เรามีเพื่อนสนิทอยู่3คน คนที่1 คือเราสนิทมากกว่าใคร เธอรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมต้น
มัธยมปลายเราก็จบจากที่เดียวกัน แต่พอถึงช่วงมหาลัยแม่เราป่วย ไม่มีใครส่งเราจึงไม่ได้เรียนต่อด้วยกัน เราสนิทแบบกินนอนด้วยกันพ่อแม่รับรู้ว่าเราไปนอนบ้านเพื่อนคนนี้
เพื่อนคนนี้มานอนที่บ้านเรา ตอนมัธยมต้นเราจำได้ว่า เราให้อะไรกับเพื่อนคนนี้เยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นแบ่งเงินให้ใช้ เลี้ยงข้าว ไปรับส่ง
จัดวันเกิดให้ พาไปเลี้ยงวันเกิดที่ร้านอาหาร
จนมาสิ้นปีที่แล้ว แม่เราเสีย ก่อนที่แม่จะเสียเราได้สั่งของไปลงที่หอเพื่อนเพื่อที่จะฝากเพื่อนเอาไปให้แม่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากเราทำงานอยู่ต่างจังหวัดระยะทางไกลกันมาก พอวันที่เราจะกลับไปงานศพแม่ เราก็คิดว่าจะไปเอาของพวกนั้นกับเพื่อนที่หอแล้วค่อยกลับมางานศพแม่ที่จังหวัดตัวเอง แต่พอไปถึงหน้างานมันก็ไม่ได้เป็นไปตามแพลนที่บอกไว้ว่าจะไปเอาของ แต่เพื่อนก็บอกเราว่าจะเป็นไรไหมถ้าไม่ได้มาร่วมงานศพแม่เนื่องจากติดทำโปรเจคแล้วก็ไม่มีเงินเดินทาง เราก็เข้าใจได้เพราะว่าเพื่อนเองก็ติดงานสำคัญเพราะปี67นี้เขาจะจบแล้ว จนวันที่เราเผาศพแม่เรียบร้อยแล้วต้องไปแจ้งตายจังหวัดที่แม่ไปรักษา ซึ่งมันเป็นจังหวัดที่เพื่อนเราเรียนอยู่ เราจึงคิดว่าจะไปเอาของพวกนั้นไปบริจาคเพราะแม่ไม่ได้ใช้แล้ว เราก็เลยโทรหาเพื่อนว่าเราจะไปเอาของที่หอด้วยนะ แต่คำตอบที่ได้คือเพื่อนไม่ได้อยู่หอแต่ไปหาแฟนที่ต่างจังหวัด เราได้ยินคำตอบนี้เราเสียใจมาก นอกจากเราจะเสียใจเรื่องแม่แล้วเรายังมาเสียใจกับคำตอบที่เพื่อนสนิทคนนึงให้เรากลับมา ว่าเขารอเราไปเอาของด้วยตั้งนานแต่ไม่เห็นเรามาเขาก็เลยนั่งรถไปหาแฟน แต่เขาบอกเราว่าเขาติดโปรเจค อีกอย่างหนึ่งคือไม่มีเงินเลยไม่ได้นั่งรถมาช่วยงานศพแม่เรา จังหวัดเรากับจังหวัดที่เรียนห่างกันประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร
ในวันที่เขาจบเราควรแสดงความยินดีกับเขาไหม เราควรไปร่วมยินดีหรือให้ของขวัญเขาหรือเปล่าคะ ส่วนเพื่อนสนิทอีก 2 คนเรียนอยู่คนละจังหวัดกับคนที่ 1 สองคนนั้นกำลังออกฝึกงาน และติดนิเทศ แต่เขาก็มาช่วยงานเราจนครบ 3 วัน แล้วค่อยกลับฝึกต่อ ระยะทางมาบ้านเราก็100กว่าโลเท่ากัน แต่เขาก้หาทางมาอยู่ข้างเรา
เพื่อนสนิท กับ วันที่เสียใจที่สุดในชีวิตเรา
มัธยมปลายเราก็จบจากที่เดียวกัน แต่พอถึงช่วงมหาลัยแม่เราป่วย ไม่มีใครส่งเราจึงไม่ได้เรียนต่อด้วยกัน เราสนิทแบบกินนอนด้วยกันพ่อแม่รับรู้ว่าเราไปนอนบ้านเพื่อนคนนี้
เพื่อนคนนี้มานอนที่บ้านเรา ตอนมัธยมต้นเราจำได้ว่า เราให้อะไรกับเพื่อนคนนี้เยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นแบ่งเงินให้ใช้ เลี้ยงข้าว ไปรับส่ง
จัดวันเกิดให้ พาไปเลี้ยงวันเกิดที่ร้านอาหาร
จนมาสิ้นปีที่แล้ว แม่เราเสีย ก่อนที่แม่จะเสียเราได้สั่งของไปลงที่หอเพื่อนเพื่อที่จะฝากเพื่อนเอาไปให้แม่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากเราทำงานอยู่ต่างจังหวัดระยะทางไกลกันมาก พอวันที่เราจะกลับไปงานศพแม่ เราก็คิดว่าจะไปเอาของพวกนั้นกับเพื่อนที่หอแล้วค่อยกลับมางานศพแม่ที่จังหวัดตัวเอง แต่พอไปถึงหน้างานมันก็ไม่ได้เป็นไปตามแพลนที่บอกไว้ว่าจะไปเอาของ แต่เพื่อนก็บอกเราว่าจะเป็นไรไหมถ้าไม่ได้มาร่วมงานศพแม่เนื่องจากติดทำโปรเจคแล้วก็ไม่มีเงินเดินทาง เราก็เข้าใจได้เพราะว่าเพื่อนเองก็ติดงานสำคัญเพราะปี67นี้เขาจะจบแล้ว จนวันที่เราเผาศพแม่เรียบร้อยแล้วต้องไปแจ้งตายจังหวัดที่แม่ไปรักษา ซึ่งมันเป็นจังหวัดที่เพื่อนเราเรียนอยู่ เราจึงคิดว่าจะไปเอาของพวกนั้นไปบริจาคเพราะแม่ไม่ได้ใช้แล้ว เราก็เลยโทรหาเพื่อนว่าเราจะไปเอาของที่หอด้วยนะ แต่คำตอบที่ได้คือเพื่อนไม่ได้อยู่หอแต่ไปหาแฟนที่ต่างจังหวัด เราได้ยินคำตอบนี้เราเสียใจมาก นอกจากเราจะเสียใจเรื่องแม่แล้วเรายังมาเสียใจกับคำตอบที่เพื่อนสนิทคนนึงให้เรากลับมา ว่าเขารอเราไปเอาของด้วยตั้งนานแต่ไม่เห็นเรามาเขาก็เลยนั่งรถไปหาแฟน แต่เขาบอกเราว่าเขาติดโปรเจค อีกอย่างหนึ่งคือไม่มีเงินเลยไม่ได้นั่งรถมาช่วยงานศพแม่เรา จังหวัดเรากับจังหวัดที่เรียนห่างกันประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร
ในวันที่เขาจบเราควรแสดงความยินดีกับเขาไหม เราควรไปร่วมยินดีหรือให้ของขวัญเขาหรือเปล่าคะ ส่วนเพื่อนสนิทอีก 2 คนเรียนอยู่คนละจังหวัดกับคนที่ 1 สองคนนั้นกำลังออกฝึกงาน และติดนิเทศ แต่เขาก็มาช่วยงานเราจนครบ 3 วัน แล้วค่อยกลับฝึกต่อ ระยะทางมาบ้านเราก็100กว่าโลเท่ากัน แต่เขาก้หาทางมาอยู่ข้างเรา