เมื่อครารติเร้า
ทมะเข้าสะกิดเตือน
คิดพูดบ่ละเลือน
สติคอยประคองไว้
โทโสปะทุพุ่ง
มละมุ่งสะกดใจ
เมตตาชนะได้
มนะใสบ่ขุ่นหมอง
ความโลภสิกระทบ
จะสยบสลายต้อง
ใช้จาคะประคอง
ก็ละจ้องบ่ต้องการ
โมหันธ์ก็คละไป
หฤทัยสิไฟผลาญ
เร่าร้อนระอุนาน
จะประหารก็ปัญญา
ยากนักปฏิบัติ
ก็บ่ชัดกิเลสมา
ฝึกรู้สติพา
จะขจัดสลัดเร็ว
รติ = ความยินดี ความชอบใจ ความรัก ความกำหนัด
ทมะ = การข่มใจ การฝึกตน
มละ = ละ ทิ้ง เครื่องทำให้มัวหมอง เปรอะเปื้อน
มนะ = ใจ
โมหันธ์ = มืดมนด้วยความหลง
อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑: โลภ โกรธ หลง
เมื่อครารติเร้า
ทมะเข้าสะกิดเตือน
คิดพูดบ่ละเลือน
สติคอยประคองไว้
โทโสปะทุพุ่ง
มละมุ่งสะกดใจ
เมตตาชนะได้
มนะใสบ่ขุ่นหมอง
ความโลภสิกระทบ
จะสยบสลายต้อง
ใช้จาคะประคอง
ก็ละจ้องบ่ต้องการ
โมหันธ์ก็คละไป
หฤทัยสิไฟผลาญ
เร่าร้อนระอุนาน
จะประหารก็ปัญญา
ยากนักปฏิบัติ
ก็บ่ชัดกิเลสมา
ฝึกรู้สติพา
จะขจัดสลัดเร็ว
รติ = ความยินดี ความชอบใจ ความรัก ความกำหนัด
ทมะ = การข่มใจ การฝึกตน
มละ = ละ ทิ้ง เครื่องทำให้มัวหมอง เปรอะเปื้อน
มนะ = ใจ
โมหันธ์ = มืดมนด้วยความหลง