ข้าศึกพันรบ

กระทู้สนทนา
เรื่อง : ข้าศึกพันรบ
โดย : ละเว้

เมื่อตื่นมาหลายรอบแล้งจึงอดใจแปลกไม่ได้ ความจริงผมน่าจะถูกปลุกจากใครสักฅนตั้งนานแล้วนี่นา ได้แต่คอยถามตัวเองแบบนี้ทุกครั้งที่ตื่น... ป่าทั้งป่ายังดูเหมือนนิ่งสนิท หมู่ดาวเห็นได้เมื่อลืมตา อากาศยังคงเย็น น่าจะเลยเวลามานานเต็มที แต่ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ นี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่ปกติ

.
จะว่าไปเรื่องนี้มันก็นานเนเอาการอยู่ ตอนนั้นผมยังหนุ่มแน่นและเป็นทหารเกณฑ์

สำหรับใครที่เคยผ่านการเป็นทหารแล้ว ผมเชื่อได้เลยว่าหลายฅนจะต้องบอกว่าเบื่อการฝึก โดยเฉพาะการฝึกภาคสนาม 

แต่นั่นคงไม่ใช่ผม ผมกลับชอบการฝึก แม้จะเป็นภาคสนามก็ตาม ผมว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าการอยู่กองร้อยแล้วต้องเข้ายาม ต้องทำงาน (เป็นทหารก็ต้องขุดดินถางป่าเหมือนกัน)

ไม่รู้สิ บางทีความเป็นเด็กมันอาจยังไม่หมดไปจากตัวผมก็ได้ เพราะที่ผมสนุกกับการได้ฝึกนั้น ก็เนื่องจากรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากได้กลับไปเป็นเด็กวิ่งเล่นกันสักเท่าไร ผมคิดแบบนั้นจริง ๆ ถ้าใครที่ตอนเป็นเด็กเคยเล่นแบ่งข้างเอาปืนปลอมหรือท่อนไม้มาไล่ยิงกันแล้วล่ะก็ คงเข้าใจอารมณ์ของผมได้โดยไม่ต้องอธิบาย 

แต่ก็นั่นแหละ ถึงอย่างไรการฝึกก็เลี่ยงความเหน็ดเหนื่อยไม่ได้อยู่ดี โดยเฉพาะการฝึกภาคสนามที่ต้องเดินเท้าเข้าตีตั้งรับกันทั้งวันด้วยแบบนี้ และแม้จะไม่ได้เป็นการฝึกของพวกเราโดยตรง ถึงเราจะเป็นเพียงข้าศึกพันรบก็ไม่ต่างกันนักหรอก

หัวค่ำวันนั้น ตะวันลับเหลี่ยมเขาไปนานแล้ว แสงสุดท้ายพอช่วยให้มองเห็นทุกอย่างเป็นเงาตะคุ่มในความสลัวราง ทุกคนต่างทิ้งตัวจากความอ่อนล้า วันนี้เราเหนื่อยกันมากสำหรับการเป็นข้าศึกพันรบ หรือข้าศึกสมมติที่ช่วยสนับสนุนการฝึกเข้าตีตั้งรับให้กับทหารใหม่ของกองพันทหารราบ ที่เราเรียกกันว่าพันรบ

วันนี้เราเดินกันมาแทบทั้งวันไม่ได้หยุด เมื่อถึงที่หมายความรู้สึกของทุกฅนจึงไม่ต่างกัน คืออยากทิ้งตัวซบกับพื้นหญ้าผืนดินแล้วหยุดทุกสิ่งอย่างไว้ภายใต้การหลับใหลแต่เท่านั้น 

เราไม่มีเวลาสำหรับที่หลับที่นอนกัน คืนนี้เลยต้องใช้ฟ้าเป็นมุ้งแทน เรามาเป็นข้าศึกพันรบอย่างที่บอกด้วย การกินอยู่หลับนอนจึงไม่ค่อยเข้มงวดตามยุทธวิธีสักเท่าไรนัก

หลังจากแผ่หลากันได้สักพักเราก็ถูกเรียกรวมพล หน้าที่ของทหารซึ่งละเลี่ยงไม่ได้เลยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็คือการเข้ายาม เราจะโดนกรอกหูอยู่ประจำว่า 'การเข้ายามเป็นอาชีพหลักของทหาร' 

คืนนี้เราไม่มีเวลาจัดเวรยามนัก จึงต้องมาตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร 

‘เหนื่อยจะตายอยู่แล้วยังต้องมาคอยตื่นเข้ายามอีก บ้าชะมัด' ผมสบถในใจ 

ในที่สุดเราก็ตกลงกันได้ว่า เนื่องจากวันนี้เรามากันหลายฅนเพราะรวมกับหน่วยอื่นด้วย เราจึงจะเข้ายามกันผลัดละครึ่งชั่วโมง หนึ่งผลัดมีสองฅน โดยเราจะนอนหัวชนกันเป็นวงกลมกว้าง ๆ ฅนที่เข้ายามคู่แรกจะต้องปลุกยามคู่ต่อไป และคู่ต่อไปก็ต้องปลุกฅนที่นอนต่อจากตนมาเข้ายามต่อ เป็นแบบนี้ต่อ ๆ กันไป โดยการปลุกนั้นจะเวียนไปตามเข็มนาฬิกา

ผมถอนใจก่อนทิ้งตัวลงนอน สิ่งที่เกลียดที่สุดสำหรับการเป็นทหารก็คือการถูกปลุกให้เข้ายามนี่แหละ โดยเฉพาะในค่ำคืนที่สมควรจะได้หลับเป็นตายแบบนี้ด้วย

.
แล้วผมก็ต้องตื่นมาพร้อมกับความระแวงเรื่องเวลาเสียทั้งคืน จากการคำนวณคร่าว ๆ ผมคิดว่าไม่เกินสามทุ่มเข็มนาฬิกาก็น่าจะเวียนมาถึง แต่ทำไมสามทุ่มคืนนี้มันถึงได้นานนักนะ ผมตื่นมากี่ครั้งทุกอย่างก็ยังคงเงียบสนิท มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าหว่า ผมนอนระแวงจนถึงเช้า

.
“เอ็งนั่นแหละดันรู้มาก จ่าจับได้ข้าเลยซวยไปด้วยเลย” 

เสียงพวกเราคุยกันขณะเตรียมอาหารเช้า ปกติเราจะมีรถส่งเสบียง แต่บางครั้งก็มีกรณีฉุกเฉินแบบนี้เช่นกัน

“อะไรนะ” ผมถามขณะเดินเอาฟืนไปวางให้พวกมัน ซึ่งกำลังสาละวนอยู่กับหม้อสนามซึ่งแขวนอยู่กับราวเหนือกองไฟ

“ไอ้ลัพกับพวกมันนั่นสิ ดันเปลี่ยนที่นอนเพื่อไม่ต้องเข้ายาม จ่าจับได้ก็เลยเปลี่ยนมาวนทวนเข็มนาฬิกาแทน ข้าเลยซวยต้องโดนเข้ายามไปด้วย นึกว่าจะรอดเพราะอยู่หางแถวแล้ว” 

ฅนหนึ่งตอบมา ผมมองหน้าพวกมัน

นี่ตกลงว่าที่ผมต้องนอนระแวงเสียทั้งคืน ก็เพราะช่วงหัวค่ำดันหลับเป็นตาย เลยไม่รู้เรื่องเปลี่ยนการหมุนรอบเข้ายามสินะ

พับผ่าเถอะ รู้แบบนี้จะหลับให้สบายโดยไม่ต้องพะวักพะวงอะไรเลยจริง ๆ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่