รีวิว/บ่น นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์ : ความผิดพลาดอีกครั้งของวงการแอนิเมชั่นไทยหรือไม่?

ทำความเข้าใจก่อนเข้าสู่เนื้อหา
1.ผู้เขียนกระทู้ไม่ใช่เด็กฟิล์ม ไม่รู้ศัพท์เฉพาะ ผู้เขียนเป็นเด็กวิจิตรศิลป์ ไม่ใช่ผู้มากด้วยความรู้ เป็นแค่ผู้บริโภคสื่อ
2.แต่ผู้เขียนกระทู้ก็เป็นบุคคลที่ทั้งเขียนและอ่านนวนิยาย รวมถึงการสร้างสรรค์เรื่องราวบางประเภท รวมถึงมีการสร้างตัวละครของตนเอง แต่เป็นการเผยแพร่ในกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีมาจากที่ไหน
3.ผู้เขียนกระทู้ gen Z (2002) หากเป็นคนเจนต่างกันเข้ามาอ่าน จะได้จับสไตล์แนวความคิด และยุคสมัยที่ขัดเกลาผู้เขียนจนเติบโตได้
4.ผู้เขียนกระทู้เข้าไปดูในโรงเอง 1 รอบ และดูอีก 1 รอบหลังเข้าฉายใน Netflix ฉะนั้นหวังว่าจะไม่มีความคิดเห็นแนว ๆ ไม่จ่ายตังเข้าไปดูแล้วยังพูดมากนะ
 
5.ผู้เขียนไม่เคยอ่านรามเกียรติฉบับเต็มทั้งของไทยและอินเดีย ผู้เขียนเคยอ่านแต่ฉบับเต็มวรรณคดีเรื่องอื่น ดังนั้นขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่เราจะไม่พูดลากไปถึงตัวต้นฉบับแบบลึกซึ้ง ขอพยายามเจาะจงแค่ 1 ชม. 30 นาที ที่ RIFF studio ให้พวกเรามาเท่านั้น
6.ไม่ใช่กระทู้วิเคราะห์แนววิชาการ แต่เป็นกระทู้ชวนคุย และเนื้อหาทั้งหมดต่อไปนี้คือความคิดเห็นของผู้เขียนกระทู้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด มาแชร์ความเห็นกันค่ะ ส่วนใครที่ยังไม่ดู อยากให้ไปลองดูเองก่อนอ่าน เพราะเชิญชวนให้ช่วยกันดูแอนิเมชั่นคนไทยทำเหรอ เปล่า ไม่อยากคริ้นจ์คนเดียว พวกเธอต้องคริ้นจ์ไปกับฉันให้ถ้วนทั่วกันเท่านั้น

1.งานภาพ
2.ภาพรวมเนื้อเรื่อง : เจ็ดปี ทำได้แค่นี้เหรอ
3.ดีไซน์ มิติและเนื้อเรื่องของตัวละคร : สับแหลก แยกเป็นคน ๆ ไปเลย
4.แอนิเมชั่นเรื่องนี้อยากเป็นอะไรกันแน่? : ปัญหาของหนังและแอนิเมชั่นไทยยุคนี้ส่วนใหญ่ ที่อยากเป็นไปเสียทุกอย่าง แต่สรุปแล้วออกมาไม่ดีสักอย่าง
5.สรุปทั้งหมดทั้งมวล และหัวข้อจิปาถะเพิ่มเติมที่ไม่มีหมวด

1.งานภาพ
   หัวข้อที่ผู้เขียนน่าจะชมเยอะที่สุดแล้ว ในมู้นี้ เพราะที่เหลือจะสับยับ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรให้ติ riff studio ได้เลย ไม่ว่าเป็นแอนิเมชั่นตอนเปิดเรื่อง โมเดล ดีไซน์ส่วนใหญ่ของตัวละครที่ใช้ดำเนินเนื้อเรื่อง
   ฉากเมืองที่พยายามจะทำออกมาให้มันไซไฟ กันดั้ม ไซเบอร์พังก์ โลกอนาคตหุ่นตู้มต้ามซัมติง ก็นับว่าดูดี ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ว้าวถ้าหากบอกว่าตัวเองอยากจะไปตลาดโลก ทว่ามันก็เป็นก้าวหนึ่งก้าวที่ดีของอนิเมชั่นไทย 
   ดูแล้วค่อนข้างเพลินตา สมกับที่ปลุกปั้นงานภาพกันมา 4 ปี พูดตามตรงว่าผู้เขียนก็พึ่งมารู้จักสตูดิโอนี้เพราะเรื่องนี้ ประทับใจแอนิเมชั่น 2D เกริ่นนำตอนเปิดเรื่องมาก ๆ สีสันสวยงาม แล้วก็ลายไทยประยุกต์ที่ผสมผสานกับกาแล็กซี่ งานอาร์ตยิ้มโคตรเจ๋ง พูดในฐานะเด็กวิจิตรศิลป์เลย

แต่ไอ้สิ่งนี้แหละทำให้ผู้เขียนกระทู้ที่ก้นนั่งเก้าอี้โรงหนังเมเจอร์ในตอนนั้น คาดหวังกับอนิเมชั่นเรื่องนี้หลังจากวินาทีที่ได้รับชมฉากดังกล่าวไว้จนสูงเฉียดฟ้า เพราะผิดหวังมามากกับแอนิเมชั่นไทยเรื่องที่ผ่าน ๆ มา แล้วก็ถูกฉุดลงก้นหลุมดำอวกาศของยิ้มในอีกหลายนาทีต่อมา เอาข้าพเจ้าไปอยู่กับพระกาฬเหอะ สภาพ

แต่จะไปเพื่อดูงานภาพ ก็คุ้มค่าเสียเวลาอยู่ คนไทยเก่งค่ะ อันนี้เรื่องจริง ก็ทนคริ้นจ์เนื้อเรื่องเอาหน่อยละกัน

2.ภาพรวมเ นื้ อ เ รื่ อ ง (ที่บอกภูมิใจนักหนา ไปดูกัน)
   เนื้อเรื่องเรียบ

เรียบลื่น

เรียบจนยิ้มไม่มี***อะไรเลย เบร๋อ เดาออกง่ายทุกอย่าง แถมบทยังอธิบายทุกอย่างจนไม่เหลืออะไรให้คิดตามเลยทั้งที่มีจังหวะแล้วแท้ ๆ เรื่องสั้นขายหัวเราะสมัยก่อนที่ผู้เขียนกระทู้วัยประถมหยิบซื้อมาจากเซเว่นยังลุ้นกว่า (ตอนแรกว่าจะเทียบกับนิยายถุงกล้วยแขกก็ไม่ทันอีก ซึม)

อ ย่ า อย่าให้เห็นว่าใครมาบอกว่า "ก็นี่มันคือแอนิเมชั่นสำหรับเด็ก มุแง้"

เอ่อ จริงค่ะ จริงที่ว่านี่คือแอนิเมชั่นสำหรับเด็กและครอบครัว แต่เชื่อเถอะ riff ไม่ได้ตั้งใจทำมาขายเฉพาะเด็กตั้งแต่แรกเริ่ม มันเห็นชัดเจนแจ่มแจ้งตั้งแต่โปรโมทโมเดลตัวละครที่แสนจะพยายามจับกลุ่มช่วงวัยของข้าพเจ้า ที่ก็เป็นผู้ใหญ่ตอนต้นตอนกลางเกือบปลาย และเด็กวัยรุ่นตอนปลายกันทั้งนั้น กระทั่งระหว่างดูเนื้อเรื่อง ครอบครัวไร้มารยาทที่นั่งถัดจากข้าพเจ้า เด็กยิ้มลงไปนอนเล่นที่พื้น เพราะฟังเนื้อหาได้ไม่ครบถ้วนจนเบื่อ และการดำเนินเรื่องพึ่งมาน่านั่งเท้าคางดูหน่อย ก็ตอนหุ่นต่อยกัน ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องน่าตื่นเต้นแต่อย่างใด

2.1.ตำนานแปดดวงจันทร์อะไรนะ
   ชื่อเรื่องเปิดมาอย่างยิ่งใหญ่ อลังการ ไอ้เราก็ จะต้องอธิบายตำนาน ดูจริงจัง มีเงื่อนไขสมเหตุสมผลในการมอบพลังแน่นอน สรุป ทุกครั้งที่พูดถึงที่แพทเทิร์นเดิม ไม่มีอะไรใหม่ กั๊กไม่เล่าให้ลึก แล้วคนอย่างวายุนี่สมควรจะได้จริงดิ โอเค พยายามจะสร้างมาตรฐานพระเอกโชเน็นให้แอนิเมชั่นไทยเหรอ แต่การ sacrifice ของวายุมันเร็ว มันไม่ดึงให้รู้สึกดำดิ่งไปกับความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว ใช่ หมายถึงพาร์ทของสามหน่อเพื่อนซี้ทั้งหมดนั่นแหละ ทุกอย่างดูรีบเร่ง ยัดเยียด เหมือนโดนเชฟหยุมหลังคอกดหน้าจ่อชามข้าวแล้วบอกว่า เอ้า กินเข้าไปสิ อาหารที่ชั้นทำมา แ_กกก *กดหัวจมจาน*

   เสียดายมาก หัวข้อแปดดวงจันทร์มีอะไรให้เล่นได้อีกเยอะมาก แต่สิ่งที่คนดูได้คือพระพาย และพระกาฬที่ออกมาพล่ามให้เวฬาไปเป็นทาสแบบเร่ง ๆ ทั้งที่คอนเซ็ปต์ตัวละครไม่ได้แย่เลย เป็นซีนถ่ายทอดพลังที่ห่วยแตก ค่อนข้างเสียใจ มันควรที่จะอิมแพคได้มากกว่านี้ เป็นซีนที่แค่กระพริบตาหูดับสามวิกลับมางงเลย เพราะทุกอย่างเร่ง ๆ รีบ ๆ ไม่มีจังหวะจะโคน

   สภาพทีมเขียนบททำตัวเหมือนผู้เขียนกระทู้สมัยม.ต้นที่หัดแต่งนิยายลงเว็บ ตั้งชื่อเรื่องก่อนวางสตอรี่บอร์ดและพลอต หลังจากนั้นก็คิดว่าเดี๋ยวเราค่อยไปเพิ่มที่หลัง แต่สุดท้ายก็ไม่เหลือพื้นที่และเวลาให้ขยายความว่าเหตุใดจึงนำชื่อเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวถึงเพื่อดึงดูดคนดู?

ทว่าไม่ต้องห่วง ต่อให้จะห่วยแตกเพียงใด แต่เมื่อใดที่ภาคสองฉาย ข้าพเจ้าจะยอมลากสังขารอินโทรเวิร์ตของข้าพเจ้าออกจากบ้าน กลั้นใจควักเงินซื้อตั๋วเข้าไปนั่งดู เพื่อถ่มยิ้มบทของแอนิเมชั่นเรื่องนี้อีกครั้งแบบถูกธรรมนองคล้องธรรมอย่างแน่นอน รอดูได้เลย และหวังว่าจะได้เห็นหัวข้อนี้ในฉบับที่ดีกว่าเดิม

2.2.ปมขัดแย้งของกลุ่มตัวเอก เจ็ดปีที่วางกันมา คิดได้แค่นี้?
จังหวะดูถูกคนดูที่สุดของเนื้อเรื่อง อยู่ตรงนี้แล้ว

   ก่อนไปดูนั้น ข้าพเจ้าไม่ทราบเลยว่ากระบวนการแต่ละอย่างใช้เวลากี่ปี รู้แค่ผู้ชายผมยาวหล่อเยอะ คอนเซ็ปต์น่าสนใจ แอนิเมชั่นไทยเรื่องใหม่ที่อยากลบขี้ปากและพลังถ่มยิ้มของผู้คน แค่นั้น ทั้งหมดนี่คือปัจจัยที่ทำให้ผู้เขียนกระทู้ยอมขุดตัวเองออกจากการนอนราบที่พื้น เดินทางไปยังโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านที่สุดซึ่งห่างไป 18 กิโลเมตร ขนส่งสาธารณะสองต่อ เหนื่อยมาก แต่เอาวะ เครง้าฟ เราต้องสนับสนุนแอนิเมเตอร์คนไทยนะเฟ้ย แอนิเมชั่นไทยมันกำลังจะตาย!!
   แต่หลังจากออกโรงวันนั้นข้าพเจ้ามือไม้สั่น นอกเหนือจากครอบครัวไร้มารยาทชวนหงุดหงิด และเด็กมัธยมมารยาทเสียที่กรี๊ดช่วงจังหวะสำคัญและสั่นเบาะกระเทือนกับเพื่อนของหล่อน ข้าพเจ้าถามตัวเองว่าทำไมไม่รอแอนิเมชั่นเรื่องนี้เข้าเน็ตฟลิก

เพราะปมเริ่มการแตกกันของตัวเอกคือ วายุทำหน้าที่พลาดด้วยท่าทางไร้แก่นสาร ด้วยเหตุผลที่ไม่ควรใส่เข้ามาในพาร์ทซึ่งดำเนินเนื้อเรื่องจริงจังอย่างยิ่งไปแล้ว

นี่ข้าพเจ้ายังไม่พูดถึงมุกตลกฝืดซึ่งคงจะขำเฉพาะในสมัยสิบกว่าปีก่อนค่านิยมจะพัฒนา และของพวกนีควรอยู่ในแอนิเมชั่นที่อยากจะกู้หน้าวงการแอนิเมชั่นไทยปี 2023 จริง ๆ น่ะหรือ

   อยู่กันสามคน วายุซึ่งถูกระบุว่าเป็นตัวเอกหลักฝ่ายชาย เด่นสุด ๆ กลายเป็นเด็กไม่รู้จักโตเมื่อเทียบกับเวฬาและบุษบาที่มีประโยชน์shipหายแต่สอใส่เกือกตายเป็นตัวละครใช้แล้วทิ้ง ข้าพเจ้าอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ในซีนที่วายุเถียงกับสุครีพว่าทำไมไม่ส่งมันไปเป็นสายลับในฐานพาลีแทนเพื่อนรักสองคน

คืองี้ ขืนส่งเอ็งไป ไม่เกินสองวัน แผนพังแน่นอน

   ทั้งหมดนี้เพราะบทที่ถูกเขียนมายาวนานถึงเจ็ดปี และไม่คิดจะปรับปรุงก่อนออกฉายเลยแม้แต่นิด มันเก่าเกินไป เก่าจนแม้กระทั่งมารดาวัย 50 ของข้าพเจ้าที่ถูกข้าพเจ้าบังคับให้ลองดูในวันที่นักรบมนตราเข้าเน็ตฟลิกวันแรก (ฮา) ยังบอกไม่ชอบ แถมด่าวายุซะยับ พอจบ มารดาบอกว่าทนดูเพื่อข้าพเจ้าล้วน ๆ ...

   ช่วงที่เข้าฉายไปได้หลายวัน เริ่มมีกระแสคนออกมาปกป้องทีมเขียนบทด้วยการยกเรื่องระยะเวลาแสนยาวนานในการทุ่มเทแรงกายรังสรรค์มันออกมา อยากให้ใจดีกับคนเขียนบท ข้าพเจ้าขอบอกตรงนี้เลยว่าเหมือนเอามีดแทงท้องตัวเอง เพราะถ้าเจ็ดปีทำได้แค่นี้ ผู้บริโภคเช่นข้าพเจ้าก็ไม่รู้จะช่วยดีเฟนด์อะไรยังไงตรงไหนแล้ว ไรท์เตอร์วัยเรียนในเว็บนิยายชื่อดังส่วนใหญ่แต่งเดือนเดียวยังวางปมขัดแย้งของตัวเอกได้ดีกว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ เป็นจุดเริ่มต้นการตีกันของตัวเอกที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา 

อนึ่ง ขอเสนอว่าถ้าอยากให้บุษบาตายจริง ให้วายุตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่เพ้อเจ้ออยากพาภูติโลหิตไปให้องค์รามชุบเลี้ยง ร้องเต้นอะจุ๋มมุ้อะจุ๋มมึ้ยเดินเอ้อระเหยในยานศัตรู แต่พลาดพลั้งโดยปัจจัยภายนอกจนภารกิจเฟล เช่น จากลูกน้องพาลี หรือจากพาลีที่รู้สึกผิดปกติเกี่ยวกับพลังแล้วพุ่งมาจนเจอ วายุจะทำให้คนดูรู้สึกสงสารและเอาใจเชียร์ทันที ไม่ใช่ถ่มยิ้มสมน้ำหน้า แล้วมันก็จะบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟ็กต์ให้ซีนสู้จนตัวตายแขนขาดของทั้งสามคนดูยกระดับขึ้นมาทันที ไม่ใช่ดูด้วยความรู้สึกที่ว่ายิ้มมากันถึงจุดนี้เพราะวายุติดเล่น...การยอมตายเพราะคนติดเล่น มันดู เอ่อ แบนราบ ไร้มิติความสมจริง
   หรือจะวางบทให้พาลีเอะใจเรื่องคนทรยศด้วยลางสังหรณ์ ก็ยังดีกว่าใส่ซีนวายุเวฬาโยนภูติโลหิตใส่กันจนตื่นอยู่ดี

2.3.สงครามเหรอ ไม่ เด็กช่างตีกัน ใช่
   ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นเด็กมาร์เวล และกำลัง(พยายาม)ดูจักรวาลเดอะลอร์ดออฟเดอะริง/GOT ให้จบตาม HOTD ซีแรกไป ย่อมต้องเคยเห็นภาพซีนที่เรียกว่าสงครามมาค่อนจะบ่อย เช่น อเวนเจอร์เอนด์เกม ก็พอจะรู้ว่าองค์ประกอบของฉากสงคราม นอกจากพวกทัพหน้าตัวเด่นทั้งหลาย สิ่งที่ช่วยชูซีนแบบนี้ให้มีอรรถรสเพิ่มมากขึ้น ก็คือเหล่ากีกี้ของฝั่งศัตรูและฝั่งตัวเอกนั่นเอง

   แต่นี่อะไร ผู้เขียนเห็นพาลี เห็นช้างองค์อินทร์อะไรสักอย่างของเขา ส่วนกีกี้มีบทไว้ดูดพลังกับยืนนิ่งปฏิปักษ์ตอนพาลีสั่งให้ช่วยสู้อีกรอบนึง โอเคสีเกราะพอแยกได้อยู่หน่อยนึง แต่ท่ามกลางกาแล็กซี่อันมืดมิด งง

นี่ถ้าไม่ได้ฟังคลิปของจันเรด RedremasteRed ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่ามีมาอธิบายดีไซน์ไว้ในเล่มอาร์ตบุ๊ค

  ตัดเรื่องเกราะทิ้งไป ตอนแรกนัวกันมัน (ด้วยกลุ่มที่ดูเป็นหย่อมรังแคใต้ยานพาลี) สักพักล้อมเป็นวงกลมเหมือนเชียร์ไก่ชน แล้วพาลีก็วู้ว ๆ อุวะฮ่า ๆ ๆ

อ้อ ทั้งนี้ทั้งนั้นข้าพเจ้าไม่ได้ลืมพูดถึงบทสุดจะทนของลักษมันตร์แต่อย่างใด แค่จะเอาไปฉะในหัวข้อที่สามแบบเบิ้ม ๆ

   ด้วยเพราะจำนวนกองทัพที่ไม่สมดุลกับฉากหลังซึ่งเป็นอวกาศ มันเลยดูเป็นหย่อม กระจ้อยร่อย ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่สงครามแห่งจักรวาลอย่างที่พูดไว้ โดยเฉพาะซีนซูมเอ้าท์ แค่นั้นเลย มันดูโหรงเหรง อย่างที่เกริ่นมาก่อนหน้า เอาจริง ๆ ในความทรงจำอันเลือนรางของผู้เขียนกระทู้ จำได้ว่าหนังอินเดียที่ยายเปิดให้ดูตอนเด็ก ๆ เวลามาถึงฉากลิงสู้กัน เขาก็ใส่กองทัพลิงมาแบบยุบยับนะ

2.4.วิธีการพูดจาของตัวละครในการดำเนินเนื้อเรื่อง
   ข้าพเจ้าเกลียดโดยส่วนตัว การทำหนัง ทำแอนิเมชั่นที่ให้ตัวละครพูดมันทุกอย่างเหมือนพากย์มวย ทั้งที่บางจังหวะทิ้งให้คิดเองได้ ต่อให้เป็นแอนิเมชั่นเด็กก็เถอะ นับเป็นการดูถูกคนดูอย่างนึง เหมือนพวกข้าพเจ้าคิดเองไม่เป็น

ที่รู้สึกแบบนั้นมากที่สุดน่าจะเป็นตอนสั่งวายุเวฬาไปยานทศ แล้วให้องค์รามพูดอยู่นั่น โอ๊ย ไม่ ข้าพเจ้าดูออกแล้วว่ามันสองคนตีกัน ถ้าบทตรงช่วงนี้ให้องค์รามแค่พึมพำ แล้วใช้สายตาทอดมองไกล ๆ เงียบ ๆ ไม่พูดอีก มันจะดีมาก จบ พัง

มาถึงตรงนี 9986 ตัวอักษร เดี๋ยวต่อด้านล่างค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่