ทำไมการเช็คระยะจากศูนย์จนถึงสองแสนโลศูนย์ถึงไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แบบเปิดอ่าง

ผมไม่รู้รถแบรนด์อื่น มี หรือ ไม่มี นะครับ ผมดูเเค่รถตัวเอง Honda City 1.0 turbo การ เช็คระยะจากศูนย์ถึง 200,000 กิโลเมตรไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แบบเปิดอ่าง เปลี่ยนกรองข้างใน + ปะเก็นเลย มีแค่เปลี่ยนถ่ายแบบธรรมดา อยากสอบถามผู้รู้ทุกท่านว่าสรุปแล้ว มันไม่จำเป็นหรือครับ ขนาดศูนย์บริการยังไม่มี เเต่อู่นอกมีเเต่คนบริการเเนะนำเรื่องนี้ตลอด

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
คนพันทิปนี่ตลกดี พอมีคำถามเกี่ยวกับยี่ห้อเทิดทูนอย่างฮอนด้ากลายเป็นคนถามโดนเขม่นโดนครหาว่าคืดเกินขอบเขตไม่รู้เรื่องไปเสียนี่…..ผมตอบคนถามแล้วกัน การเปิดอ่างน้ำมันเกียร์จำเป็นครับ เปิดเพื่อทำการเปลี่ยนกรองเกียร์ในระบบ ถึงเปลี่ยนกรองในไม่ได้เปลี่ยนกรองนอกก็ยังดี ทำไมต้องเปลี่ยน? เพราะว่าทุกครั้งที่มีการทำงานของเกียร์มันมีเศษชิ้นส่วนของระบบภายในเกียร์ที่มันเสียดสีเสื่อมสภาพออกมาด้วยทุกครั้ง เหยียบหนักก็เศษออกมาเยอะเหยียบน้อยก็เศษออกมาน้อยแต่จะมีเกิดขึ้นแน่นอน ไอ้ตัวที่จะคอยกรองไม่ให้เศษเหล่านี้กระจายไปทำระบบเกียร์พังวอดวายก็กรองเกียร์นั่นแหละ จะรอเปลี่ยนตอนหลักแสนกิโลไม่พอหรอกครับ อาการหนักๆก็กรองเกียร์ทะลุเบาหน่อยก็น้ำมันเกียร์ไปหล่อลื่นเกียร์ไม่เต็มที่ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างเดียวไม่พอครับบบบบ กรองเกียร์ตัวไหนเปลี่ยนได้ควรเปลี่ยนด้วยตัวละไม่กี่ร้อยซ่อมเกียร์หลายหมื่น ตัวอย่างเข้าข่ายกรองเกียร์ไม่ใส่ใจแล้วเกียร์พังก็ซีวิคไดเมนชั่นโฉมแรกนี่แหละ กรองเกียร์เล็กติ๊ดเดียวตันง่าย พอตันปุ้บน้ำมันเกียร์หล่อลื่นระบบเกียร์ยาก/ไม่หล่อลื่นเลยเกียร์ก็พัง ไม่เกินแสนกิโลเกียร์ก็พัง แต่พอไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนกรองเกียร์ใหญ่ขึ้นปัญหาเกียร์พังไวก็หายไป กรองเกียร์เล็กกับกรองเกียร์ไม่เปลี่ยนจนน้ำมันเกียร์หล่อลื่นระบบยากหนือไม่ได้เลยก็สถาณการณ์ใกล้เคียงกัน ที่บอกสองแสนสามแสนกิโลไม่เคยเปลี่ยนกรองเกียร์คือได้เคยเปิดมาดูไหมว่าประสิทธิภาพการกรองมันเต็มร้อยหรือจะตันมิตันแหล่แล้ว? ใครอยากเสี่ยงงกกับแค่ค่ากรองเกียร์ค่าปะเก็นก็ตามสบาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่