JJNY : 5in1 สินค้าจีนราคาถูกตีตลาด│ห่วงหนี้ครัวเรือน-ศก.ถดถอย│ชัยธวัชบุกเชียงใหม่│ชัยธวัชจี้เปิดเอกสาร│สวีเดนช่วยยูเครน

SME จี้รัฐแก้ปัญหาด่วน สินค้าจีนราคาถูกตีตลาด ผู้ประกอบการไทยเดือดร้อนหนัก!
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/387982

 
ปัญหาสินค้าจีนราคาถูกเข้าตีตลาด วันนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี บอกทนไม่ไหวแล้ว จี้รัฐเร่งแก้ไขด่วน ก่อนล้มตายกันหมด
 
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า วันนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มไทย กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางส่วนล้มตายไปแล้วก็มี จากสินค้าจีนราคาถูกเข้ามาตีตลาด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแฟชั่นจำพวกเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ รวมไปถึงอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์เสริมความงาม เคสโทรศัพท์ อะไหล่ประดับยนต์ อุปกรณ์แม่และเด็ก
 
โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริม อาหารสำเร็จรูป เครื่องสำอางค์ ที่อาจไม่ได้ผ่านการตรวจมาตรฐาน ก่อนนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ที่สำคัญยังได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทอีก ในขณะที่ผู้ผลิตไทยเสียภาษีตั้งแต่บาทแรก และกว่าจะปรับปรุงคุรภาพสินค้าเพื่อขอมาตรฐานต่างๆ  เช่น อย. เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี. ไทย แข่งขันทางด้านราคาไม่ได้ เห็นได้การดุลการค้าไทย-จีน ที่นับจากปี 53 ถึงปัจจุบัน ไทยขาดดุลมาโดยตลอด
 
ที่น่าตกใจ คือ ปี 53 ขาดดุล 96,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่ตอนนี้พบว่า ขาดดุลเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1,000% จึงถึงเวลาแล้วที่รัฐต้องอุดช่องโหว่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย เพราะที่ผ่านมาจีนมีจุดแข็งในการผลิตสินค้าราคาต่ำอยู่แล้ว และไทยยังไปส่งเสริมด้วยมาตรการทางภาษีไปอีก ทำให้เกิดการทุ่มตลาดในไทย และยังโดนซ้ำเติมจากกองทัพมดจากสินค้าเลี่ยงภาษีอีก
 
ล่าสุด ได้ยกคณะเข้าพบกระทรวงพาณิชย์ พร้อมเสนอ 6 มาตรการ ให้ภาครัฐเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะ ต้องทบทวนอัตราภาษีนำเข้ารายกลุ่มสินค้าที่ไทยเสียเปรียบ ซึ่งต้องไม่ให้จนเกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการไทย การบังคับใช้กฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจการค้ากับนักธุรกิจจีนหรือนอมินี ให้ทำการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการลักลอบนำเข้าสินค้าจากจีนที่ผิดกฎหมาย หลบเลี่ยงภาษี และขายนอกระบบหรือในระบบแต่ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐบางรายเอื้อประโยชน์ เป็นต้น
 

 
ห่วงหนี้ครัวเรือน-เศรษฐกิจถดถอย กระทบอสังหาฯ
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/387980

ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยอมรับห่วงปัญหาหนี้ครัวเรือน และเศรษฐกิจถดถอย กระทบธุรกิจอสังหาฯ

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง มองว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีความท้าทายหลายด้าน ทั้งต้นทุนก่อสร้าง อัตราค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง ทำให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัว ซึ่งการปรับขึ้นราคาบ้านอาจเป็นแนวทางที่ทำได้ยาก จากปัญหาหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อที่ถดถอย

ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงเรื่องปัญหาหนี้ครัวเรือนและสภาพเศรษฐกิจโลกถดถอย จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้าน ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 50% และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ในส่วนของพฤกษาฯ ได้รับผลกระทบ มีสัดส่วนของผู้ที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อบ้านราว 7%

พร้อมมองว่า อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง หากลดดอกเบี้ยลงได้ ก็จะช่วยให้ค่าครองชีพของประชาชนลดลงได้ ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ก็พยายามทำงานร่วมกับกลุ่มธนาคาร ในเรื่องการผ่อนต่ำ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีบ้าน



ชัยธวัช นำทัพฝ่ายค้านสัญจร บุกเชียงใหม่ ถกเรื่องฝุ่น-ป้องกันไฟป่า ยังไม่กำหนดวันซักฟอกรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4434300

ชัยธวัช เผย ฝ่ายค้านสัญจรที่เชียงใหม่ เล็งถกเรื่องฝุ่น-ป้องกันไฟป่า แย้มจัดกิจกรรมทั้งวัน เน้น ปชช.มีส่วนร่วมได้ บอก พิธา ไม่ได้ไปด้วย ระบุ ยังไม่กำหนดช่วงเวลาซักฟอกรัฐบาล ยังอยู่ระหว่างเก็บข้อมูล
 
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดฝ่ายค้านสัญจรเป็นครั้งแรกว่า ในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ข้อยุติว่าจะจัดฝ่ายค้านพบประชาชน โดยในช่วงนี้น่าจะจัดเดือนละ 1 ครั้ง โดยจะเริ่มในวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม ที่ จ.เชียงใหม่ จะเปิดเป็นเวทีพูดคุยเรื่องฝุ่นพิษ โดยงานจะจัดทั้งวัน ซึ่งในช่วงเช้าจะเป็นเวทีอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และช่วงบ่ายจะร่วมแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และคนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ และช่วงเย็นจะดูในเรื่องการเตรียมพร้อมอาสาสมัครป้องกันไฟป่า ซึ่งตนไปร่วมงานนี้แน่นอน ส่วนพรรคอื่นกำลังจัดสรรบุคลากรอยู่ ว่าจะมีใครร่วมเวทีพูดคุยและกิจกรรมอื่นๆ ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก. ไม่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ด้วย
 
ส่วนจะมีการหารือเรื่องอื่นๆ หรือไม่นั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า กำหนดการที่วางไว้เน้นเรื่องฝุ่นเป็นหลัก เพราะในพื้นที่กำลังประสบปัญหา หากมีประเด็นเฉพาะหน้าที่สามารถผลักดันร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ และประชาชนในฐานะฝ่ายค้านก็จะทำ มีหลายเรื่องที่อาจต้องพูดถึงปีหน้า อย่างเรื่องใดที่ฝ่ายบริหารควรทำแต่ยังไม่ได้ทำ คงต้องมีมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่เราอยากร่วมมือกับประชาชนเพื่อผลักดันแก้ปัญหา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเริ่มหารือเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้างแล้วหรือยัง นายชัยธวัชกล่าวว่า “ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเก็บข้อมูล ยังไม่ได้กำหนดช่วงเวลา หากข้อมูลพร้อมเมื่อไหร่ก็ไม่น่าจะช้า ส่วนจะยังเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนหรือไม่นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป
 


ชัยธวัช ชี้ ทักษิณ ป่วย ไม่ใช่เหตุผลสำคัญ ได้พักโทษ จี้เปิดเอกสารทางการแพทย์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8104858

“ชัยธวัช” ชี้ “ทักษิณ” ป่วย ไม่ใช่เหตุผลสำคัญ ได้พักโทษ จี้เปิดเอกสารการแพทย์ ย้ำทุกคนต้องได้รับสิทธิ์เท่าเทียม รวมถึงคดี 112 ยัน  ก้าวไกล ลุยสอบเข้มข้น
 
เมื่อเวลา 14.06 น. วันที่ 20 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีอธิบดีอัยการ ระบุอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ค่อนข้างวิกฤต ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าป่วยจริงหรือไม่ ว่า ตนเข้าใจว่าอาการป่วย ไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ได้รับการประกันตัว
 
แต่โดยพื้นฐานพรรคก้าวไกลให้การสนับสนุนการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงต้องสันนิษฐานว่าทุกคนบริสุทธิ์ ดังนั้น หากใครไม่ได้รับการประกันตัว ต้องเป็นกรณียกเว้นจริงๆ เรื่องนี้จะต้องปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียมทางกฎหมาย และการได้รับการประกันตัว ควรเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับทุกคน แม้แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหาคดี 112 ด้วย
 
ส่วนอัยการคงไม่มีอำนาจมาวินิจฉัยเรื่องอาการป่วย เพราะต้องว่าตามเอกสารทางการแพทย์ที่จะไปเกี่ยวข้องกับเหตุผลที่นายทักษิณได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ประกาศของกระทรวงในการพักโทษ ดังนั้น คนที่ให้คำตอบได้ไม่ใช่อัยการ แต่ต้องเป็นแพทย์ กรมราชทัณฑ์ รมว.ยุติธรรม
 
ทางที่ดีที่สุดคนที่เกี่ยวข้องควรออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า นายทักษิณได้รับสิทธิ์โดยชอบแล้วอย่างไร หากหน่วยงานเกี่ยวข้องมั่นใจว่าเรื่องนี้ทำถูกต้องแล้ว และเปิดเผยเอกสารทางการแพทย์เรื่องนี้ก็จบ สังคมจะได้เลิกสงสัยไม่ตั้งคำถามกับรัฐบาล
 
สถานการณ์ที่ผมคิดว่าเรื่องใหญ่ คือ การไปตอกย้ำความรู้สึกของคนไทยจำนวนมาก ที่รู้สึกว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม มีการปฏิบัติต่อประชาชนไม่เท่าเทียม ในกระบวนการนิติรัฐ อภิสิทธิ์ชน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
 
ที่ประชาชนออกมาต่อสู้ เพื่อต้องการให้สังคมเป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมแบบสองมาตรฐาน วิธีใดที่คิดว่าจะเป็นการคืนความยุติธรรมให้กับนายทักษิณที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากอดีตที่ผ่านมา ไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยวิธีการตอกย้ำ ผลิตซ้ำความอยุติธรรมที่จะสร้างปัญหา” นายชัยธวัช กล่าว
 
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลเชิญนายทักษิณมานั่งที่ปรึกษาจะมีความเหมาะสมหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่านายทักษิณมีสิทธิ์ให้ความเห็นเหมือนประชาชนทั่วไป แต่ก็เป็นวิจารณญาณของรัฐบาล ส่วนจะมีอิทธิพลทางการเมืองหรือไม่นั้น ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่า บทบาทของนายทักษิณจะมีความสำคัญต่อแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน
 
สำหรับฝ่ายค้านก็จะติดตามข้อเท็จจริงว่า มีการใช้ดุลยพินิจเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และคงต้องผลักดันกระบวนการยุติธรรมไม่ควรจะได้รับแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ควรคืนให้กับทุกคน ทุกฝ่ายที่ต้องคดีความที่มาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา
 
เมื่อถามว่ามีการตั้งคำถามถึงการทำงานของพรรคก้าวไกลที่ยังตรวจสอบได้ไม่เข้มข้นพอเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ นายชัยธวัช กล่าวว่า เดี๋ยวรอดู ตนบอกแล้วว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องทำ ในฐานะที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ พร้อมๆ กับการผลักดันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง ซึ่งตอนนี้พรรคก้าวไกลพูดทุกวันอยู่แล้ว ขอรวบรวบข้อเท็จจริงก่อน
 
เมื่อถามว่าสังคมมีการเปรียบเทียบคดีของนายทักษิณกับนายอานนท์ นำภา นักโทษคดี 112 พรรคก้าวไกลมีความเห็นอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างที่กล่าวไว้ว่าเรื่องนี้เป็นการตอกย้ำการเลือกปฏิบัติในทางกฎหมาย และตอกย้ำระบบนิติรัฐที่รัฐบาลบอกว่าจะทำให้เข้มแข็ง
 
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำลายความเชื่อถือของสังคมว่า รัฐบาลไม่ได้มีนิติรัฐสำหรับประชาชน แต่เป็นนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชนที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้น
 
ส่วนความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) นิรโทษกรรม จะนำกรณีของนายทักษิณมาเป็นกรณีตัวอย่างหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่จุดมุ่งหมายของการนิรโทษกรรมควรจะครอบคลุมคดีความที่เกี่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือคดีเกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง
 
หากคดีใดก็ตามของนายทักษิณเกี่ยวข้องกับเหล่านี้ก็ควรมีการนำมาพิจารณา เพราะไม่ได้ตั้งต้นที่ตัวบุคคล ส่วนคดีไหนที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น คดีการทุจริตคอร์รัปชัน ก็ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่