สถานี "เดนิชลี" และหลังจากนั้นนั้งรถมินิบัสจากสถานีเดนิชลีไปยังปามุคคาเล่ สถานีรถไฟจะอยู่ตรงข้ามกับสนามบินอิชีมร์เลยครับเดินข้ามมาเล็กน้อยก็จะพบกับร้านอาหารและมินิมาร์ทก่อนสถานีรถไฟจะอยู่ด้านหลัง หลังจากไปสอบถามเส้นทางและราคาตั๋วเราก็จัดการเป็นที่เรียบร้อย รอบที่เร็วที่สุดคือ 11.00 เรามีเวลาประมาณ 30 นาทีหลังจากไปคืนรถเสร็จก็เลยต้องรีบๆกันนิดนึงไม่อยากตกขบวนนี้ ด้วยความหิวเลยขอรองท้องด้วยแซนวิสที่ร้านอาหารและมินิมาร์ทนั้นก่อนอยากบอกว่าอร่อยเลยครับ
หลังจากจัดการอาหารเรียบร้อยเราก็ไปขึ้นรถไฟกันแต่ด้วยเราไม่ได้จองตั๋วไว้ล่วงหน้าก็เลยเหลือแต่ที่นั่งแบบไม่ได้จอง ตั๋วรถไฟแบบไม่จองที่นั่งคือจะได้นั่งก็ต่อเมื่อไม่มีคนนั่งและราคาถูกกว่าแบบจองที่นั่ง แนะนำว่าจองแบบเลือกที่นั่งดีกว่าครับเพราะระยะทางไกลแต่สำหรับผมเลือกไม่ได้แล้ว ตั๋วก็สามารถซื้อได้จากเคาเตอร์ที่สถานีได้เลยไดตั๋วเสร็จก็มายืนรอแปบนึงรถไฟก็มาพร้อมที่จะไปเดนิชลีกันแล้วค้าบ และนี่คือสภาพการเดินทางของตั๋วแบบไม่มีที่นั่ง
ไม่มีที่นั่งก็เลยต้องนั่งพื้นไม่ใช่แค่เราสองคนนะครับมีหลายคนที่นั่งแบบเราสองคนก็สนุกไปอีกแบบ นั่งไปนานพอสมควรน่าจะประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสถานีเดนิชลี เราก็จะต้องต่อรถมินิบัสไปยังปามุคคาเล่ คราวนี้ได้นั่งละเพราะรถมีหลายเที่ยวมีผู้คนเดินทางไปบนรถเต็มทุกที่นั่งเลยทีเดียว
ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากก็ถึงที่หมายนั่นคือ ปามุคคาเล่ ป้ายที่เราลงจะลงกลางหมู่บ้านเลยพอลงมาก็จะเจอกับบริษัททัวร์ตรงนี้ขายทุกอย่าง โปรแกรมทัวร์ทั้งที่ปามุคคาเล่ และที่แคปปาโดเกียร์ด้วย และยังสามารถจองไนท์บัสไปยังแคปปาโดเกียร์ได้ด้วยเราก็เลยจัดการจองรถสะเลยจะได้ไม่พลาด
เราเดินจากบริษัททัวร์ไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลมากที่พักของเราชื่อว่า Ozbay Hotel ราคา 1065 บาท เป็นห้องเดี่ยว ซึ่งถือว่าดีมากๆเพราะที่พักอยู่ใกล้กับปราสาทปุยฝ้ายสามารถเดินไปเที่ยวได้เลยและเราพักแค่คืนเดียวเท่านั้น โดยเราวางแผนจะเที่ยวที่ปราสาทปุยฝ้ายช่วงเช้าและบ่ายเราจะออกจากที่นี่เพื่อไปแคปปาโดเกียร์ หลังจากเข้าที่พักเราก็พักผ่อนอาบน้ำเพราะเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง เย็นๆเราก็ออกมาหาอะไรทานกัน ตอนที่เราเข้าไปขอคำแนะนำจากบริษัททัวร์เขาก็แนะนำร้านอาหารให้เราก็เลยไปตามนั้นและตัดสินใจถูกเพราะอาหารอร่อยมาก และเป็นมื้อแรกที่ได้กินปลา ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเจอแต่ไ่และเนื้อ เราก็สั่งมา 2 ชุด แต่ละชุดจะมีข้าวมาให้1ถ้วยเล็ก ด้วยความที่อยากกินข้าวก็เลยสั่งข้าวเพิ่มไปอิ่มอร่อยมากกับมื้อนี้ จำชื่อร้านไม่ได้จริงๆขออภัยมีแต่บรรยากาศเล็กน้อยมาฝาก
หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็กลับที่พักเพื่อพักผ่อนและจะได้ตื่นเช้าไปเที่ยวปราสาทปุยฝ้าย
เช้าวันที่ 11 ตุลาคม 2565
เราตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปเที่ยวปราสาทปุยฝ้าย การเที่ยวของเราไม่เหมือนคนอื่นๆเพราะส่วนใหญ่คนทั่วไปนั่งรถเพื่อไปเข้าทางหลักที่อย่บนเขาระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร เราสองคนไม่มีรถและไม่ได้ซื้อทัวร์ใดๆเลยตัดสินใจที่จะเดินสวนขึ้นไปจากอีกทางหนึ่งซึ่งอยู่ด้านล่างอยากบอกว่าใครที่ชอบเดินถ้าเที่ยวจากด้านล่างจะได้เจอปราสาทปุยฝ้ายที่สะอาดและสวยงามมาก เพราะเท่าที่สังเกตุพอเราเดินขึ้นไปเรื่อยๆจะพบว่าหินปูนสีขาวจะมีสีดำเยอะน่าจะเกิดจากการเดินย่ำของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากแต่ด้านล่างจะขาวสะอาดเราเก็บภาพมาฝาดสำหรับคนที่อยากจะไปเที่ยวปามุคคาเล่นะครับ และวันนั้นเรายังได้ยืนชมบอลลูนตอนเช้าด้วย ภาพก่อนที่เราจะเดินเข้าไปในปราสาทปุยฝ่าย
เดินไปเรื่อยๆก็จะมาถึงทางเข้าซึ่งเป็นทางเข้าด้านล่างนะครับท่างเข้าหลักต้องนั่งรถขึ้นไป แต่เราเบือกจะเดินย้อนขึ้นไป
ภาพบรรยากาศปราสาทปุยฝ้ายที่ปามุคคาเล่ (ขออภัยที่มีแต่รูปภรรยาผมนะค้าบบบบ)
หลังจากเดินขึ้นมาถึงด้านบนสุดซึ่งจริงๆมาทางเข้าหลักก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของต่างๆที่เป็นของปราสาทปุยฝ้ายแห่งนี้ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ก็ไม่ควรพลาดเลยครับ
จริงๆด้านบนมีสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่านี้มีบ่อน้ำ มีโรงละครแต่ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เนื่องด้วยเราสองคนจะต้องเดินทางไปต่อก็เลยตัดสินใจเดินกลับ ซึ่งเราไม่ได้เดินย้อนลงไปตามทางที่เรามาแต่เราเดินกลับไปทางเข้าหลักที่เป็นถนนใหญ่ระยะทางประมาณ 3-4 กิโล แต่เดินไปได้สัก 2 กิโลก็เจอกับรถชาวไร่ เขาก็เลยจอดรับเราลงไปข้างล่างด้วยกัน คนตุรกีมีน้ำใจและน่ารักมากๆ
ก็เป็นอันจบการเที่ยวปามุคคาเล่ครึ่งวันของเรา หลังจากนี้ก็จะเป็นการเดินทางแบบข้ามคืนด้วยไนท์บัสไปแคปปาโดเกีย ใครที่สนใจก็ติดตามมาอ่านกันนะครับ เจอกันตอนที่ 4 "แคปปาโดเกีย" ฝากติดตามด้วยค้าบบบบบบบบบ