สวัสดีครับผมชื่อรี่หรือจะเรียกผมว่าริมก็ได้ เรามาเจอกันอีกแล้วนะครับหลังจากที่กระทู้ก่อนหน้านี้ผมมาเล่าเรื่องที่ชื่อว่า ลืมของ ถ้าใครเคยอ่านจะจำผมได้ไอที่ผมไปฉี่บนเกาะแล้วเจอดี ครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์โดยตรงอีกเช่นเคยครับ แต่เรื่องนี้จะไม่ยาวเท่าไหร่ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วตั้งจิตให้มั่น เพลิดเพลินไปกับเรื่องจริงของผมแล้วนึกภาพตามนะครับ
เรื่องนี้ผมขอให้ชื่อเรื่องว่า ...ไปส่งหน่อย...
ตอนนั้นผมอายุ 17 ผมเพิ่งเลิกเรียนรด. ก็คือรถไปรับที่ค่ายทหารมาส่งที่รร.มาถึงตอน 6 โมงเย็นครับ แต่ผมยังไม่กลับบ้านนะผมแวะเข้าหอชายก่อนเพราะผมเคยเป็นเด็กหออีกอย่างเพื่อนผมในนั้นเยอะแยะ ผมนั่งเล่นอยู่ที่หอจนลืมดูเวลาครับ พอมาดูอีกทีก็ 5 ทุ่มแล้ว รร.ผมอยู่คลอง 15 บางน้ำเปรี้ยวครับ ผมใช้เส้นทางกลับบ้านคือคลอง 14 เส้นทางที่ผมใช้สองข้างทางจะเป็นนา ด้านขวานี่นาล้วนๆเลย ส่วนด้านซ้ายจะมีบ้านคนบ้าง พอขับไปเรื่อยๆผมเห็นว่ามีผญ.คนนึงร่างท๊วมๆ ผมสั้น วัยกลางคน เดินอยู่ข้างถนนด้านซ้ายมือ แกหันมาโบกรถผมแต่ด้วยความที่ผมกลัวจะเป็นโจรผมเอามือล้วงเข้าไปที่เสื้อจับด้ามขวานไว้ เอิ่มมม... ต้องบอกว่าช่วงนั้นวัยหัวเลี้ยวหัวต่ออะไรที่เป็นอาวุธผมจะพกติดตัวไว้เพราะทางกลับบ้านมันเปลี่ยว ผมชะลอความเร็วลงจนจอดแล้วถามเขาว่า...
ผม : มีอะไรหรือป่าวครับ
ป้า : ไปส่งป้าที่.....หน่อยหนุ่ม
ผม : ไปส่งได้ครับแต่ป้าไปไหนมาทำไมถึงมาเดินอยู่แถวนี้
ป้า : ป้าไปบ้านญาติมาแล้วป้าทะเลาะกับทางนั้นเขาคงเกลียดป้าแล้วแหละถึงไล่ให้ป้าเดินกลับเอง
ผม : งั้นผมไปส่งเองนะครับ
คือระยะทางจากตรงที่ผมรับไปถึงจุดที่ป้าให้ไปส่งประมาณ 10 กิโลได้ครับ แต่ผมเองก็ยังไม่ไว้ใจป้าอยู่ดีผมยังเอามือจับด้ามขวานที่เหน็บไว้อยู่ ผมคิดอย่างเดียวถ้าเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมที่จะชักออกมาจามหัวแน่ๆ ตอนที่ป้าแกซ้อนผมแกก็ยังคุยปกติ มีเนื้อหนังมังสา ก็คือคนนั่นแหละฮะ ตอนคุยด้วยความที่ผมระแวงผมจะมองกระจกอยู่ตลอดแต่มองไปมองมาพอมองครั้งสุดท้ายผมพบแต่ความว่างเปล่าที่เบาะคนซ้อน ผมเลยตัดสินในจอดแล้วมองอีกทีก็ไม่มีอะไรข้างหลังนะครับ มันทำให้ผมงงแบบหนักมากและทำหน้าเหว๋อไปหนึ่งที คิดอย่างเดียวว่าป้าแกตกรถหรือป่าวแต่ถ้าตกเราคงได้ยินเสียงสิ แล้วเมื่อกี้ก่อนเราจะหันไปดูกระจกไม่ถึง 2 วิ ป้าแกก็ยังคุยอยู่เลย คำถามและทุกสิ่งทุกอย่างมันตีกันอยู่ในหัว ก็เลยหันกลับไปดูด้วยสายตาตัวเองสิ่งที่เห็นคือป้าแกเดินกระโดดๆๆๆ ลั้นลาๆๆแบบว่าเจ้าหญิงดิสนีย์อารมณ์ดี ทีนี้คำถามในหัวมันผุดขึ้นมาอีกว่า ถ้าคนตกรถจริงๆมันต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะลุกมาได้แล้วความเร็วที่ใช้ก็อยู่ประมาณ 90 กว่าๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนตกรถจะมาเดินลั้นลาแบบนี้ ผมเพิ่งรู้ตัวเองว่าสิ่งที่ผมเจอมันไม่ใช่แล้วผมเลยบิดมอเตอร์ไซค์หนีให้ไวที่สุด ผมขับไปเรื่อยๆประมาณ 5 นาทีผมก็เจอคนๆนึงเดินอยู่ข้างถนนด้านซ้ายอีก พอเข้าใกล้เรื่อยๆเพ่งมองดีๆคนๆนั้นหันมาโบกรถผม ใช่ครับมันคือคนเดิมกับที่ผมรับขึ้นมาเมื่อกี้ ผมเลยไม่สนใจและรีบบิดให้ไวที่สุดและคำถามก็ผุดขึ้นมาอีกว่า
สมอง : เขาเป็นแฝดกันใช่มั้ย ถ้าใช่แสดงว่าแฝดพี่เดินไม่รอแฝดน้องแน่ๆ พอผมขับไปเรื่อยๆข้างหน้าอีก 200 เมตรจะเป็นวัดและสามแยก ประตูซุ้มทางเข้าวัดเนี่ยอยู่ตรงสามแพร่งเลยถ้ามาจากขวามือสามารถขับตรงเข้าวัดได้เลย จากนั้นผมเห็นเหมือนเดิมเลยและเขาก็หันมาโบกอีกที
สมอง : เห้ย!!! เขามีแฝด 3 คนใช่มั้ย ถ้าใช่แสดงว่าแฝดคนโตเดินไม่รอแฝดคนกลาง และแฝดคนกลางเดินไม่รอแฝดน้องแน่ๆ แล้วทำไมถึงแต่งตัวเหมือนกัน มันคืออะไร!!!
ผมชะลอเพื่อจะเลี้ยวขวาเพราะถึงสามแยกผมหันไปมองกระจกเห็นป้าคนนั้นวิ่งตามมาติดๆ ผมเลยรีบบิดมอเตอร์ไซค์หนีไปเลยครับ
เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ แต่เรื่องนี้ผมเคยโพสลงเฟสมีคนมาเม้นมาไลค์เยอะมากกกกก บ้างก็มาเล่าให้ฟังว่าเคยเจอนู่นนี่นั่น บ้างก็ว่ากลางคืนไม่ค่อยมีใครขับถนนเส้นนั้นแล้ว แต่มันก็จริงนะ พอผมโพสลงไปวันถัดมาเพื่อนมาเล่าให้ผมฟังต่อว่า มันเองก็เคยเจอคนยืนอยู่บนกำแพงวัดเรียงกันเป็นแถวเลย ส่วนพ่อมันก็เจอผช.ไม่มีหัวนั่งอยู่ที่ศาลาหน้าวัด
ถ้าชอบผมยังมีอีกเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองน้าาาาา แต่อีกเรื่องจะยาวมากๆแถมมีคนในกลุ่มเสียชีวิตด้วยผมยังลังเลอยู่ว่าจะเล่าดีมั้ยและยังคิดอยู่จะเล่ายังไงให้ไม่งงเพราะมันเล่ายากมาก
รบกวนเม้นกันอย่างสุภาพ ติชมได้นะครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ
THE END.....
ประสบการณ์ขนหัวลุก...รับผีขึ้นรถ...
เรื่องนี้ผมขอให้ชื่อเรื่องว่า ...ไปส่งหน่อย...
ตอนนั้นผมอายุ 17 ผมเพิ่งเลิกเรียนรด. ก็คือรถไปรับที่ค่ายทหารมาส่งที่รร.มาถึงตอน 6 โมงเย็นครับ แต่ผมยังไม่กลับบ้านนะผมแวะเข้าหอชายก่อนเพราะผมเคยเป็นเด็กหออีกอย่างเพื่อนผมในนั้นเยอะแยะ ผมนั่งเล่นอยู่ที่หอจนลืมดูเวลาครับ พอมาดูอีกทีก็ 5 ทุ่มแล้ว รร.ผมอยู่คลอง 15 บางน้ำเปรี้ยวครับ ผมใช้เส้นทางกลับบ้านคือคลอง 14 เส้นทางที่ผมใช้สองข้างทางจะเป็นนา ด้านขวานี่นาล้วนๆเลย ส่วนด้านซ้ายจะมีบ้านคนบ้าง พอขับไปเรื่อยๆผมเห็นว่ามีผญ.คนนึงร่างท๊วมๆ ผมสั้น วัยกลางคน เดินอยู่ข้างถนนด้านซ้ายมือ แกหันมาโบกรถผมแต่ด้วยความที่ผมกลัวจะเป็นโจรผมเอามือล้วงเข้าไปที่เสื้อจับด้ามขวานไว้ เอิ่มมม... ต้องบอกว่าช่วงนั้นวัยหัวเลี้ยวหัวต่ออะไรที่เป็นอาวุธผมจะพกติดตัวไว้เพราะทางกลับบ้านมันเปลี่ยว ผมชะลอความเร็วลงจนจอดแล้วถามเขาว่า...
ผม : มีอะไรหรือป่าวครับ
ป้า : ไปส่งป้าที่.....หน่อยหนุ่ม
ผม : ไปส่งได้ครับแต่ป้าไปไหนมาทำไมถึงมาเดินอยู่แถวนี้
ป้า : ป้าไปบ้านญาติมาแล้วป้าทะเลาะกับทางนั้นเขาคงเกลียดป้าแล้วแหละถึงไล่ให้ป้าเดินกลับเอง
ผม : งั้นผมไปส่งเองนะครับ
คือระยะทางจากตรงที่ผมรับไปถึงจุดที่ป้าให้ไปส่งประมาณ 10 กิโลได้ครับ แต่ผมเองก็ยังไม่ไว้ใจป้าอยู่ดีผมยังเอามือจับด้ามขวานที่เหน็บไว้อยู่ ผมคิดอย่างเดียวถ้าเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมที่จะชักออกมาจามหัวแน่ๆ ตอนที่ป้าแกซ้อนผมแกก็ยังคุยปกติ มีเนื้อหนังมังสา ก็คือคนนั่นแหละฮะ ตอนคุยด้วยความที่ผมระแวงผมจะมองกระจกอยู่ตลอดแต่มองไปมองมาพอมองครั้งสุดท้ายผมพบแต่ความว่างเปล่าที่เบาะคนซ้อน ผมเลยตัดสินในจอดแล้วมองอีกทีก็ไม่มีอะไรข้างหลังนะครับ มันทำให้ผมงงแบบหนักมากและทำหน้าเหว๋อไปหนึ่งที คิดอย่างเดียวว่าป้าแกตกรถหรือป่าวแต่ถ้าตกเราคงได้ยินเสียงสิ แล้วเมื่อกี้ก่อนเราจะหันไปดูกระจกไม่ถึง 2 วิ ป้าแกก็ยังคุยอยู่เลย คำถามและทุกสิ่งทุกอย่างมันตีกันอยู่ในหัว ก็เลยหันกลับไปดูด้วยสายตาตัวเองสิ่งที่เห็นคือป้าแกเดินกระโดดๆๆๆ ลั้นลาๆๆแบบว่าเจ้าหญิงดิสนีย์อารมณ์ดี ทีนี้คำถามในหัวมันผุดขึ้นมาอีกว่า ถ้าคนตกรถจริงๆมันต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะลุกมาได้แล้วความเร็วที่ใช้ก็อยู่ประมาณ 90 กว่าๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนตกรถจะมาเดินลั้นลาแบบนี้ ผมเพิ่งรู้ตัวเองว่าสิ่งที่ผมเจอมันไม่ใช่แล้วผมเลยบิดมอเตอร์ไซค์หนีให้ไวที่สุด ผมขับไปเรื่อยๆประมาณ 5 นาทีผมก็เจอคนๆนึงเดินอยู่ข้างถนนด้านซ้ายอีก พอเข้าใกล้เรื่อยๆเพ่งมองดีๆคนๆนั้นหันมาโบกรถผม ใช่ครับมันคือคนเดิมกับที่ผมรับขึ้นมาเมื่อกี้ ผมเลยไม่สนใจและรีบบิดให้ไวที่สุดและคำถามก็ผุดขึ้นมาอีกว่า
สมอง : เขาเป็นแฝดกันใช่มั้ย ถ้าใช่แสดงว่าแฝดพี่เดินไม่รอแฝดน้องแน่ๆ พอผมขับไปเรื่อยๆข้างหน้าอีก 200 เมตรจะเป็นวัดและสามแยก ประตูซุ้มทางเข้าวัดเนี่ยอยู่ตรงสามแพร่งเลยถ้ามาจากขวามือสามารถขับตรงเข้าวัดได้เลย จากนั้นผมเห็นเหมือนเดิมเลยและเขาก็หันมาโบกอีกที
สมอง : เห้ย!!! เขามีแฝด 3 คนใช่มั้ย ถ้าใช่แสดงว่าแฝดคนโตเดินไม่รอแฝดคนกลาง และแฝดคนกลางเดินไม่รอแฝดน้องแน่ๆ แล้วทำไมถึงแต่งตัวเหมือนกัน มันคืออะไร!!!
ผมชะลอเพื่อจะเลี้ยวขวาเพราะถึงสามแยกผมหันไปมองกระจกเห็นป้าคนนั้นวิ่งตามมาติดๆ ผมเลยรีบบิดมอเตอร์ไซค์หนีไปเลยครับ
เรื่องก็มีอยู่เท่านี้ แต่เรื่องนี้ผมเคยโพสลงเฟสมีคนมาเม้นมาไลค์เยอะมากกกกก บ้างก็มาเล่าให้ฟังว่าเคยเจอนู่นนี่นั่น บ้างก็ว่ากลางคืนไม่ค่อยมีใครขับถนนเส้นนั้นแล้ว แต่มันก็จริงนะ พอผมโพสลงไปวันถัดมาเพื่อนมาเล่าให้ผมฟังต่อว่า มันเองก็เคยเจอคนยืนอยู่บนกำแพงวัดเรียงกันเป็นแถวเลย ส่วนพ่อมันก็เจอผช.ไม่มีหัวนั่งอยู่ที่ศาลาหน้าวัด
ถ้าชอบผมยังมีอีกเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองน้าาาาา แต่อีกเรื่องจะยาวมากๆแถมมีคนในกลุ่มเสียชีวิตด้วยผมยังลังเลอยู่ว่าจะเล่าดีมั้ยและยังคิดอยู่จะเล่ายังไงให้ไม่งงเพราะมันเล่ายากมาก
รบกวนเม้นกันอย่างสุภาพ ติชมได้นะครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ
THE END.....