คำนี้ผมไม่ได้ คิดเอง เออเอง นะครับ แต่ที่มา มาจากผมได้ไปดูคลิป YouTube ที่พูดถึงสงครามรถถัง ระหว่าง กองทัพนาซีเยอรมัน กับ กองทัพแดงของสภาพโซเวียต รถถังของทางฝั่งเยอรมันนั้น เรียกว่า คุณภาพดีมาก เกราะแข็งแรง สามารถยิงทำลายรถถังของโซเวียตเยอะมาก แต่ รถถังของทางโซเวียต ที่คุณภาพด้อยกว่ารถถังของเยอรมัน แต่ก็สามารถผลิตเพิ่มมาใช้ได้อีกมหาศาล เรียกว่า เรียกว่าถ้าถูก รถถังของทางเยอรมันยิงทำลายไป 1 คัน ก็จะมาทดแทนอีก 10 คัน จุดนี้แหละ ทำให้เป็นความได้เปรียบของฝั่งกองทัพแดงเลย และก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กองทัพสหภาพโซเวียต มีชัยชนะต่อกองทัพนาซีเยอรมัน โดยเฉพาะการบุกยึดกรุงเบอร์ลิน
และเมื่อผมอ่านคอมเมนต์ สิ่งที่ผมเห็นซ้ำๆ คือ คุณภาพย่อมแพ้ปริมาณ หรือคุณภาพย่อมแพ้จำนวน (บางคอมเม้นต์บอก ปริมาณมันมีคุณภาพในตัวมันเอง) ซึ่งก็จริงของเขานะ เพราะต่อให้นาซีเยอรมันมีอาวุธที่ดีเยี่ยม ไปบุกโซเวียตแบบได้เปรียบ บุก แบบสายฟ้าแลบได้ แต่ก็ต้องพ่ายแก้ให้แก่กองทัพอันมีจำนวนมหาศาล ที่สามารถโต้กลับ และเอาธงชาติสภาพโซเวียตไปปักที่เบอร์ลินในที่สุด
ผมเชื่อว่าในความเป็นจริง ใครๆก็คงอยากได้ของดีมีคุณภาพ ไม่ได้อย่างได้ของที่ด้อยกว่าแต่เน้นจำนวน แต่ในสงครามระหว่างนาซีเยอรมันกับสหภาพโซเวียตก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงแม้มีของที่ด้อยกว่าแต่ด้วย ปริมาณมหาศาลก็สามารถเอาชนะคุณภาพได้เหมือนกัน
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรครับ
คิดเห็นอย่างไรกับคำว่า คุณภาพย่อมแพ้ ปริมาณ หรือเน้นจำนวนมหาศาลเอาชนะคุณภาพ (เรื่องจริงใน สงครามโลกครั้งที่ 2)
และเมื่อผมอ่านคอมเมนต์ สิ่งที่ผมเห็นซ้ำๆ คือ คุณภาพย่อมแพ้ปริมาณ หรือคุณภาพย่อมแพ้จำนวน (บางคอมเม้นต์บอก ปริมาณมันมีคุณภาพในตัวมันเอง) ซึ่งก็จริงของเขานะ เพราะต่อให้นาซีเยอรมันมีอาวุธที่ดีเยี่ยม ไปบุกโซเวียตแบบได้เปรียบ บุก แบบสายฟ้าแลบได้ แต่ก็ต้องพ่ายแก้ให้แก่กองทัพอันมีจำนวนมหาศาล ที่สามารถโต้กลับ และเอาธงชาติสภาพโซเวียตไปปักที่เบอร์ลินในที่สุด
ผมเชื่อว่าในความเป็นจริง ใครๆก็คงอยากได้ของดีมีคุณภาพ ไม่ได้อย่างได้ของที่ด้อยกว่าแต่เน้นจำนวน แต่ในสงครามระหว่างนาซีเยอรมันกับสหภาพโซเวียตก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงแม้มีของที่ด้อยกว่าแต่ด้วย ปริมาณมหาศาลก็สามารถเอาชนะคุณภาพได้เหมือนกัน
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรครับ