เมื่อไม่นานนี้ สถาบันนานาชาติเพื่อการพัฒนาการจัดการ (IMD) ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดตัวดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนผ่านของบริษัทในประเทศจีน (CCTI) ซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี เภสัชภัณฑ์ และเครื่องแต่งกาย พร้อมเสริมว่าจีนกำลังกลายเป็นมหาอำนาจระดับโลกด้านเทคโนโลยีและเภสัชภัณฑ์
รายงานระบุว่ากลุ่มบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยังคงครองตลาดเทคโนโลยีของจีน โดยมีไป่ตู้ (Baidu) อาลีบาบา (Alibaba) เทนเซ็นต์ (Tencent) เจดีดอตคอม (JD.com) และเน็ตอีส (NetEase) จัดเป็นห้าอันดับแรก
มาร์ก กรีเวน ซีอีโอของสถาบันฯ ประจำประเทศจีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่ามีสามบริษัทเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง (hard tech) ได้แก่ เอสเอ็มไอซี (SMIC) ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ เลอโนโว (Lenovo) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ และฮิกวิชัน (Hikvision) ผู้นำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก จัดอยู่ใน 10 อันดับแรก
ad
ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทม้ามืดหรือ “ฮิดเดน แชมเปียนส์” (hidden champions) ในแวดวงธุรกิจเทคโนโลยีของจีนมีแนวโน้มกลายเป็นผู้แข่งขันระดับโลกในอนาคต
ดัชนีบ่งชี้ใหม่นี้ยังเน้นย้ำการมีปฏิสัมพันธ์เชิงพลวัตระหว่างบริษัทข้ามชาติจากต่างประเทศและบริษัทนวัตกรรมระดับชาติในภาคธุรกิจเภสัชภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันนำโดยกลุ่มบริษัทชื่อดังอย่างไฟเซอร์ (Pfizer) โรช (Roche) แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และเหิงรุ่ย ฟาร์มาซูติคอลส์ (Hengrui Pharmaceuticals) ของจีนที่เพิ่งก่อตั้งใหม่
นอกจากนั้นกลุ่มธุรกิจยานยนต์อย่างบีวายดี (BYD) และซีเอทีแอล (CATL) บริษัทพลังงานใหม่และแบตเตอรี่ กำลังก้าวสู่ระดับโลก
กรีเวนกล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือนวัตกรรม ซึ่งบริษัทชั้นนำทุกแห่งล้วนเคยหรือกำลังลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่ออนาคต และปีมังกรจะเป็น “ปีแห่งการผงาดขึ้น” ของเศรษฐกิจจีน
อนึ่ง ดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนผ่านของบริษัทในประเทศจีน มุ่งทำการประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ในตลาดจีน รวมถึงความพร้อมเปลี่ยนผ่านและเติบโตในระยะยาว โดยอ้างอิงวัตถุประสงค์และข้อมูล
สถาบันฯ ซึ่งเป็นสถาบันวิชาการอิสระที่มีฐานอยู่ในเมืองโลซานของสวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ และเปิดศูนย์กลางแห่งใหม่ที่เมืองเซินเจิ้นเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน ยังวางแผนจะเผยแพร่ดัชนีลักษณะเดียวกันที่ให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจยานยนต์ วัสดุใหม่ อาหาร และเครื่องดื่ม ภายในปีนี้ด้วย
https://mgronline.com/china/detail/9670000016159?tbref=hp 
IMD ชี้ ‘จีน’ จะกลายเป็นมหาอำนาจโลกด้าน ‘เทคโนโลยี-ยา’
รายงานระบุว่ากลุ่มบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยังคงครองตลาดเทคโนโลยีของจีน โดยมีไป่ตู้ (Baidu) อาลีบาบา (Alibaba) เทนเซ็นต์ (Tencent) เจดีดอตคอม (JD.com) และเน็ตอีส (NetEase) จัดเป็นห้าอันดับแรก
มาร์ก กรีเวน ซีอีโอของสถาบันฯ ประจำประเทศจีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่ามีสามบริษัทเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง (hard tech) ได้แก่ เอสเอ็มไอซี (SMIC) ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ เลอโนโว (Lenovo) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ และฮิกวิชัน (Hikvision) ผู้นำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก จัดอยู่ใน 10 อันดับแรก
ad
ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทม้ามืดหรือ “ฮิดเดน แชมเปียนส์” (hidden champions) ในแวดวงธุรกิจเทคโนโลยีของจีนมีแนวโน้มกลายเป็นผู้แข่งขันระดับโลกในอนาคต
ดัชนีบ่งชี้ใหม่นี้ยังเน้นย้ำการมีปฏิสัมพันธ์เชิงพลวัตระหว่างบริษัทข้ามชาติจากต่างประเทศและบริษัทนวัตกรรมระดับชาติในภาคธุรกิจเภสัชภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันนำโดยกลุ่มบริษัทชื่อดังอย่างไฟเซอร์ (Pfizer) โรช (Roche) แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และเหิงรุ่ย ฟาร์มาซูติคอลส์ (Hengrui Pharmaceuticals) ของจีนที่เพิ่งก่อตั้งใหม่
นอกจากนั้นกลุ่มธุรกิจยานยนต์อย่างบีวายดี (BYD) และซีเอทีแอล (CATL) บริษัทพลังงานใหม่และแบตเตอรี่ กำลังก้าวสู่ระดับโลก
กรีเวนกล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือนวัตกรรม ซึ่งบริษัทชั้นนำทุกแห่งล้วนเคยหรือกำลังลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่ออนาคต และปีมังกรจะเป็น “ปีแห่งการผงาดขึ้น” ของเศรษฐกิจจีน
อนึ่ง ดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนผ่านของบริษัทในประเทศจีน มุ่งทำการประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ในตลาดจีน รวมถึงความพร้อมเปลี่ยนผ่านและเติบโตในระยะยาว โดยอ้างอิงวัตถุประสงค์และข้อมูล
สถาบันฯ ซึ่งเป็นสถาบันวิชาการอิสระที่มีฐานอยู่ในเมืองโลซานของสวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ และเปิดศูนย์กลางแห่งใหม่ที่เมืองเซินเจิ้นเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน ยังวางแผนจะเผยแพร่ดัชนีลักษณะเดียวกันที่ให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจยานยนต์ วัสดุใหม่ อาหาร และเครื่องดื่ม ภายในปีนี้ด้วย
https://mgronline.com/china/detail/9670000016159?tbref=hp