ชี้วิสัยทัศน์ “เศรษฐา” ไม่มีอะไรใหม่
https://tna.mcot.net/politics-1324710
รัฐสภา วันนี้ ( 23 ก.พ.) “
ศิริกัญญา” เชื่อ “
เศรษฐา” คิดวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ออก เสนอวิสัยทัศน์ไม่มีอะไรใหม่ ชี้ปัญหา บุคลากรแพทย์-ตั๋วเครื่องบินแพง ทำไทยไม่เป็นฮับของภูมิภาค
นางสาว
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนาย
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ผลักดันประเทศไทยเป็น 8 ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ว่า เราคาดหวังกันมาก แต่จากที่ได้ฟังแถลงก็ไม่มีอะไรใหม่ หลายคนอาจจะผิดหวังว่าจะได้ยินอะไรใหม่ หรือมีรายละเอียดของโครงการครบถ้วน ถ้าดูทั้ง 8 เรื่อง ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เคยฟังมาก่อนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่สำคัญคือไม่เห็นเป็นรูปธรรมทั้ง 8 ด้าน ว่าจะทำอย่างไร มีแต่จะทำอะไร ฉะนั้นถือว่าเป็นแผนที่ค่อนข้างลอย เป็นสิ่งที่อยากจะทำมากกว่าแผนงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร จากการฟังแถลง
เมื่อถามว่ามีข้อแนะนำหรือข้อสังเกตอย่างไรบ้างกับวิสัยทัศน์นี้ นางสาว
ศิริกัญญา กล่าวว่า ในหลายเรื่องทราบดีถึงความสำคัญ ทราบดีว่าจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหา อุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ซึ่งเราพูดกันมานาน ตอนนี้เราก็เป็นฮับไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาคอขวดในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ และค่ารักษาพยาบาล ที่จะส่งผลกระทบต่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง และกระทบกับชนชั้นกลางที่ยังใช้บริการที่โรงพยาบาลเอกชน รวมไปถึงการแย่งชิงบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐ
ส่วนการเป็นศูนย์กลางทางการบิน ยังต้องปรับปรุงเรื่องเทคโนโลยี การตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงแก้ปัญหาตั๋วราคาแพง ที่ปัญหาอาจจะเกิดจากแอพพลิเคชันที่เป็น OTA ด้านการท่องเที่ยว ถ้าประชาชนในประเทศยังเจอปัญหาตั๋วแพง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็จะเจอปัญหาเดียวกับเรา ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็อาจจะไม่เป็นจุดศูนย์กลางของการบินของภูมิภาคได้ ถือเป็นตัวอย่างเล็กที่คาดหวังจากการแถลง และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายสักที แม้เราจะพูดเรื่องนี้มามากกว่า 10 ปีแล้ว จึงเป็นการแถลงที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ
เมื่อถามว่ามองท่าทีนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างไร นางสาว
ศิริกัญญา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีทราบดีว่าเศรษฐกิจมีปัญหา แต่ยังคิดวิธีการแก้ปัญหาไม่ออก ตอนนี้ได้มีการโบ้ยให้ไปเป็นความผิดของผู้กำหนดนโยบายการเงิน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ตนคิดว่าตอนนี้มาตรการทางการคลัง กระสุนยังไม่หมดซะทีเดียว ยังมีทางออกอยู่ หรืออีก 1-2 เดือน งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ก็จะออกแล้ว เราคงต้องเตรียมการเพื่อให้งบประมาณผ่านไปได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงอยากเห็นท่าทีของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะมีท่าทีอย่างไรที่จะมีโครงการแก้ขัดระหว่างรอโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งยังเป็นปมปัญหาที่ยังแก้ไม่ออกอยู่ เราไม่อยากรอให้ถึงวันที่โครงการดิจิทัล วอลเล็ตออกมา เพราะตอนนั้น สำหรับเศรษฐกิจไทยก็คงสายเกินไปแล้ว ถึงอยากเห็นท่าทีที่กระตือรือร้น ที่จะใช้มาตรการทางการคลัง ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่มากกว่านี้ .- สำนักข่าวไทย
"ก้าวไกล" ขอเวลา 1 เดือนรวบรวมข้อมูล อุบยังไม่ตัดสินใจซักฟอกรัฐบาลมาตรา 151 หรือ 152 แง้มมีเรื่อง "ทักษิณ-สปก." แน่
https://siamrath.co.th/n/516609
วันที่ 23 ก.พ. 2567 12.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านว่า กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ เพื่อจะตัดสินใจว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือการอภิปรายทั่วไปกันแน่ แต่เราคงจะใช้เวลาที่เหลือ 1 เดือนตกผลึกว่า จะต้องไปในทางไหนและคงจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือมาตรา 152 แน่นอน ส่วนจะเป็นการอภิปรายทั่วไปหรือไม่ไว้วางใจ จะต้องตัดสินใจกันอีกครั้ง แต่ก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีแม้จะเป็นแค่การอภิปรายแบบไม่ลงมติ ซึ่งจะเป็นการให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) นำปรับใช้ได้
เมื่อถามว่าข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่พรรคก้าวไกลมีเพียงพอที่จะอภิปรายหรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า ตอนนี้เราเก็บข้อมูลไปค่อนข้างมาก อาจจะต้องใช้โอกาสที่เร็วกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปด้วยซ้ำ จากตัวเลขที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่าฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น เราคาดหวังว่ารัฐบาลควรจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นขึ้นแล้ว ณ วันนี้ ไม่ใช่รอแต่ดิจิทัลวอลเลตจะมา แน่นอนเรามีปัญหาว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีอาจจะล่าช้า มาไม่ทัน แต่ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในกมธ.งบประมาณปี 2567 สภาฯ ก็เร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ และวันนี้งบประมาณก็มีการพิจารณาเกือบจะเสร็จแล้ว คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2 -3 ได้เร็วกว่ากำหนดการเดิมประมาณ 2-3 สัปดาห์ด้วยกัน แม้เราจะทำงานในจุดนี้กันอย่างเต็มที่แต่ขณะที่งบประมาณยังไม่ออก ก็ยังมีหลายเรื่องที่รัฐบาลสามารถใช้มาตรการทางการคลังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจตอนนี้ได้เลย
“
ตอนนี้เงินสะสมขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีอยู่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท การปลดล็อกให้สามารถนำมาใช้ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ผ่านการอนุมัติของสภาฯ ท้องถิ่นก็สามารถทำได้เลย แต่ยังไม่มีแรงจูงใจที่จะทำ ทั้งนี้ รัฐส่วนกลางสามารถให้เขานำเงินออกมาใช้เพื่อทำให้เศรษฐกิจแต่ละท้องถิ่น เศรษฐกิจฐานราก สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมีชีวิตชีวากลับคืนมาในระหว่างที่งบประมาณยังไม่ออก ซึ่งเราได้มีการเสนอว่ารัฐบาลควรจะมีมาตรการที่คล้ายกับโครงการคนละครึ่ง แต่เป็นคนละครึ่งสำหรับท้องถิ่น หากท้องถิ่นจะนำเงินสะสมออกมาใช้ครึ่งหนึ่งรัฐบาลจะสมทบอีกครึ่ง เพื่อให้เงินจำนวน 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 แสนล้านบาท โดยใช้งบกกลางที่ขณะนี้มีการอนุมัติงบไปพลางก่อน 2 ใน 3 ของปี 2566 ซึ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นกว่าล้านบาท หากนำไปสมทบกับท้องถิ่นก็จะเป็นมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างน้อยก็ประพรมให้เศรษฐกิจในท้องที่มีชีวิตชีวาขึ้น นี่เป็นสิ่งที่เราเสนอให้รัฐบาลสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอโครงการขนาดใหญ่อย่างดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเรายอมรับมานานแล้วว่า เศรษฐกิจขณะนี้ฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น” น.ส.
ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่า นอกจากประเด็นทางเศรษฐกิจเรื่องการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าไปอยู่ในประเด็นที่จะอภิปรายด้วยหรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า ประเด็นนี้จะเป็นหนึ่งในประเด็นที่เราจะต้องมีการพิจารณาว่าจะนำไปอภิปรายในครั้งนี้หรือไม่ เพราะมีความเกี่ยวพันกับหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานในการปฏิบัติโดยที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เป็นผู้ต้องขังแบบใด รวมถึงยังมีนโยบายอื่นที่เราคิดว่าน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเกี่ยวกับการจัดการที่ดินส.ป.ก. การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้น แม้จะยังไม่ถึงตัวรัฐมนตรีแต่อาจจะเป็นข้าราชการระดับสูง แต่เราคงจะมีการหยิบยกขึ้นมาถกเถียงและอภิปราย เพื่อแจ้งให้ทางฝ่ายบริหารให้รับทราบและนำไปสู่การแก้ไขในอนาคต
น.ส.
ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินส.ป.ก.ว่า นายกฯควรเป็นตัวกลางแก้ไข เนื่องจากปัญหาที่เรื้อรังมาจากหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน และปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วย โดยเฉพาะวันแมพ ที่เรารอคอยมากว่า 10 ปี แต่ทุกวันนี้ก็ยังใช้วิธีการพูดคุยเพื่อจบปัญหา ไปทีละเรื่อง ไปทีละแปลง แต่หากเรามีวันแมพที่จะเป็นแผนที่เดียวทั้งประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐ และระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันก็จะจบและไม่มีปัญหาต่อเนื่อง ยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขณะนี้กำลังรอท่าทีที่เด็ดขาด แน่วแน่ที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ แต่ยังไม่ค่อยเห็นจากนายกรัฐมนตรี
พิมายเจอภัยแล้งกระทบคนเลี้ยงวัวในพื้นที่ ขาดแคลนหญ้า ต้องพาวัวไปหากินน้ำไกล
https://www.thairath.co.th/agriculture/agricultural-policy/2765456
เกษตรกรเลี้ยงวัว ใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เผยว่า ช่วงนี้ในพื้นที่ประสบภัยแล้งหนัก กระทบถึงฝูงวัวขาดแหล่งอาหาร ต้องพาวัวเดินไกลหลายกิโลเมตร การที่วัวขาดหญ้าทำให้วัวผอม อีกทั้งวัวต้องเดินทางไกล เพื่อไปหาแหล่งน้ำดื่ม
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นาย
จรัส บุญพิมาย อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 บ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เกษตรกรเลี้ยงวัว บอกว่าช่วงนี้ภัยแล้งคุกคามหนักกระทบถึงฝูงวัวขาดแหล่งอาหาร ต้องพาวัวเดินไกลหลายกิโลเมตร วัวขาดหญ้าเริ่มผอม ส่งผลกระทบต่อวัวของตนและแหล่งกินหญ้าหาน้ำกินไกลหลายกิโลเมตร เพราะแหล่งน้ำที่เคยมีตามทุ่งนาเหือดแห้งไปหมด ตนเลี้ยงวัวพันธุ์บรามันและพันธุ์บราซิล 12 ตัว ต้องนำฝูงวัวเดินไกลจากบ้านเพื่อหาแหล่งน้ำและแหล่งที่มีหญ้าให้วัวกิน
ก่อนหน้านี้ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ได้งดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรในเขตพื้นที่ชลประทาน เพื่อสงวนน้ำดิบไว้ใช้ผลิตประปาเพื่อการอุปโภค บริโภคให้กับประชาชนในเขต อ.พิมาย ได้มีน้ำใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ พร้อมทำหนังสือแจ้งเตือนประชาชนไปยัง อ.พิมาย อ.โนนสูง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ขอความร่วมมืองดสูบน้ำจากแม่น้ำมูล-ลำน้ำจักราช ไปใช้ในการเกษตรที่ใช้น้ำมากและอุตสาหกรรม พร้อมทั้งขอให้วางแผนการสำรองน้ำ เพื่อผลิตประปาส่วนภูมิภาคและประปาหมู่บ้าน
พร้อมขอความร่วมมือในทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป และช่วงนี้ถ้าหากประชาชนต้องการน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภคในความจำเป็น ติดต่อมายังชลประทานพิมาย จะได้นำรถน้ำมาให้บริการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน.
JJNY : ชี้วิสัยทัศน์“เศรษฐา”ไม่มีอะไรใหม่│"ก้าวไกล"ขอเวลา1ด.│พิมายเจอภัยแล้งกระทบคนเลี้ยงวัว│จีนลอบเข้าสหรัฐผ่านเม็กซิโก
https://tna.mcot.net/politics-1324710
รัฐสภา วันนี้ ( 23 ก.พ.) “ศิริกัญญา” เชื่อ “เศรษฐา” คิดวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ออก เสนอวิสัยทัศน์ไม่มีอะไรใหม่ ชี้ปัญหา บุคลากรแพทย์-ตั๋วเครื่องบินแพง ทำไทยไม่เป็นฮับของภูมิภาค
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ผลักดันประเทศไทยเป็น 8 ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ว่า เราคาดหวังกันมาก แต่จากที่ได้ฟังแถลงก็ไม่มีอะไรใหม่ หลายคนอาจจะผิดหวังว่าจะได้ยินอะไรใหม่ หรือมีรายละเอียดของโครงการครบถ้วน ถ้าดูทั้ง 8 เรื่อง ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เคยฟังมาก่อนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่สำคัญคือไม่เห็นเป็นรูปธรรมทั้ง 8 ด้าน ว่าจะทำอย่างไร มีแต่จะทำอะไร ฉะนั้นถือว่าเป็นแผนที่ค่อนข้างลอย เป็นสิ่งที่อยากจะทำมากกว่าแผนงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร จากการฟังแถลง
เมื่อถามว่ามีข้อแนะนำหรือข้อสังเกตอย่างไรบ้างกับวิสัยทัศน์นี้ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ในหลายเรื่องทราบดีถึงความสำคัญ ทราบดีว่าจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหา อุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ซึ่งเราพูดกันมานาน ตอนนี้เราก็เป็นฮับไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาคอขวดในเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ และค่ารักษาพยาบาล ที่จะส่งผลกระทบต่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง และกระทบกับชนชั้นกลางที่ยังใช้บริการที่โรงพยาบาลเอกชน รวมไปถึงการแย่งชิงบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐ
ส่วนการเป็นศูนย์กลางทางการบิน ยังต้องปรับปรุงเรื่องเทคโนโลยี การตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงแก้ปัญหาตั๋วราคาแพง ที่ปัญหาอาจจะเกิดจากแอพพลิเคชันที่เป็น OTA ด้านการท่องเที่ยว ถ้าประชาชนในประเทศยังเจอปัญหาตั๋วแพง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็จะเจอปัญหาเดียวกับเรา ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็อาจจะไม่เป็นจุดศูนย์กลางของการบินของภูมิภาคได้ ถือเป็นตัวอย่างเล็กที่คาดหวังจากการแถลง และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายสักที แม้เราจะพูดเรื่องนี้มามากกว่า 10 ปีแล้ว จึงเป็นการแถลงที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ
เมื่อถามว่ามองท่าทีนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างไร นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีทราบดีว่าเศรษฐกิจมีปัญหา แต่ยังคิดวิธีการแก้ปัญหาไม่ออก ตอนนี้ได้มีการโบ้ยให้ไปเป็นความผิดของผู้กำหนดนโยบายการเงิน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ตนคิดว่าตอนนี้มาตรการทางการคลัง กระสุนยังไม่หมดซะทีเดียว ยังมีทางออกอยู่ หรืออีก 1-2 เดือน งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ก็จะออกแล้ว เราคงต้องเตรียมการเพื่อให้งบประมาณผ่านไปได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงอยากเห็นท่าทีของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะมีท่าทีอย่างไรที่จะมีโครงการแก้ขัดระหว่างรอโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งยังเป็นปมปัญหาที่ยังแก้ไม่ออกอยู่ เราไม่อยากรอให้ถึงวันที่โครงการดิจิทัล วอลเล็ตออกมา เพราะตอนนั้น สำหรับเศรษฐกิจไทยก็คงสายเกินไปแล้ว ถึงอยากเห็นท่าทีที่กระตือรือร้น ที่จะใช้มาตรการทางการคลัง ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่มากกว่านี้ .- สำนักข่าวไทย
"ก้าวไกล" ขอเวลา 1 เดือนรวบรวมข้อมูล อุบยังไม่ตัดสินใจซักฟอกรัฐบาลมาตรา 151 หรือ 152 แง้มมีเรื่อง "ทักษิณ-สปก." แน่
https://siamrath.co.th/n/516609
วันที่ 23 ก.พ. 2567 12.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านว่า กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ เพื่อจะตัดสินใจว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือการอภิปรายทั่วไปกันแน่ แต่เราคงจะใช้เวลาที่เหลือ 1 เดือนตกผลึกว่า จะต้องไปในทางไหนและคงจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือมาตรา 152 แน่นอน ส่วนจะเป็นการอภิปรายทั่วไปหรือไม่ไว้วางใจ จะต้องตัดสินใจกันอีกครั้ง แต่ก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีแม้จะเป็นแค่การอภิปรายแบบไม่ลงมติ ซึ่งจะเป็นการให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) นำปรับใช้ได้
เมื่อถามว่าข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่พรรคก้าวไกลมีเพียงพอที่จะอภิปรายหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตอนนี้เราเก็บข้อมูลไปค่อนข้างมาก อาจจะต้องใช้โอกาสที่เร็วกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไปด้วยซ้ำ จากตัวเลขที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่าฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น เราคาดหวังว่ารัฐบาลควรจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นขึ้นแล้ว ณ วันนี้ ไม่ใช่รอแต่ดิจิทัลวอลเลตจะมา แน่นอนเรามีปัญหาว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีอาจจะล่าช้า มาไม่ทัน แต่ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในกมธ.งบประมาณปี 2567 สภาฯ ก็เร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ และวันนี้งบประมาณก็มีการพิจารณาเกือบจะเสร็จแล้ว คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2 -3 ได้เร็วกว่ากำหนดการเดิมประมาณ 2-3 สัปดาห์ด้วยกัน แม้เราจะทำงานในจุดนี้กันอย่างเต็มที่แต่ขณะที่งบประมาณยังไม่ออก ก็ยังมีหลายเรื่องที่รัฐบาลสามารถใช้มาตรการทางการคลังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจตอนนี้ได้เลย
“ตอนนี้เงินสะสมขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีอยู่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท การปลดล็อกให้สามารถนำมาใช้ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ผ่านการอนุมัติของสภาฯ ท้องถิ่นก็สามารถทำได้เลย แต่ยังไม่มีแรงจูงใจที่จะทำ ทั้งนี้ รัฐส่วนกลางสามารถให้เขานำเงินออกมาใช้เพื่อทำให้เศรษฐกิจแต่ละท้องถิ่น เศรษฐกิจฐานราก สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมีชีวิตชีวากลับคืนมาในระหว่างที่งบประมาณยังไม่ออก ซึ่งเราได้มีการเสนอว่ารัฐบาลควรจะมีมาตรการที่คล้ายกับโครงการคนละครึ่ง แต่เป็นคนละครึ่งสำหรับท้องถิ่น หากท้องถิ่นจะนำเงินสะสมออกมาใช้ครึ่งหนึ่งรัฐบาลจะสมทบอีกครึ่ง เพื่อให้เงินจำนวน 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 แสนล้านบาท โดยใช้งบกกลางที่ขณะนี้มีการอนุมัติงบไปพลางก่อน 2 ใน 3 ของปี 2566 ซึ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นกว่าล้านบาท หากนำไปสมทบกับท้องถิ่นก็จะเป็นมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างน้อยก็ประพรมให้เศรษฐกิจในท้องที่มีชีวิตชีวาขึ้น นี่เป็นสิ่งที่เราเสนอให้รัฐบาลสามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอโครงการขนาดใหญ่อย่างดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเรายอมรับมานานแล้วว่า เศรษฐกิจขณะนี้ฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่า นอกจากประเด็นทางเศรษฐกิจเรื่องการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าไปอยู่ในประเด็นที่จะอภิปรายด้วยหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ประเด็นนี้จะเป็นหนึ่งในประเด็นที่เราจะต้องมีการพิจารณาว่าจะนำไปอภิปรายในครั้งนี้หรือไม่ เพราะมีความเกี่ยวพันกับหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานในการปฏิบัติโดยที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เป็นผู้ต้องขังแบบใด รวมถึงยังมีนโยบายอื่นที่เราคิดว่าน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเกี่ยวกับการจัดการที่ดินส.ป.ก. การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้น แม้จะยังไม่ถึงตัวรัฐมนตรีแต่อาจจะเป็นข้าราชการระดับสูง แต่เราคงจะมีการหยิบยกขึ้นมาถกเถียงและอภิปราย เพื่อแจ้งให้ทางฝ่ายบริหารให้รับทราบและนำไปสู่การแก้ไขในอนาคต
น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินส.ป.ก.ว่า นายกฯควรเป็นตัวกลางแก้ไข เนื่องจากปัญหาที่เรื้อรังมาจากหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน และปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วย โดยเฉพาะวันแมพ ที่เรารอคอยมากว่า 10 ปี แต่ทุกวันนี้ก็ยังใช้วิธีการพูดคุยเพื่อจบปัญหา ไปทีละเรื่อง ไปทีละแปลง แต่หากเรามีวันแมพที่จะเป็นแผนที่เดียวทั้งประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐ และระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันก็จะจบและไม่มีปัญหาต่อเนื่อง ยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขณะนี้กำลังรอท่าทีที่เด็ดขาด แน่วแน่ที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่ แต่ยังไม่ค่อยเห็นจากนายกรัฐมนตรี
พิมายเจอภัยแล้งกระทบคนเลี้ยงวัวในพื้นที่ ขาดแคลนหญ้า ต้องพาวัวไปหากินน้ำไกล
https://www.thairath.co.th/agriculture/agricultural-policy/2765456
เกษตรกรเลี้ยงวัว ใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เผยว่า ช่วงนี้ในพื้นที่ประสบภัยแล้งหนัก กระทบถึงฝูงวัวขาดแหล่งอาหาร ต้องพาวัวเดินไกลหลายกิโลเมตร การที่วัวขาดหญ้าทำให้วัวผอม อีกทั้งวัวต้องเดินทางไกล เพื่อไปหาแหล่งน้ำดื่ม
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายจรัส บุญพิมาย อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 บ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เกษตรกรเลี้ยงวัว บอกว่าช่วงนี้ภัยแล้งคุกคามหนักกระทบถึงฝูงวัวขาดแหล่งอาหาร ต้องพาวัวเดินไกลหลายกิโลเมตร วัวขาดหญ้าเริ่มผอม ส่งผลกระทบต่อวัวของตนและแหล่งกินหญ้าหาน้ำกินไกลหลายกิโลเมตร เพราะแหล่งน้ำที่เคยมีตามทุ่งนาเหือดแห้งไปหมด ตนเลี้ยงวัวพันธุ์บรามันและพันธุ์บราซิล 12 ตัว ต้องนำฝูงวัวเดินไกลจากบ้านเพื่อหาแหล่งน้ำและแหล่งที่มีหญ้าให้วัวกิน
ก่อนหน้านี้ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ได้งดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรในเขตพื้นที่ชลประทาน เพื่อสงวนน้ำดิบไว้ใช้ผลิตประปาเพื่อการอุปโภค บริโภคให้กับประชาชนในเขต อ.พิมาย ได้มีน้ำใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ พร้อมทำหนังสือแจ้งเตือนประชาชนไปยัง อ.พิมาย อ.โนนสูง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ขอความร่วมมืองดสูบน้ำจากแม่น้ำมูล-ลำน้ำจักราช ไปใช้ในการเกษตรที่ใช้น้ำมากและอุตสาหกรรม พร้อมทั้งขอให้วางแผนการสำรองน้ำ เพื่อผลิตประปาส่วนภูมิภาคและประปาหมู่บ้าน
พร้อมขอความร่วมมือในทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป และช่วงนี้ถ้าหากประชาชนต้องการน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภคในความจำเป็น ติดต่อมายังชลประทานพิมาย จะได้นำรถน้ำมาให้บริการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน.