สวัสดีครับ คือตอนนี้ผมก็อยู่ม.5 แล้วไม่กี่เดื่อนก็ม.6 แล้วแน่นอนว่ามันต้องมีเรื่องมหาวิทยาลัย ผมก็เป็นเช่นนั้นผมก็วางแผนว่าพอปิดเทอมแล้วจะเริ่มเตรียมตังอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นข้อสอบ A-Level, T-GAT, T-PAT เป็นต้นก็ดีแล้วท้าวความเพิ่มตอนนี้ผมอาศัยอยู่บ้านญาติ โดยก่อนหน้านี้ผมก็อยู่กับแม่ก่อนแล้วผมก็มีปัญหากับแม่บวกกับแม่ต้องการที่จะขึ้นไปอยู่บ้านนอกกับสามีชาวต่างชาติก็เลยไล่ให้ผมไปอยู่กับพ่อ (แต่เขาก็ยังสนับสนุนค่าเทอมอยู่) ผมก็ย้ายไปอยู่กับพ่อ พอมาอยู่กับพ่อแรกๆ ก็ดีหลังๆ ผมเริ่มเครียดแล้วก็เริ่มมีปัญหาซึมเศร้าทะเลาะกับแม่ (ทางโทรศัพท์) บ่อยมากทุกครั้งที่โทรหากันเลยจนผมต้องเลือกที่จะไม่รับสายแม่เลย เพราะผมรู้สึกไม่ไหวแล้วจริงๆ จนต่อมาเรื่อยๆ ผมก็เริ่มมีปัญหากับพ่อแบบเงียบๆ (โดยปกติผมกับพ่อก็ไม่ค่อยคุยกันอยู่แล้วต่างคนต่างอยู่ แต่ผมเริ่มสังเกตจากท่าทางของเขาเริ่มไม่ค่อยโอเคกับผม) ก็ลองพยายามมองปัญหากลับมาที่ตัวเองแล้วลองแก้ไข จนผ่านมาเรื่อยๆ จนมีช่วงหนึ่งที่ผมขาดไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนบ่อยๆ เพราะผมไม่ค่อยสบายบวกกับอาการซึมเศร้าหนักขึ้นมา คุณครูเขาก็เป็นห่วงครับเขาก็เลยโทรมาถามที่บ้าน (แต่โดยปกติที่บ้านตอนอยู่กับพ่อผมก็ไม่ได้คุยได้บอกอะไรกับเขาอยู่แล้วว่าผมหยุดไม่ได้ไปอะไรอันนี้ผมก็ผิด แต่คือเขาไม่ได้สนใจอะไรผมเลยผมก็เลยเลือกที่จะไม่ได้บอกอะไร เพราะเวลาป่วยหรือมีอะไรก็มีคำพูดว่า "จะให้ทำอะไรยังไง?, กินยา?" แค่นั้นบางครั้งก็ไปหายามาให้แต่บางครั้งผมก็ต้องไปหายามากินเองก็เลยชินชากับการที่ไม่ต้องบอกใคร) พอคูโทรมาแล้ว เขาก็เริ่มที่จะตะโกนตะคอกด่าว่าผมสารพัดซึ่งผมไม่เคยที่จะคิดได้ยินสิ่งเหล่านั้นเลยผมก็เลยได้แค่ตกตะลึงแล้วร้อยไห้ออกมาพลางก็ประชดชีวิตตัวเองไปว่าทำไมอยู่นู้นอย่างนี้ พอหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มไล่ผมไปอยู่บ้านญาติที่อยู่ตอนนี้ (ซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกันซึ่งผมก็มารู้ที่หลังว่าคนเบื้องหลังคือแม่) ระหว่างก่อนวันที่ผมจะย้ายไปเขาก็มีตะคอกตะโกนว่าผมเข้ามาในห้องบ้างคือเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ จะไล่ผมให้รีบไปอย่างนั้น พอถึงวันที่ญาติผมไปรับมาอยู่ ผมก็ย้ายเอาไปเฉพาะของบางอย่างก่อนไปผมก็สวัสดีแม่เลี้ยงแล้งก็ขึ้นรถไปแล้วใช่ผมไม่สวัสดีหรือไม่แม้จะมองหน้าเข้าเลย เพราะ ผมรู้สึกรับไม่ได้ที่ว่าถูกตะโดนตะคอกว่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรงมากโดยไม่ทีการพูดคุยหรือสอบถามดีๆ ด้วยเหตุหรือผลเลย ผมก็ย้ายไปพอย้ายมาก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ พออยู่ไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มมีพูดแง้มมาแบบว่าปิดเทอมนี้จะพาไปสมัครงานเซเวนแถวบ้านด้วยซึ่งทุกครั้งผมก็ปฏิเสธจนกระทั่งเมื่อวานผมก็กลับมาจากการสอบปลายภาคผมก็นอนอยู่เขาก็มาเคาะประตูเรียกให้ไปกินข้าวแล้วเขาจะพูดคุยเรื่องธุระบางอย่างแต่ด้วยผมเหนื่อยมากผมก็เลยไม่ได้ตอบแล้วนอนหลับไป พอวันต่อมามันเป็นวันสอบมอต้นผมก็ไม่ต้องไปผมก็อยู่บ้านอ่านหนังสือ พอผมออกจากห้องจะไปดื่มน้ำ ก็ไปเจอญาติเขาก็บอกว่าอย่าพึ่งเข้าห้อง แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวช่วงปิดเทอมจะพาผมไปสมัครงานเซเวน (ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือแม่) ทันทีที่ได้ยินผมก็ตอบปฏิเสธทันควันพร้อมตอบไปว่าผมไม่สนใจครับ ผมมีแผนสำหรับปิดเทอมแล้ว ผมจะอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้า เขาก็เหมือนจะโน้มน้าวให้ผมรับข้อเสนอให้ได้ผมก็บอกไปว่าชีวิตผมชีวิตวัยรุ่นมันมีแค่ครั้งเดียวผมก็อยากที่จะใช้ให้มันคุ้มค่าและกำหนดมันเอง แล้วผมก็รีบเดินเข้าห้องเลย แล้วก็ไปอ่านหนังสือต่อประมาณบ่ายสาม แม่ผมก็โทรมาไม่พูดพร่ำทำเพลงแม่ผมก็ว่าผมก็เลยว่าญาติโทรมาบอกเขาว่าผมจะไม่ไปทำงานตอนปิดเทอม (นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดซึ่งทุกครั้งผมจะตอบปฏิเสธเสมอ) ผมก็บอกเหตุผลไปเหมือนกับที่บอกญาติไป ไม่ทันไรเขาก็สวนว่าผมกลับมาว่า “เตรียมตัวห่าอะไรเป็นปี อย่ามาเก่งกับกู ถ้ายังทำงานหาเงินเองไม่ได้ ชีวิตมึฃก็ยังเป็นของกู กูสั่งอะไรก็ต้องทำ ทุกอย่างของเป็นของกูหมด ไม่มีสิทธิ รู้อะไรไหมไม่ต้องอ่านแล้วหนังสือกูจะไม่ส่งเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว” ผมก็ทะเลาะกับแม่ไปเรื่อยๆ จนผมรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วผมก็เลยตัดสายไป เลย ตอนนั้นความคิดของผมมันบอกไม่ถูกเลยว่าทำไมล่ะ ทำไมต้องบังคับด้วย ผมก็อยากใช้ชีวิตของผม แล้วเขาก็เคยพูดว่าโตแล้วทำงานหาเงินก็อย่าลืมส่งเงินมาให้แม่ด้วย ผมคิดว่ามันสมควรหรือกับสิ่งที่เขาว่าผม? นี้ไม่ใช้ว่าแม่ผมไม่มีเงินตั้งแต่ ม.1-5 ตอนนี้ผมเรียนห้องเรียนโครงการพิเศษ ค่าเทอมประมาณ 9,xxx บาท เขาสีกำลังแน่นอนแล้วอีกอย่างเขาอยู่กับสามีชาวต่างชาติ (อันนี้คือผมไม่ได้จะบอกว่าแม่ผมกับสามีชาวต่างชาติรวยหรือมีเงินเยอะนะครับ แต่ก็มีเงินพอปกติ) เขามีกำลังที่จะซัพพอร์ตผมอยู่แล้ว หรือเขาแน่ใจครับว่าสามีของเขาจะไม่ทะเลาะกับเขาแล้วหนีเขากลับประเทศ ถึงกล้าที่จะว่าผมแล้วมาบงการชีวิตผมขนาดนี้ สุดท้ายนี้ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาที่จะว่ากล่าวให้ร้ายฝ่ายใดแต่เป็นการตั้งคำถามของผมว่าสมควรแล้วหรือไม่? แล้วผมจะแก้ปัญหานี้อย่างไร? เพราะตอนนี้ผมก็มืดแปดด้านแล้ว
ปัญหาครอบครัวที่ยืดเยื้อ