JJNY : 5in1 “โรม”สงสัย“ทักษิณ”ป่วย│ก้าวไกลรับปาก ช่วยที่ดินทำกิน│อ่านเกมการเมือง│ลำน้ำมูลแห้ง│IQ ไทยตามหลังพม่า-กัมพูชา

“โรม” สงสัยไหน “ทักษิณ” ป่วยหนัก ออก รพ.แค่ใส่เฝือก
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_678487/
 
 
“โรม” สงสัย “ทักษิณ” ป่วยหนัก แต่ออก รพ.แค่ใส่เฝือก-ดามคอ จับตาหลังจากนี้ฟื้นตัวเร็วไหม เตรียมขุดข้อมูลหน่วยงานใดบ้างมีเอี่ยวช่วยเหลือ
 
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากโรงพยาบาล ว่า สังคมรับรู้มาโดยตลอด ผ่านการชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์ และรัฐบาล ว่านายทักษิณป่วยมาก ซึ่งเป็นระดับที่เรือนจำ หรือโรงพยาบาลในเรือนจำไม่สามารถให้การดูแลได้ เลยต้องไปใช้โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตนต้องบอกว่า
 
ปัญหาที่ไปรักษาตัวข้างนอก กับการใช้โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ถ้าใครติดตามปัญหานักโทษคนอื่นๆ จะพบว่ามีน้อยมาก ที่จะได้รับการรักษาตัวข้างนอก คนสุดท้ายที่เรานึกถึงก็จะเป็นอาก๋ง ที่สุดท้ายต้องเสียชีวิต ต้องบอกว่ามีอาการร้ายแรงในเรือนจำ และไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนกับนายทักษิณ ถ้าเรามองในกรณีนี้
 
สุดท้ายการที่คุณทักษิณมีภาพแค่เพียงใส่เฝือก มีภาพแค่เพียงเหมือนกับคอซ้น ภาพเหล่านี้ที่ออกมา มันทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ของการรักษาตัวของนายทักษิณ ซึ่งความสงสัยแบบนี้ มันทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลายความน่าเชื่อถือ ของเรือนจำ ของกระบวนการยุติธรรม” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ถ้านายทักษิณสามารถทำแบบนี้ได้ ต่อไปก็จะมีคนขอในลักษณะแบบนี้ ไม่ต้องติดคุกแม้แต่นาทีเดียวเพื่อที่จะไปอยู่ข้างนอก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการไปอยู่ข้างนอกจะมีการปฏิบัติอย่างใด อย่าง หนึ่ง เพิ่มเติมอีกหรือไม่ หลายคนไม่ได้ตั้งข้อสังเกตแค่การใส่เฝือก หรือดามคอเท่านั้น หลายคนก็ตั้ง ข้อสังเกตว่า มีการดูแลปรนนิบัติเป็นอย่างดี แม้กระทั่งการตัดผม
 
ทำให้คนในสังคมเกิดความรู้สึกว่า การที่นายทักษิณไปรักษาตัว เอาเข้าจริงกลายเป็นสิทธิพิเศษ สิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้กัน กระบวนการยุติธรรมก็ถูกทำลายลง ตนเข้าใจว่าในอดีตมีแง่มุมหลายอย่าง ที่นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกระบวนการยุติธรรม แต่การใช้วิธีการเพื่อสร้างอภิสิทธิ์บางอย่างให้กับตัวเอง มันไม่ใช่การพิสูจน์ และยิ่งทำลายกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งทำให้วันข้างหน้า สังคมอาจจะตั้งคำถามได้ว่า ตกลงประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีกี่คน

ซึ่งคงต้องดูต่อไป ว่าหลังจากกลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว อาจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น จนสามารถทำหน้าที่บทบาททางการเมืองได้หรือไม่ เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีแนวทางที่จะให้ความแตกต่าง และติดตามเรื่องนี้อย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า โดยจุดยืนส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการบังคับตัดผม แต่ทุกคนควรได้รับความเป็นธรรมเสมอกัน วันนี้เราก็ไม่ได้เห็นข้อมูลเรือนจำว่า
  
