(ไม่สปอยเนื้อหา) Extraordinary Attorney Woo

Extraordinary Attorney Woo
ทนายความ ออทิสติก เคสคดีใหม่ๆ และ วาฬ

เรื่องนี้คงเกิดจากแนวความคิดที่ว่า ถ้ามีอาการออทิสติกสเปกตรัมมาเป็นทนายจะเป็นยังไง และใส่แนวคิดสมัยใหม่เข้าในเรื่อง "อัจฉริยะที่เป็นออทิสติก" ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวคิดเดิมๆว่า "ออทิสติกที่เป็นอัจฉริยะ"

จุดเด่นเรื่องนี้อย่างแรกเลยคือโทนหนังที่ไม่ได้เครียด เป็นรอมคอมสไตล์เกาหลี ที่จัดเต็มในรายละเอียด แต่ไม่ต้องลงไปในรายละเอียด เริ่มต้นคือ การแสดงที่สุดของนางเอก และบทของเธอ ที่เก็บรายละเอียดในอาการต่างๆ ทั้งอาการเล็กๆ อย่างไม่สบตา ไม่ชอบเสียงดัง ทำอะไรซ้ำๆ จนไปถึงเรื่องที่สนใจแต่เรื่องตัวเอง และสิ่งที่ตัวเองชอบ (ในเรื่องนี้ได้ความรู้เรื่อง วาฬ เยอะเลยนะ)

จุดเด่นที่สองคือการผูกเรื่อง ว่าด้วยเรื่องคดีความ ภาษากฏหมายที่ยากต่อการเข้าใจแล้ว ยังต้องผูกเรื่องกับการพัฒนาตัวละครเข้าไปอีก แถมยังต้องหาเรื่อง "ว้าว" ให้คนดูทึ่งกับความอัจฉริยะของนางเอกที่จะแก้ไขปัญหาแต่ละเคส ซึ่งตัวซีรี่ย์คุมโทนได้ดี ไม่ต้องเรียลแบบสุดๆ แต่ก็จริงในระดับที่คิดได้ว่านี่แหละ "ละครที่ใกล้เคียงเรื่องจริง" ไม่ใช่ "เรื่องจริงที่ทำเป็นละคร" และอย่างที่กล่าวไป การเอาพฤติกรรมของกลุ่มคนออทิสติกมาผูกในแกนเรื่องหลักซึ่งคิดไปไกลกว่าแค่ว่า พระเอกกับนางเอกได้กันไหม แต่คิดไปถึงการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ ซึ่งละครยุคใหม่หรือหนังยุคใหม่ทำกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และนี่จะเป็นการสอนคนดูให้เข้าใจ และเรียนรู้การที่จะใช้ชีวิตกับกลุ่มผู้มีอาการไปในตัวด้วย

จุดเด่นที่สาม นั่นคือ เทคนิคทางภาพ เรื่องนี้มีการเล่าความคิด ฟีลลิ่งผ่าน วาฬ โลมา ซึ่งเป็นความคิดคนเดียวของนางเอก แต่ปรากฏออกมาในแนวภาพจริง(แต่ว่ายน้ำในอากาศ หรือสถานที่รอบตัว ณ เวลานั้น ซึ่งภาพเนียนตามากๆ) ภาพเวลามีการใช้ความคิดหรือการจำเป็นภาพที่ทำให้เอกสารต่างๆ หรือภาพ ณ เวลานั้น ลอยเข้ามาในหัวเพื่อเรียกใช้ได้เลยทันที ซึ่งแสดงถึงความอัจฉริยะ และเทคนิคภาพ "ว้าว" เสมือนฉากแปลงร่างของเซนไต หรือ ฮีโร่ แต่จะมาตอนที่คิดอะไรดีๆออก ในความคิดส่วนตัว หากเป็นหนังในระบบ 4DX คงได้ฟีลลิ่งลมประทะหน้า พอภาพวาฬ หรือโลมาว่ายน้ำ (คราวนี้ว่ายจริงๆ) คงได้ฟีลน้ำกระเด็นโดนหน้าไปด้วย มันชื่นใจจริงๆ

สำหรับเพลงประกอบ (สกอร์) ไม่ได้หวือหวาหรือมีเสียงจำสักเท่าไหร่ เว้นแต่เพลงประกอบที่เป็นเพลงช้าที่มาสื่อฉากหวานๆ ที่เด่นและให้พอจำได้ แต่เสียงประกอบโดยเฉพาะเสียงวาฬ ทำให้เข้าใจถึงการสื่อ โดยเฉพาะการใช้เสียงช้าๆ ซ้ำๆ ที่นอกจากจะได้ความสงบแล้ว ยังหมายถึงการทำอะไรซ้ำๆ อีกด้วย แต่ที่สงสัยคือ ทำใมถึงใช้จังหวะ Waltz กับประตูหมุน อันนี้อยากรู้มุมมองจริงๆ ถ้าท่านใดมีความคิดเรื่องนี้บอกผมด้วยนะครับ มันคือ Music app. จริงๆเลย

กลับมาแรงจูงใจในการดูละครเรื่องนี้ ตอนแรกกะมาดูเรื่องเกี่ยวกับ "ทนาย" แต่ได้ของแถมเป็น ออทิสติก และวาฬ ซะงั้น แต่พาร์ทของทนาย ทำได้สมกับเป็นละครเกาหลี ทั้งเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังในวงการ การกัดจิกเรื่องชนชั้นนิดๆ ความอาวุโส (ซึ่งไม่ว่าเรื่องไหนของเกาหลีก็กัดจิกเรื่องนี้) คดีความแปลกๆ ที่ไม่ใช่แค่ คดีทั่วไปยังมี คดีสาธารณะ คดีกลุ่ม ซึ่งไม่ค่อยมีใครเอามาเล่นสักเท่าไหร่ ดูแล้วต้องไปค้นคว้าอีกเยอะเลย (ซึ่งคดีพวกนี้ในไทยก็มีเคสด้วยนะ) แถมมีกิมมิคการแซวตัวเองในบางฉากด้วยนะ 

สุดท้ายซีรีย์เรื่องนี้ ทำออกมาได้ดีมาก และสมควรต้องดูจริงๆ คิดถูกที่เข้าไปดู เลยเอามาบอกต่อครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่