ประสบการณ์ขนหัวลุก

สวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของนาในวันนี้ค่ะ พอดีนามีเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อประมาณ3ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นนาจบม.6พอดี นามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เราสองคนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน เรียกได้ว่าตัวติดกันเลยก็ว่าได้ค่ะ หลังจากที่จบม.6เราสองคนตัดสินใจไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน นากับเพื่อนก็ได้เช่าหอพัก ซึ่งหอพักนั้นเป็นหอพักหญิง เจ้าของหอเป็นคุณป้าคนหนึ่งซึ่งอายุน่าจะประมาณ50-60ปี เพราะคุณป้าแก่มากแล้ว นาเองก็ไม่ได้ถามอายุ ด้วยที่เป็นคนต่างจังหวัดและไม่เคยไปไหนมาไหนจึงไม่กล้าถามมาก
ในระหว่างที่คุยกันเสร็จคุณป้าก็ได้พานาและเพื่อนไปยังห้องพักที่ว่าง ห้องพักของพวกเรานั้นอยู่ที่ชั้น4ซึ่งหอพักจะมีทั้งหมด4ชั้นและข้างบนเป็นดาดฟ้าเอาไว้ตากเสื้อผ้า ช่วงเวลาที่เดินขึ้นไปยังห้องพัก คุณป้าก็ไม่พูดไม่จาเอาแต่นิ่งเงียบจนมาถึงห้องพักที่ว่าคุณป้าถึงพูดขึ้นมาว่า ห้องพักห้องนี้ที่จริงเป็นห้องของหลานสาวคุณป้า ซึ่งตอนนี้เธอไม่อยู่เพราะไปเรียนที่เมืองนอก คุณป้าเลยเปิดให้เช่า เพราะจะทิ้งไว้ก็เปล่าประโยชน์ เมื่อนาและเพื่อนได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มออกมาและเดินเข้าไปดูข้างในห้องกับคุณป้า ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่มาก แต่คุณป้าคิดค่าเช่าในราคาที่ถูกมาก คุณป้าให้เหตุผลว่าพวกเรามาเรียนคุณป้าเลยคิดให้ครึ่งราคา ถือว่าตอนนั้นโชคดีสุดๆเลยค่ะ 
หลังจากที่นากับเพื่อนเข้ามาอยู่หอได้สักประมาณ3วัน เพื่อนของนาก็เริ่มมีอาการแปลกๆ ซึ่งนาก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ อาการของเพื่อนนาแปลกตรงที่ว่า เพื่อนมักจะเดินเข้าไปหาคุณป้าคนนั้นแล้วกอดก่อนจะเดินขึ้นหอพักพร้อมกันกับนา เพื่อนทำมาแบบนี้สามวันติดแล้วค่ะ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในหอพัก ที่แปลกเพราะนากับเพื่อนไม่เคยรู้จักคุณป้ามาก่อน แต่เพื่อนนาดูสนิทสนมกับคุณป้ามาก เวลาที่นาถามเพื่อนจะไม่ตอบค่ะ นาเลยได้แต่สงสัยและเก็บเอาไว้ในใจ 
จนถึงเวลาประมาณ3ทุ่มครึ่งของวันที่สามวันนั้น เป็นวันที่นานอนไม่หลับแต่ง่วงอยู่ นาจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อจะไปล้างหน้าแล้วมาดูซีรีย์ เพราะช่วงนั้นกึ่งง่วงกึ่งไม่ง่วงค่ะเลยตัดสินใจไปล้างหน้า ระหว่างที่นากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำอยู่นั้น นาก็ได้ยินเสียงเปิดของประตู นาจึงหันไปดู ปรากฏว่าเป็นเพื่อนนา เธอกำลังเปิดประตูและจะเดินออกจากห้องไป นาเลยรีบวิ่งไปหาเพื่อนแล้วจับมือพร้อมกับถามว่าจะไปไหน แต่เพื่อนก็หันมาผลักนาจนล้มลงกับพื้นค่ะ นามองตามหลังเพื่อนที่เดินออกไปแล้วรีบลุกขึ้น ช่วงที่ลุกขึ้นยืนนาก้มลงที่พื้นเพื่อพยุงตัวเอง พอแหงนหน้าขึ้นจะมองหาเพื่อนนากลับไม่เห็นเพื่อน ทั้งๆที่เพื่อนเพิ่งจะเดินออกไป นาเลยตัดสินใจวิ่งตามหาเพื่อนทั่วทุกชั้น เพราะตอนนั้นนาคิดว่าเพื่อนจะเดินลงบันได นาวิ่งขึ้นวิ่งลง2-3รอบแต่ก็ไม่เจอ นาจึงตัดสินใจวิ่งไปที่ชั้นหนึ่งห้องของคุณป้าเจ้าของหอ และเคาะประตู พร้อมกับตะโกนเรียก นาเรียกอยู่ประมาณ3-4ครั้งคุณป้าก็ไม่เปิด จนนาคิดว่าคุณป้าคงจะไม่อยู่หรือหลับไป นาจึงตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อจะตามหาเพื่อนต่อ แต่แล้วนากลับได้ยินเสียงแว่วๆผ่านหูของนาไปว่าเพื่อนอยู่ในห้อง เสียงนั้นเบามากค่ะ นาเลยหันมองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่เห็นใคร ภายในใจของนาตอนนั้นเต้นตุ๊บๆๆ เพราะนาเป็นคนกลัวผีมากถึงมากที่สุด และเสียงแว่วๆที่นาได้ยินเมื่อครู่นาก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใคร นาเลยพยายามข่มใจไม่ให้กลัวแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที โดยที่ไม่เคาะประตูห้องของคุณป้าอีก ใจหนึ่งก็เป็นห่วงเพื่อน อีกใจหนึ่งก็กลัว เมื่อนาวิ่งมาถึงห้องนากลับเห็นเพื่อนนอนอยู่ในห้องแล้วค่ะ ซึ่งแปลกมากถึงมากที่สุด
นาในตอนนั้นแทบจะเป็นบ้าและเสียสติไป จะถามเพื่อนก็กลัวนาเลยรีบวิ่งขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมทั้งตัว ในใจคิดไว้อย่างเดียวว่าพรุ่งนี้เช้าถึงจะถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น 

แต่เรื่องก็ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ค่ะ นาจำได้ว่าในคืนนั้นนาถูกเพื่อนสนิทคนนี้นอนกอดทั้งคืน เป็นอ้อมกอดที่แน่นมากค่ะ ทั้งๆที่เพื่อนของนาไม่เคยนอนกอดนาเลย ต่อให้นอนอยู่ด้วยกันก็ตาม แต่ในคืนนั้นเพื่อนกับกอดนาจนถึงเช้า พอเช้าแล้ว นาก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันตามปกติค่ะ แต่เพื่อนของนายังไม่ตื่น นาก็ไม่ได้ไปปลุกหรืออะไรเพื่อนนะค่ะ เพราะว่าเป็นวันเสาร์ไม่มีเรียน แต่ในใจของนายังคงมีคำถามมากมายว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น นาฝันหรือละเมอ หรือว่าจินตนาการไปเอง นายืนคิดอยู่นานพอสมควรค่ะ ก่อนจะตื่นจากภวังค์เพราะได้ยินเสียงเพื่อนเรียก เสียงที่เพื่อนเรียกนานั้นเป็นน้ำเสียงที่เย็นมากค่ะ เป็นน้ำเสียงที่เนิบช้าแบบว่านาาาาา แบบเป็นน้ำเสียงที่ยืดยาวจนน่ากลัว นาที่หลุดออกจากความคิดเมื่อครู่ก็ได้สติและหันไปมองเพื่อนด้วยความสงสัยก่อนจะสังเกตุเห็นใบหน้าของเพื่อนที่มองนาตอนนั้นเหมือนไม่ใช่ใบหน้าเพื่อนค่ะ เหมือนมีอีกใบหน้ามาซ่อนไว้อยู่ นาอธิบายไม่ถูก นาไม่รู้ว่านาตาฝาดหรืออะไร เพราะนามองดูอีกทีก็เห็นเพื่อนทำหน้านิ่งๆและไม่มีใบหน้าของใครมาซ่อนอยู่ค่ะ 
นาเลยถามไปว่าเมื่อกี้เรียกนาทำไม พอเพื่อนได้ยินคำพูดของนา เพื่อนก็ขมวดคิ้วและถามนาว่า ใครเรียก เราเพิ่งตื่นขึ้นมาและเห็นนายืนจ้องเราตาไม่กระพริบ
นาที่ได้ยินคำพูดของเพื่อนแบบนั้นยิ่งสับสนไปใหญ่ค่ะ จึงถามออกมาว่า เมื่อคืนนอนกอดนาทำไม และเดินออกจากห้องไปไหน รู้ไหมนาตามหาจนทั่วหอ 
ฝั่งเพื่อนก็ไม่ตอบเอาแต่ขมวดคิ้วและพูดขึ้นมาอีกว่า เราไม่ได้ไปไหนเราก็นอนอยู่ที่เตียงกับนานี่ไง มีอะไรหรือเปล่า 
ตอนนั้นนาไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไง จะพูดให้ฟังว่าเห็นเพื่อนออกไปจากห้องแล้วกลับมาตอนไหนไม่รู้ก็กลัวตัวเองจะดูเป็นคนบ้าเกินไปเพราะเพื่อนบอกว่าเพื่อนไม่ได้ไปไหน นาเลยแกล้งทำเป็นหัวเราะและเดินจากไป 
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วนากับเพื่อนก็ตกลงกันว่าจะไปกินข้าวข้างนอก เราสองคนเดินลงมาในระหว่างที่ลงมาถึงชั้นล่างสุดก่อนจะออกจากหอไป คุณป้าก็เดินเข้ามาทักทายและถามว่าจะไปไหน นากำลังจะอ้าปากตอบออกไป คุณป้าก็ชิงพูดตัดขึ้นมาก่อนว่า ป้าทำโจ๊กไว้เยอะเลยมากินด้วยกันสิ 
ยังไม่ทันที่นาจะตอบ เพื่อนของนาก็เดินกอดแขนคุณป้าไปแล้วค่ะ ด้านนาได้แต่เดินตามหลัง พอไปถึงห้องครัวของคุณป้า คุณป้าก็ตักโจ๊กมาให้เราสองคนทานค่ะ นาอยากจะบอกว่าโจ๊กที่คุณป้าทำนั้นรสชาติแย่มากค่ะ คาวมากทั้งๆที่ในโจ๊กไม่มีหมูเลยสักชิ้น นาชิมลงไปนิดเดียวแล้ววางช้อนก่อนจะบอกคุณป้าไปว่านาไม่ชอบกินโจ๊ก คุณป้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนฝั่งทางเพื่อนของนาเอาแต่ชมว่าโจ๊กรสชาติอร่อย กินไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดีค่ะ ผิดกับนาที่เอาแต่นิ่งเงียบ เพราะกลัวสายตาของคุณป้าที่มองมาค่ะ เหมือนจะกินนาได้เลย 
และเกือบทั้งวันของวันนั้นนาก็ไม่ได้ไปไหนเอาแต่นั่งดูเพื่อนพูดคุยกับคุณป้าค่ะ 
จนเวลาล่วงเลยไปประมาณอาทิตย์กว่าที่เพื่อนของนาชอบลุกออกจากที่นอนในเวลาสามทุ่มครึ่ง เพราะนาแอบดูพฤติกรรมที่เพื่อนทำด้วยการแกล้งหลับค่ะ จนมาถึงวันพระ พอถึงเวลาสามทุ่มครึ่งเพื่อนนาไม่ตื่นขึ้นมานะค่ะ หลับ มีแค่นาที่ปวดฉี่ตอนนั้นจึงลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำแต่แล้วนากลับรู้สึกว่าด้านหลังของนามีคนยืนอยู่ค่ะ นาเลยหันไปดูและนาก็ต้องตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่ด้านหลังนาเป็นเพื่อนซึ่งเมื่อกี้นอนหลับสนิทอยู่ข้างนาอยู่เลยค่ะ นาเลยถามว่าจะมาเข้าห้องน้ำหรอ ถ้างั้นรอแป๊บนะ เราจะเข้าก่อน แต่เพื่อนตอบมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า ไม่ จะเข้าด้วยกัน นาเลยตอบไปว่าไม่ได้ จะเข้าด้วยกันได้ยังไง ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่เราก็อาย แต่เพื่อนนาก็เอาแต่พูดคำเดิมค่ะ นาเลยโมโหจึงไม่เข้าห้องน้ำได้แต่อดกลั้นไว้และเดินกลับไปที่เตียงแต่ระหว่างที่นาเดินไปจะถึงเตียงสายตาของนาก็ก้มมองลงไปที่พื้น ซึ่งบนพื้นเต็มไปด้วยแป้งสีขาว บนแป้งสีขาวมีรอยเท้าเต็มไปหมดค่ะ นามองหันกลับไปที่เพื่อนก็รู้ได้ทันทีว่ารอยเท้าและแป้งมาจากใคร เพราะจุดที่เพื่อนยืนอยู่มีแป้งเต็มไปหมดค่ะ นาเลยถามออกมาว่า แกเล่นอะไรของแก เอาแป้งมาเทแล้วเหยียบทำไม เพื่อนไม่ตอบนาเลยค่ะ เอาแต่ยืนฉีกยิ้มแล้วทำมือจุปากว่า จุ๊ๆๆ อย่าเสียงดังสิ แล้วสายตาของเพื่อนก็มองไปที่ประตูค่ะ นาในตอนนั้นสติเริ่มจะแตกกระเจิงแล้วค่ะ ได้แต่พยายามยืนนิ่งๆ แต่ทำไม่ได้ ใจเต้นแรงมากจนเกือบจะหายใจไม่ออก นามองตามสายตาของเพื่อนไปที่ประตู แต่แล้วเพื่อนก็เดินผ่านนาไปแล้วเปิดประตูออกพร้อมกับพูดว่า นาเข้ามาสิ เธอออกไปทำอะไรข้างนอก นาที่ได้ยินแบบนั้นยิ่งแทบช็อกค่ะ นาตะโกนถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่สั่นว่า แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ ฉันยืนอยู่ตรงนี้ แกอย่าแกล้งฉันสิว่ะ ฉันกลัวแล้วนะ แต่เพื่อนก็ไม่ตอบนาค่ะ พอผ่านไปประมาณ1นาทีเพื่อนก็ปิดประตูและเดินมานอนที่เตียงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ ทิ้งให้นายืนร้องไห้ด้วยความกลัวและเสียสติอยู่กับที่คนเดียว 
และในคืนนั้นนาก็ไม่นอนค่ะ นาโทรหาแม่ทั้งคืนและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง และแม่ก็บอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางมาที่หอกับพ่อและแม่รวมไปถึงพี่ชายของเพื่อนค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่