มีนักโทษได้สิทธิ์เหมือนนายทักษิณอย่างไร ทำให้เกิดความกังวลว่าสุดท้ายระเบียบเรือนจำ ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ตนเข้าไปในเรือนจำก็เคยเห็น และพรรคก้าวไกลก็เดินหน้าในการตรวจสอบ แต่ก็ยอมรับว่าการแสวงหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็จะพยายามให้ได้มากที่สุด ให้ได้ข้อมูลว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ ตนคิดว่าต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับคนอื่น ที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม
 


ส.ส.ก้าวไกล รับปาก ช่วยแก้ปัญหา ที่ดินทำกินในชุมชน ทับซ้อนอุทยาน-เขตทหาร
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8101826

ส.ส.ก้าวไกล รับปาก ช่วยแก้ปัญหา ที่ดินทำกินในชุมชน ทับซ้อนอุทยาน-เขตทหาร ชาวบ้านหวั่น เป็นแพะรับเคราะห์ ปัญหาวิกฤตหมอกควัน
 
วันที่ 18 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3,4 และ 5 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง กว่า 100 คน รวมตัวกันยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาใน ต.บ้านดง โดย นายชลธานี เชื้อน้อย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 จ.ลำปาง พรรคก้าวไกล เดินทางมารับเรื่องร้องเรียนด้วยตัวเอง ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านดง
 
นายสมชาติ รักษ์สองพลู ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ที่ 5 กล่าวว่า ชาวบ้านทำมาหากินในป่าตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย อยู่มาก่อนค่ายทหารจะมาขอเช่าพื้นที่จากกรมป่าไม้เหมือนทุกวันนี้ โดยไม่ได้เอกสารสิทธิสักที และชาวบ้านเรียกร้องให้ทหารกันพื้นที่ทำกินของชาวบ้านออกจากเขตทหารก่อน

ในหมู่บ้านผมเองมีเงินกองทุนพลังงานไฟฟ้า เราก็อยากได้ถนน ฝายกั้นน้ำ บ่อน้ำบาดาล แต่ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะพื้นที่ติดเขตป่า ในขณะที่ทหารเองก็ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้โดยมีสัญญาว่าสามารถใช้พื้นที่นี้ไปจนกว่าจะไม่จำเป็น
 
หลายปีที่ผ่านมาชาวบ้านยื่นหนังสือให้กับทุกรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินแต่เรื่องก็เงียบไป เมื่อนายชลธานี หรือ ส.ส.เพียว อยู่ในคณะกรรมาธิการการทหาร ส.ส. จึงติดต่อประสานขอให้ชาวบ้านได้มายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือในเรื่องเดิมอีกครั้ง” นายสมชาติ กล่าว
 
ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ที่ 5 กล่าวอีกว่า ข้อพิพาทในที่ดินทำกินของชนเผ่ากะเหรี่ยง อ.แม่เมาะ ทำไร่หมุนเวียนกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ยังได้รับผลกระทบจากอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท (เตรียมการ) จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ
 
แต่เลื่อนเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถออกไปทำมาหากินในป่าได้อย่างสบายใจเลย เพราะติดทั้งพื้นที่ป่าและเขตทหาร
 
สถานการณ์หมอกควันไฟป่าใน จ.ลำปาง ทำให้หน่วยงานในจังหวัดจับตาการเกิด Hot Spot ตามพื้นที่ป่าห้ามการเผาทุกชนิดโดยไม่มีห้วงเวลา ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปพื้นที่อุทยาน จากระเบียบดังกล่าวผมกลัวว่าแล้งนี้หน่วยงานรัฐจะเข้าไปจับชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น
 
ทั้งๆที่ชาวบ้านแค่ออกไปหาของป่ามากินเท่านั้น ชาวบ้านก็หวาดระแวงกลัวถูกจับ แล้วหากมีไฟป่าเกิดขึ้นใครจะเข้าไปช่วยดับไฟ เพราะทุกครั้งที่เกิดไฟป่าก็มีแต่ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟ” นายสมชาติ กล่าว
 
ด้าน นายชลธานี กล่าวว่า พื้นที่ทับซ้อนธุรกิจต่างๆของกองทัพที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จะให้ดันกลับมาเป็นของชาวบ้าน ในกรณีค่ายประตูผานี้เข้ามาใช้พื้นที่ของกรมป่าไม้ในปี 2511
 
พื้นที่ทับซ้อนระหว่างชาวบ้านกับทหาร ตรงไหนถ้าทหารไม่ได้ใช้แล้วจะดันให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ มีประเด็นหลักๆคือ
1.ทหารกันพื้นที่ของชาวบ้านซึ่งเบื้องต้นจะเน้นที่อยู่อาศัยก่อน
2.หารือกับกรมป่าไม้กรณีทำสัญญาเช่ากับทหาร ระยะเวลาจนกว่าจะไม่จำเป็น ตรงนี้แก้ไขได้หรือไม่ ส่วนไหนใช้ ส่วนไหนคืนให้ชาวบ้านได้ในส่วนที่อยู่อาศัยไม่น่าเป็นปัญหาหนัก ทหารก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไรเลยแค่ดันพื้นที่ไม่ได้ใช้ไปให้ชาวบ้าน” นายชลธานี กล่าว
 
ส.ส.เพียว กล่าวด้วยว่า ภายในปีนี้จะผลักดันกฎหมายการขอใช้พื้นที่จากเดิมต้องขอทำเรื่องขออนุญาตอธิบดีกรมป่าไม้ ให้เปลี่ยนเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดเพราะอยู่ใกล้ชิดในพื้นที่ คาดว่าจะบังคับใช้ได้ในปี 2568 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็ต้องภาวนาให้ จ.ลำปาง คนต่อไปเป็นผู้มีความเมตตากับชาวบ้าน
 
นอกจากยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชาวบ้านยังได้สะท้อนปัญหาในท้องที่ให้ ส.ส.เพียว ทราบด้วยเช่น ขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคและการเกษตร , ชาวบ้านต้องการทำฝายกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรแต่ก็ทำไม่ได้เพราะติดพื้นที่ป่าไม้
 
ปัญหายาเสพติด ระยะหลังมีผู้เสพซึ่งอยู่ในอาการเมายาเป็นลูกหลานคนในหมู่บ้านอาละวาดทุกวัน ขึ้นบ้านคนอื่นไปเรื่อย กลัวจะเป็นอันตรายต่อคนในชุมชน
 


อ่านเกมการเมือง หลัง “ทักษิณ” พักโทษ สภาวะ 3 นายก!
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/217407

อ่านเกมการเมือง หลัง “ทักษิณ” พักโทษ สภาวะ 3 นายก!
  
นักวิชาการอ่านเกมการเมือง หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการพักโทษ เชื่อเพื่อไทยทำงานง่ายขึ้น – แต่ต้องตกอยู่ในสภาวะ 3 นายกฯ
 
จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษและเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมานั้น
 
ซึ่งหลังจากนายทักษิณ ได้รับการพักโทษ ทำให้นักวิชาการหลายคนมีการออกมาวิเคราะห์ทิศทางการเมืองหลังจากนี้ โดยหนึ่งในนั้นคือ รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ซึ่งประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ ว่า เมื่อ อดีตนายกฯทักษิณ ได้รับการพักโทษ ออกจากโรงพยาบาล กลับไปพักที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จะยิ่งเป็นการเสริมความแข็งแรงให้กับพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

