เมื่อทุนนิยมแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อน ผู้คนจึงเริ่มโหยหาระบบสังคมนิยมเพื่อมาเติมเต็มทุนนิยม
ระบบทุนนิยมที่สร้างจากหลักการใครมือยาวสาวได้สาวเอา การเป็นเจ้าของโดยเอกชนในทุกอย่าง พยายามไม่ให้รัฐเป็นเจ้าของทรัพย์สินในระบบเศรษฐกิจ ถูกมองว่าเป็นระบบที่ถูกต้อง หลังจากการล่มสลายของระบบสังคมนิยม ที่มีแนวคิดว่ารัฐควรเป็นเจ้าของทุกอย่าง
ในอดีตนั้น เราพบปัญหาระบบสังคมนิยมคือ
- ผู้คนไม่พยายามเต็มที่ เพราะขยันไปก็เป็นของรัฐ ยังไงก็ได้เงินเดือน
- การใช้ทรัพยากรณ์อย่างไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง ก่อให้เกิดการฟุ่มเฟือย ใช้มากเกินไป เพราะทุกอย่างเป็นของรัฐ รวมถึงทรัพยากรณ์
เช่น น้ำ ไฟฟ้า ถ่านหิน น้ำมัน
- การขาดทุนอย่างต่อเนื่องของรัฐวิสาหกิจ เพราะเหตุผลขั้นต้น
- การที่แต่ละบุคคลไม่ลงทุนกับอนาคต เพราะไม่มีความเป็นเจ้าของ
- การเป็นเจ้าของทรัพยากรณ์ที่ไม่เท่ากัน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐย่อมอยู่ใกล้ทรัพยากรณ์ทั้งหมดมากกว่า และเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ยิ่งมีอำนาจเหนือทรัพยากรณ์ของทั้งประเทศ
ก่อให้เกิดปัญหา ความยากจนไปทั่ว จนอย่างเท่าเทียม
เมื่อทุนนิยมถูกมองว่าเป็นระบบที่ถูกต้อง แต่ปัญหาที่ตอนนี้เห็นชัดแล้วคือ
- คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนลง ความไม่เท่าเทียมราวฟ้ากับเหว
- คนรวยนำเงินไปซื้อตำแหน่งทางการเมือง ก่อให้เกิดชนชั้นนำ Elite แบบใหม่ที่ครอบครองทั้งอำนาจเงินและอำนาจรัฐ คล้ายกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของระบบสังคมนิยม
- ไม่สามารถทำตามแนวคิดทุนนิยม100%ได้ เพราะวิสาหกิจบางอย่างมีลักษณะผูกขาดโดยรัฐตามธรรมชาติเช่นรางรถไฟ ถนน สายไฟฟ้า คลื่นความถี่
- ไม่สามารถทำตามแนวคิดทุนนิยม100%ได้ เพราะวิสาหกิจบางอย่าง ต้องช่วยเหลือคนจนให้อยู่รอด โดยได้รับการสนับสนุนจากอำนาจรัฐ เช่น30บาทรักษาทุกโรค หรือ ประกันสังคม ซึ่งเป็นแนวคิดของสังคมนิยม
- ไม่สามารถจัดการกับขยะได้ เพราะการจัดการขยะสามารถทำกำไรได้แค่เฉพาะบางส่วนเช่นโลหะ แต่ในหลายกรณีเช่นพลาสติก ก็ยังต้องใช้ระบบเผาทิ้ง
- มีการพิมพ์เงินมาใช้ โดยการกระจายผลประโยชน์จากการพิมพ์เงินใหม่นั้น กระจายเฉพาะบางชนชั้นของสังคมขึ้นไป ก่อให้เกิดเงินเฟ้อซึ่งทำร้ายชนชั้นล่างของสังคม
ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้คือ การที่เงินเฟ้อรุนแรง ทำลายความมั่งคั่งของคนส่วนใหญ่
อนาคตการมาถึงของหุ่นยนต์และระบบทุนนิยม/สังคมนิยม
ลองคิดถึงสังคมที่มนุษย์ไม่ต้องทำงาน เพราะการเกษตร, เหมืองแร่, ก่อสร้าง ,อุตสาหกรรมการผลิต ใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมด
อนาคตแบบนี้ ที่จริง ควรจะเป็นยุคศรีอารียะ ที่ทุกคนสบาย ไม่ต้องทำงาน แต่ระบบทุนนิยมกลับบอกว่า พวกคนที่ไม่ทำงานจะไม่ได้รายได้ และไม่สามารถมีเหตุผลในการคงอยู่ คุณคิดว่าเรื่องนี้มันตลก แปลกประหลาดไหมครับ การกับที่อาหารล้นเหลือ สิ่งของสินค้าล้นเหลือ แต่ผู้คนกลับอดตายเพียงเพราะเขาไม่ได้มีส่วนในการผลิตอาหาร สิ่งของสินค้า ดังนั้น เมื่อหุ่นยนต์มาเปลี่ยนโลก ระบบเศรษฐกิจของสังคมมนุษย์ก็จะต้องเปลี่ยนไป ซึ่งเจ้าของทรัพยากรณ์ก็จะมีแค่ไม่กี่กลุ่ม และทุกคนที่เหลือก็ต้องรับเงินจากคนเหล่านั้นเพื่อมีชีวิต ดังแนวคิด Universal Basic Income ที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเคยพูด แล้วนั่น จะต่างจากระบบสังคมนิยมอย่างไร ดังนั้น บางทีที่เราคิดว่าระบบสังคมนิยมมันตายไปแล้ว มันอาจจะฟื้นคืนชีพ
สังคมสูงวัยและระบบทุนนิยม/สังคมนิยม
ลองคิดเป็นตัวอย่างเชิงแนวคิด คนหนุ่มคนนึงที่กำลังไฟแรง ทำงานรายได้ดี ก็มักจะชมชอบระบบทุนนิยม ใครมือยาวสาวได้สาวเอา แต่การแข่งขันในองค์กร การที่ผู้หญิงมีการศึกษาสูงขึ้น ทำให้การมีลูกมีน้อยลงเรื่อยๆจนถึงกระทั่งไม่มีลูกเลยสักคน แต่เมื่อคนเหล่านี้แก่ และกลายเป็นผู้สูงวัย พวกเขากลับได้ผลประโยชน์จากองค์กรที่สร้างขึ้นตามแนวคิดสังคมนิยมเช่น 30บาทรักษาทุกโรค เบี้ยผู้สูงอายุ พวกเขาถูกลงโทษจากระบบทุนนิยมที่มีอัตตาเงินเฟ้อสูง ดังนั้นอาจจะเห็นการเรียกร้องเบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป เนื่องจากเงินเฟ้อ ซึ่งเงินที่รัฐบาลจะนำมาแจกนั้น ก็เป็นเงินที่คนหนุ่มสาวในอนาคตจะเป็นผู้เสียภาษี กล่าวคือ เงินของลูกของคนที่มีลูก ณ เวลานี้นั่นเอง การที่รัฐทำการสูบทรัพยากรณ์จากคนกลุ่มนึงไปแจกคนอีกกลุ่มนึง ก็คงชัดเจนว่าระบบนี้เป็นสังคมนิยม
สุดท้าย ผู้เขียนเชื่อว่ามนุษย์เราจะชื่นชมระบบสังคมนิยม หรือทุนนิยม ก็ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ ณ ตอนนั้นของแต่ละคนนั่นเอง ระบบสังคมนิยม100% อยู่ไม่ได้ ระบบทุนนิยมแท้100% มนุษย์เราก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน
เมื่อทุนนิยมแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อน ผู้คนจึงเริ่มโหยหาระบบสังคมนิยมเพื่อมาเติมเต็มทุนนิยม
ระบบทุนนิยมที่สร้างจากหลักการใครมือยาวสาวได้สาวเอา การเป็นเจ้าของโดยเอกชนในทุกอย่าง พยายามไม่ให้รัฐเป็นเจ้าของทรัพย์สินในระบบเศรษฐกิจ ถูกมองว่าเป็นระบบที่ถูกต้อง หลังจากการล่มสลายของระบบสังคมนิยม ที่มีแนวคิดว่ารัฐควรเป็นเจ้าของทุกอย่าง
ในอดีตนั้น เราพบปัญหาระบบสังคมนิยมคือ
- ผู้คนไม่พยายามเต็มที่ เพราะขยันไปก็เป็นของรัฐ ยังไงก็ได้เงินเดือน
- การใช้ทรัพยากรณ์อย่างไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง ก่อให้เกิดการฟุ่มเฟือย ใช้มากเกินไป เพราะทุกอย่างเป็นของรัฐ รวมถึงทรัพยากรณ์
เช่น น้ำ ไฟฟ้า ถ่านหิน น้ำมัน
- การขาดทุนอย่างต่อเนื่องของรัฐวิสาหกิจ เพราะเหตุผลขั้นต้น
- การที่แต่ละบุคคลไม่ลงทุนกับอนาคต เพราะไม่มีความเป็นเจ้าของ
- การเป็นเจ้าของทรัพยากรณ์ที่ไม่เท่ากัน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐย่อมอยู่ใกล้ทรัพยากรณ์ทั้งหมดมากกว่า และเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ยิ่งมีอำนาจเหนือทรัพยากรณ์ของทั้งประเทศ
ก่อให้เกิดปัญหา ความยากจนไปทั่ว จนอย่างเท่าเทียม
เมื่อทุนนิยมถูกมองว่าเป็นระบบที่ถูกต้อง แต่ปัญหาที่ตอนนี้เห็นชัดแล้วคือ
- คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนลง ความไม่เท่าเทียมราวฟ้ากับเหว
- คนรวยนำเงินไปซื้อตำแหน่งทางการเมือง ก่อให้เกิดชนชั้นนำ Elite แบบใหม่ที่ครอบครองทั้งอำนาจเงินและอำนาจรัฐ คล้ายกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของระบบสังคมนิยม
- ไม่สามารถทำตามแนวคิดทุนนิยม100%ได้ เพราะวิสาหกิจบางอย่างมีลักษณะผูกขาดโดยรัฐตามธรรมชาติเช่นรางรถไฟ ถนน สายไฟฟ้า คลื่นความถี่
- ไม่สามารถทำตามแนวคิดทุนนิยม100%ได้ เพราะวิสาหกิจบางอย่าง ต้องช่วยเหลือคนจนให้อยู่รอด โดยได้รับการสนับสนุนจากอำนาจรัฐ เช่น30บาทรักษาทุกโรค หรือ ประกันสังคม ซึ่งเป็นแนวคิดของสังคมนิยม
- ไม่สามารถจัดการกับขยะได้ เพราะการจัดการขยะสามารถทำกำไรได้แค่เฉพาะบางส่วนเช่นโลหะ แต่ในหลายกรณีเช่นพลาสติก ก็ยังต้องใช้ระบบเผาทิ้ง
- มีการพิมพ์เงินมาใช้ โดยการกระจายผลประโยชน์จากการพิมพ์เงินใหม่นั้น กระจายเฉพาะบางชนชั้นของสังคมขึ้นไป ก่อให้เกิดเงินเฟ้อซึ่งทำร้ายชนชั้นล่างของสังคม
ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้คือ การที่เงินเฟ้อรุนแรง ทำลายความมั่งคั่งของคนส่วนใหญ่
อนาคตการมาถึงของหุ่นยนต์และระบบทุนนิยม/สังคมนิยม
ลองคิดถึงสังคมที่มนุษย์ไม่ต้องทำงาน เพราะการเกษตร, เหมืองแร่, ก่อสร้าง ,อุตสาหกรรมการผลิต ใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมด
อนาคตแบบนี้ ที่จริง ควรจะเป็นยุคศรีอารียะ ที่ทุกคนสบาย ไม่ต้องทำงาน แต่ระบบทุนนิยมกลับบอกว่า พวกคนที่ไม่ทำงานจะไม่ได้รายได้ และไม่สามารถมีเหตุผลในการคงอยู่ คุณคิดว่าเรื่องนี้มันตลก แปลกประหลาดไหมครับ การกับที่อาหารล้นเหลือ สิ่งของสินค้าล้นเหลือ แต่ผู้คนกลับอดตายเพียงเพราะเขาไม่ได้มีส่วนในการผลิตอาหาร สิ่งของสินค้า ดังนั้น เมื่อหุ่นยนต์มาเปลี่ยนโลก ระบบเศรษฐกิจของสังคมมนุษย์ก็จะต้องเปลี่ยนไป ซึ่งเจ้าของทรัพยากรณ์ก็จะมีแค่ไม่กี่กลุ่ม และทุกคนที่เหลือก็ต้องรับเงินจากคนเหล่านั้นเพื่อมีชีวิต ดังแนวคิด Universal Basic Income ที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเคยพูด แล้วนั่น จะต่างจากระบบสังคมนิยมอย่างไร ดังนั้น บางทีที่เราคิดว่าระบบสังคมนิยมมันตายไปแล้ว มันอาจจะฟื้นคืนชีพ
สังคมสูงวัยและระบบทุนนิยม/สังคมนิยม
ลองคิดเป็นตัวอย่างเชิงแนวคิด คนหนุ่มคนนึงที่กำลังไฟแรง ทำงานรายได้ดี ก็มักจะชมชอบระบบทุนนิยม ใครมือยาวสาวได้สาวเอา แต่การแข่งขันในองค์กร การที่ผู้หญิงมีการศึกษาสูงขึ้น ทำให้การมีลูกมีน้อยลงเรื่อยๆจนถึงกระทั่งไม่มีลูกเลยสักคน แต่เมื่อคนเหล่านี้แก่ และกลายเป็นผู้สูงวัย พวกเขากลับได้ผลประโยชน์จากองค์กรที่สร้างขึ้นตามแนวคิดสังคมนิยมเช่น 30บาทรักษาทุกโรค เบี้ยผู้สูงอายุ พวกเขาถูกลงโทษจากระบบทุนนิยมที่มีอัตตาเงินเฟ้อสูง ดังนั้นอาจจะเห็นการเรียกร้องเบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป เนื่องจากเงินเฟ้อ ซึ่งเงินที่รัฐบาลจะนำมาแจกนั้น ก็เป็นเงินที่คนหนุ่มสาวในอนาคตจะเป็นผู้เสียภาษี กล่าวคือ เงินของลูกของคนที่มีลูก ณ เวลานี้นั่นเอง การที่รัฐทำการสูบทรัพยากรณ์จากคนกลุ่มนึงไปแจกคนอีกกลุ่มนึง ก็คงชัดเจนว่าระบบนี้เป็นสังคมนิยม
สุดท้าย ผู้เขียนเชื่อว่ามนุษย์เราจะชื่นชมระบบสังคมนิยม หรือทุนนิยม ก็ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ ณ ตอนนั้นของแต่ละคนนั่นเอง ระบบสังคมนิยม100% อยู่ไม่ได้ ระบบทุนนิยมแท้100% มนุษย์เราก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน