พระสมเด็จโอ๊ก วัดไก่จ้น ปี 2501 (หลวงปู่ลำภู)

พระสมเด็จโอ๊ก วัดไก่จ้น ปี 2501 (หลวงปู่ลำภู)


ประวัติพระสมเด็จรุ่นโอ๊ก (ช่อฟ้าการเปรียญวัดไก่จ้น)

          ปลายปี พ.ศ.2501 หลวงปู่ลำภู ท่านเตรียมสร้างพระสมเด็จรุ่น "ปี 02" พระครูประจักษ์จริยคุณ (หลวงพ่อประยูร) จึงเดินทางไปกราบขอพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหัก เพื่อนำไปสร้างพระสมเด็จฯ หลวงปู่ลำภู ท่านได้แบ่งให้ด้วยความเมตตาจำนวนหนึ่งมากพอประมาณ  พระครูประจักษ์จริยคุณ ท่านได้นำผงจำนวนนั้นไปผสมมวลสารพระพิมพ์เป็นพระสมเด็จขึ้นใหม่ เมื่อปลายปี 2501 นั้นเอง โดยมีพระเฉลิม เรือนแก้ว เป็นผู้ทำถวาย ซึ่งพระเฉลิม เรือนแก้ว ท่านเป็นพระกรรมการรูปหนึ่งที่ลงไปนำพระสมเด็จบางขุนพรหมขึ้นมาจากกรุ ทางวัดจึงถวายพระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ให้ท่านหนึ่งองค์ ท่านได้นำพระองค์นั้นไปทำการถอดพิมพ์ “ทำบล็อกแม่พิมพ์ใหม่” เพื่อเป็นแม่พิมพ์พระสมเด็จรุ่น "โอ๊ก" การจัดสร้างพระสมเด็จในครั้งนั้นได้พระประมาณ 3,000 องค์ จากนั้น พระครูประจักษ์จริยคุณ ได้ขอความเมตตาอนุเคราะห์จากหลวงปู่ลำภู เจริญจิตภาวนาปลุกเสกพระสมเด็จชุดนี้เป็นเวลาสามเดือนไตรมาส แล้วจึงนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดไก่จ้น เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่บริจาคทรัพย์บำรุงวัด

          ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 พระครูวรดิตถ์คณารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไก่จ้น ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ เปลี่ยนกระเบื้องและช่อฟ้าใบระกาใหม่ทั้งหมด พระครูประจักษ์จริยคุณ ท่านจึงได้นำพระสมเด็จที่ท่านสร้างไว้ ส่วนหนึ่งบรรจุไว้ช่อฟ้าด้านหน้าและหลัง “ช่อฟ้าละ 500 องค์” โดยบรรจุในส่วนคอของช่อฟ้า ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “คอโอ๊ก” รวมที่บรรจุไว้ จำนวน 1,000 องค์ ส่วนที่พระเหลือ จำนวน 2,000 องค์ ก็ให้ชาวบ้านที่มาร่วมงานบุญยกช่อฟ้าไปจนหมด จึงได้กลายมาเป็นที่มาขอชื่อพระสมเด็จนี้ว่า “พระสมเด็จคอโอ๊ก” (ชาวบ้านได้กล่าวขานตามสถานที่ที่บรรจุ) ซึ่งต่อมาได้ลดคำให้สั้นลงเรียกกันว่า “สมเด็จโอ๊ก”

          จนถึงปี พ.ศ.2542 โดยพระครูประจักษ์จริยคุณ เจ้าอาวาสวัดไก่จ้นในขณะนั้น ศาลาการเปรียญชำรุดทรุดโทรม จึงได้นำ “พระสมเด็จโอ๊ก” ที่บรรจุไว้ที่ช่อฟ้า จำนวน 1,000 องค์ (ในจำนวนนี้มีทั้ง “พิมพ์โอ๊กใหญ่” และ “พิมพ์โอ๊กเล็ก”) ซึ่งคณะกรรมการวัดไก่จ้น เป็นประธานในพิธีเปิดกรุ “สมเด็จโอ๊ก” เพื่อให้ประชาชนได้เช่าไว้สักการบูชา ตอนเปิดท้องโอ๊กที่บรรจุพระสมเด็จไว้ ช่างได้ใช้สว่านเจาะท้องโอ๊ก แต่ช่างไม่มีความชำนาญและไม่มีความระมัดระวัง จึงทำให้พระสมเด็จเสียหายจำนวนมาก ประกอบกับพระที่อยู่รวมกันจับตัวเป็นก้อนขณะแยกพระออกก็ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง ได้พระที่สมบูรณ์พอจะให้ทำบุญบูชาได้ 997 องค์ อีก 3 องค์แตกหัก (พระสภาพดีประมาณ 500 องค์) คณะกรรมการฯ จึงแบ่งพระออกเป็น 3 สภาพ คือ 1) สมบูรณ์ที่สุด 2) บิ่นเล็กน้อย 3) หักมุม และเปิดให้ทำบุญเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2542 เป็นวันมหามงคล "วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ"

สำหรับพิมพ์ "พระสมเด็จโอ๊ก" มีด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ...

            1. พระสมเด็จโอ๊กพิมพ์ใหญ่ : เนื้อจะออกสีขาว และมองเห็นผงสมเด็จบางขุนพรหมผสมอยู่ในเนื้อมากและชัดเจน

      
  พระสมเด็จโอ๊กใหญ่ หลวงปู่ลำภู พ.ศ.2501 (เนื้อแบบบรรจุกรุ)              พระสมเด็จโอ๊กใหญ่ หลวงปู่ลำภู พ.ศ.2501 (เนื้อแบบไม่บรรจุกรุ)

            2. พระสมเด็จโอ๊กพิมพ์เล็ก : เนื้อจะออกอมเหลือง ผิวและเนื้อจะละเอียดแน่น เพราะมีการแก้ไขสูตรผสมเนื้อ โดยเพิ่มน้ำมัน “ตังอิ้ว”

พระสมเด็จโอ๊กเล็ก หลวงปู่ลำภู พ.ศ.2501 (สภาพไม่บรรจุกรุ)

สำหรับข้อสังเกตุ+ตำหนิ "พระสมเด็จพิมพ์โอ๊กใหญ่และโอ๊กเล็ก" สามารถอ่านได้จาก...


วัดไก่จ้น

          วัดไก่จ้นเป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณ ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตั้งขึ้นเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2375 เดิมเรียกว่า "วัดบ้านไก่จ้น" มีหลักฐานประกฎอยู่ในใบพระราชทานวิสุงคามสีมา ของอุโบสถหลังเก่า ความว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่ "วัดบ้านไก่จ้น" แควนครน้อย แขวงกรุงเก่า ซึ่งมี "เจ้าอธิการดิส" เป็นเจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ. 2431 และเชื่อกันว่า "สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)" เกิดที่บ้านไก่จ้น (มีวัดไก่จ้นอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดสมัยรัตนโกสินทร์ สร้างสมัยหลังวัดสะตือ)





ปล.จัดทำเพื่อเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น หากข้อมูลบางส่วนไม่ถูกต้อง หรือใช้คำไม่ถูกต้อง กระผมต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ..

By Rapbitz

อ้างอิงข้อมูลจาก...


     2. ‘บ้านไก่จ้น’ บ้านเกิดสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) : https://www.matichon.co.th/entertainment/arts-culture/news_3864084

     3. ประวัติพระสมเด็จรุ่นโอ๊ก + รูปภาพประกอบ : หนังสือพระ "ลานโพธิ์" ปีที่ 41 ฉบับที่ 1163
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่