และมองว่าหลังจากนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะขับเคลื่อนนโยบายใด ก็จะทำง่ายขึ้น เพราะจะมีนายทักษิณคอยช่วยคิด  และคอยอำนวยความสะดวกในการทำงาน
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า แบบนี้ จะกลายเป็นว่า มีนายกรัฐมนตรี ถึง 2 คนหรือไม่ เพราะมีนายทักษิณ มาคอยช่วยคิดงานให้นายเศรษฐา ซึ่ง รศ.ดร.ธนพร มองว่า ตอนนี้ ประเทศไทย มีนายกฯ ถึง 3 คน คือ นายเศรษฐา, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นายทักษิณ ชินวัตร เพราะวันนี้นายเศรษฐา ยังตอบผู้สื่อข่าวไม่ชัดเลย ว่ามีนายกฯ กี่คน ตอบแค่เพียงว่า เป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญ แต่นายเศรษฐา ไม่ได้ตอบว่า นายกฯ นอกรัฐธรรมนูญ มีใครอีกบ้าง
 
ส่วนประเด็นที่ปรากฎภาพของ นายทักษิณ ออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ ภาพที่ประชาชน ได้เห็นใส่เฝือกที่แขน และเฝือกอ่อนที่คอ เป็นอาการป่วยที่เกิดขึ้นระหว่างรักษาตัว หรือถูกจัดฉากขึ้นมา ให้ดูเหมือนป่วย เพราะก่อนหน้านี้ ไม่มีใครทราบข่าวว่า นายทักษิณ แขนหัก หรือ กระดูกคอ เป็นอะไรนั้น
 
รศ.ดร.ธนพร มองว่า การที่มีภาพนายทักษิณ ดามเฝือก ใส่เสื้อสีมงคล มีการกำหนดเวลาฤกษ์ออกจาก รพ. เหล่านี้ เป็นการที่พรรคเพื่อไทย ต้องการสร้างสีสัน เพื่อต้อนรับนายใหญ่กลับบ้าน อย่างเป็นทางการ และถือเป็นการช่วงชิงพื้นที่สื่อ ให้นายทักษิณ มีพื้นที่ในสื่อในช่วงตลอดสัปดาห์นี้
 
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ธนพร ย้ำว่า การออกมาของ นายทักษิณ จะทำให้ฝากฝั่งรัฐบาล ทำงานง่ายขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่ นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีเท่านั้น  แต่อุ๊งอิ๊งค์เอง ก็ทำงานได้คล่องขึ้น เนื่องจากนี่คือพี่ใหญ่ตัวจริงที่ไม่มีใครกล้าขวาง



สัญญาณภัยแล้ง ลำน้ำมูลแห้งขอด สันดอนดินทรายโผล่เห็นชัด หวั่นขาดน้ำอุปโภค-บริโภค
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8101668

นครราชสีมา ส่งสัญญาณภัยแล้งต้นปี หลังปริมาณน้ำในลำน้ำมูลแห้งขอด จนสันดอนดิน เนินทรายโผล่ขึ้นมากลางแม่น้ำ ชาวบ้านหวั่นขาดแคลนน้ำ อุปโภค-บริโภค
 
18 ก.พ. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำลำน้ำมูล ตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ปริมาณน้ำแห้งขอดจนสันดอนดินทรายโผล่ขึ้นมา
 
ซึ่งลำน้ำมูลบริเวณจุดนี้ เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของเกษตรกรและชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ต้องใช้น้ำอุปโภค บริโภค และใช้ทำการเกษตร
 
ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมูลจุดนี้ได้เอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำน้ำมูล ในช่วงฤดูน้ำหลาก แต่สถานการณ์น้ำในช่วงนี้ กลับพบว่า ปริมาณน้ำมูลจุดนี้แห้งขอด ทำให้แพร้านกาแฟ และเรือท้องแบนของชาวบ้านต้องเกยตื้น เพราะปริมาณน้ำแห้งลงอย่างรวดเร็ว
 
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวั่นวิตก เกรงว่าปริมาณน้ำจะแห้งขอดจนหมด เพราะยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้งเลย หากสถานการณ์น้ำมูลยังลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ คาดว่า ในช่วงฤดูแล้งที่จะถึงนี้ ชาวบ้านอาจจะได้รับความเดือดร้อน เสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และใช้ในการเกษตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่