DCA กลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน
DCA ย่อมาจาก Dollar cost averaging แปลตรงๆก็ คือ การเฉลี่ยต้นทุน เป็น หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ ง่ายที่สุดในการลงทุน และใครๆก็สามารถทำได้
แล้วทำไมต้อง DCA ?
1. การใช้กลยุทธ์ DCA ในการลงทุนทำให้เราตัดสิน ใจโดยไม่ใช้อารมณ์นั่นเอง เช่น เรารู้สึกว่าหุ้นจะขึ้น หรือกลัวว่าหุ้นจะลงเพราะเนื่องจากการลงทุนที่ผิด พลาดส่วนใหญ่ มาจากอารมณ์เราทั้งนั้น หากการ ตัดสินใจลงทุนนั้นมีอารมณ์ร่วมก็คงไม่ต่างกับการ พนัน
2. การ DCA ทำให้เราได้ลงทุนในทุกช่วงจังหวะ โดย ไม่ต้องจับจังหวะ
3. การ DCA นั้นใช้เวลา ทำให้เราจะได้ฝึกฝนวินัย การออมไปในตัว
แล้ว DCA ใช้กับการลงทุนอะไรได้บ้าง? DCA สามารถใช้ได้กับหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ, หุ้น, กองทุน, หรือแม้แต่สินทรัพย์ดิจิตอล
DCA ทำอย่างไร?
ง่ายๆเลยครับซื้อเป็นประจำตามแผนในจำนวนเงินที่ เท่ากัน
ตัวอย่างเช่น เราวางแผนไว้ว่าทุกๆวันที่ 1 ของเดือน จะออมหุ้นเดือนละ 1,000 บาท โดยไม่สนว่าราคาหุ้น ในวันนั้นจะเป็นเท่าไหร่
แล้ว DCA ได้ผลจริงไหม?
เรามาลองดูตัวอย่าง DCA ในหุ้นรายตัวกันนะครับ
ตัวอย่าง: ลงทุนในหุ้นสนามบิน AOT ด้วยเงิน 10,000 บาททุกเดือนเป็นเวลา 5 ปี
ผลการทำ Backtesting เป็นดังนี้ มูลค่าปัจจุบันจะอยู่ที่ 420,000 บาท ต้นทุนรวมอยู่ที่ 379,525 บาท
(ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ผลตอบแทนรวมเงินปันผลจะอยู่ที่ 25,565 บาท
แต่ทั้งนี้ตัวอย่างที่เลือกมา เป็นตัวอย่างการลงทุนที่ได้ กำไร หากเพื่อนๆเลือกสินทรัพย์ลงทุนผิดโอกาส ขาดทุนก็มีเช่นกัน
แล้วเราควร DCA เท่าไหร่ดี? คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนและข้อ จำกัดของแต่ละคนครับ หากเพื่อนๆสะดวก DCA 300 บาทต่อเดือน หรือ 10,000 บาทต่อเดือนก็ได้หมดครับ
แต่เดี๋ยวก่อน! การทำ DCA อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด? วิธีการของ DCA นั้นไม่ยาก แต่ที่ยากคือการทำตาม วินัยและแผนที่เราตั้งไว้ เพราะหากในวันที่ตลาดขึ้น
วินัยและแผนทีเราดัง ไว้ เพราะหากในวันทีตลาดขัน สุดๆจนเหมือนจะเป็นยอดดอย หรือตลาดตกต่ำจน แทบจะไม่มีอนาคตแล้ว เรายังกล้าซื้ออยู่หรือไม่? สิ่ง นี่เหมือนเป็นการวัดใจเราเหมือนกันครับ
***ความเสี่ยงของการ DCA
หากเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเป็นขาลง, จะ มีโอกาสสูงที่จะขาดทุนในระยะยาว อาจจะต้องมีการ ประเมินและเลือกสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น เช่น เป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต, เป็นตลาดที่มีการ เติบโต
สิ่งที่ควรรู้ก่อน DCA
DCA ย่อมาจาก Dollar cost averaging แปลตรงๆก็ คือ การเฉลี่ยต้นทุน เป็น หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ ง่ายที่สุดในการลงทุน และใครๆก็สามารถทำได้
แล้วทำไมต้อง DCA ?
1. การใช้กลยุทธ์ DCA ในการลงทุนทำให้เราตัดสิน ใจโดยไม่ใช้อารมณ์นั่นเอง เช่น เรารู้สึกว่าหุ้นจะขึ้น หรือกลัวว่าหุ้นจะลงเพราะเนื่องจากการลงทุนที่ผิด พลาดส่วนใหญ่ มาจากอารมณ์เราทั้งนั้น หากการ ตัดสินใจลงทุนนั้นมีอารมณ์ร่วมก็คงไม่ต่างกับการ พนัน
2. การ DCA ทำให้เราได้ลงทุนในทุกช่วงจังหวะ โดย ไม่ต้องจับจังหวะ
3. การ DCA นั้นใช้เวลา ทำให้เราจะได้ฝึกฝนวินัย การออมไปในตัว
แล้ว DCA ใช้กับการลงทุนอะไรได้บ้าง? DCA สามารถใช้ได้กับหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ, หุ้น, กองทุน, หรือแม้แต่สินทรัพย์ดิจิตอล
DCA ทำอย่างไร?
ง่ายๆเลยครับซื้อเป็นประจำตามแผนในจำนวนเงินที่ เท่ากัน
ตัวอย่างเช่น เราวางแผนไว้ว่าทุกๆวันที่ 1 ของเดือน จะออมหุ้นเดือนละ 1,000 บาท โดยไม่สนว่าราคาหุ้น ในวันนั้นจะเป็นเท่าไหร่
แล้ว DCA ได้ผลจริงไหม?
เรามาลองดูตัวอย่าง DCA ในหุ้นรายตัวกันนะครับ
ตัวอย่าง: ลงทุนในหุ้นสนามบิน AOT ด้วยเงิน 10,000 บาททุกเดือนเป็นเวลา 5 ปี
ผลการทำ Backtesting เป็นดังนี้ มูลค่าปัจจุบันจะอยู่ที่ 420,000 บาท ต้นทุนรวมอยู่ที่ 379,525 บาท
(ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ผลตอบแทนรวมเงินปันผลจะอยู่ที่ 25,565 บาท
แต่ทั้งนี้ตัวอย่างที่เลือกมา เป็นตัวอย่างการลงทุนที่ได้ กำไร หากเพื่อนๆเลือกสินทรัพย์ลงทุนผิดโอกาส ขาดทุนก็มีเช่นกัน
แล้วเราควร DCA เท่าไหร่ดี? คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนและข้อ จำกัดของแต่ละคนครับ หากเพื่อนๆสะดวก DCA 300 บาทต่อเดือน หรือ 10,000 บาทต่อเดือนก็ได้หมดครับ
แต่เดี๋ยวก่อน! การทำ DCA อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด? วิธีการของ DCA นั้นไม่ยาก แต่ที่ยากคือการทำตาม วินัยและแผนที่เราตั้งไว้ เพราะหากในวันที่ตลาดขึ้น
วินัยและแผนทีเราดัง ไว้ เพราะหากในวันทีตลาดขัน สุดๆจนเหมือนจะเป็นยอดดอย หรือตลาดตกต่ำจน แทบจะไม่มีอนาคตแล้ว เรายังกล้าซื้ออยู่หรือไม่? สิ่ง นี่เหมือนเป็นการวัดใจเราเหมือนกันครับ
***ความเสี่ยงของการ DCA
หากเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเป็นขาลง, จะ มีโอกาสสูงที่จะขาดทุนในระยะยาว อาจจะต้องมีการ ประเมินและเลือกสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น เช่น เป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต, เป็นตลาดที่มีการ เติบโต