15 กุมภาพันธ์ 2567
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว ระบุว่า ตอนนี้พบปัญหาอย่างน้อย 3 เรื่อง จากกรณีสินค้าจีน ตีตลาดไทย จนสร้างความกังวลต่อผู้ผลิตไทยที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ คือ
1. มีการสำแดงเท็จ ผ่าน Free Trade Zone ให้ต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อตั้งใจเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. มีสินค้าราคาถูกโดยเฉพาะจากประเทศจีนทุ่มตลาดในไทยจากสินค้าออนไลน์และการเข้ามาใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone ที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ
3. มีการลักลอบนำสินค้าผ่านด่านศุลกากรโดยการสำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
สามข้อนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้ค้ารายย่อยไทย ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ เนื่องจากสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าเพราะได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งยังเป็นสินค้าคุณภาพต่ำขาดการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ และยังมีปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนเรื่องการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท โดยต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า การยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มูลค่าดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งมองว่าเป็นตัวเลขที่ปรับแก้ไขได้ เพื่อหากรอบและตัวเลขที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขประมวลรัษฎากร ในการยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้าตามกฎหมายศุลกากร เพื่อให้กรมสรรพากรสามารถดำเนินการจัดเก็บ VAT นำเข้าในทุกรายการสินค้าได้ ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังหารือกันเกี่ยวกับกลไกที่จะดำเนินการ โดยในหลักการที่มอบนโยบายไว้ คือ ไม่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดก็ตาม แต่จะไม่สามารถปลอดภาษี VAT ได้อีกต่อไป
"
เราต้องมาคุยกันว่า กลไกที่จะดำเนินการเพื่อให้การเก็บภาษี VAT เป็นไปได้อย่างครบถ้วน และเกิดความเสมอภาคกับเอกชนไทย ที่ผลิตและขายในประเทศ ผมได้มอบแนวความคิดไปแล้ว เชื่อว่าทางคลังจะเร่งดำเนินการ ไม่นาน น่าจะมีคำตอบให้ เพราะมันเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม ระหว่างเอกชนไทยที่ผลิตสินค้าและขายในประเทศ กับการนำเข้าสินค้า" นายจุลพันธ์กล่าว
โดยที่ผ่านมา เมื่อสินค้ามีราคาต่ำกว่าเกณฑ์ จะไม่ถูกเก็บภาษี VAT แต่ในหลักความเป็นจริงแล้ว ควรจะต้องเก็บ ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดก็ตามจะไม่สามารถปลอด VAT ได้อีกต่อไป ส่วนรายละเอียดอยากให้รอความชัดเจน ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาอยู่ว่ากลไกควรจะดำเนินการอย่างไร เข้าใจว่าในทางปฏิบัติ คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตู้สินค้าหนึ่งมีสินค้าไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นรายการ ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเสมอภาคมากที่สุด ถ้าเหลื่อมล้ำตรงไหนจะมีการปรับแก้ เพื่อให้อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันที่เท่าเทียม ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจีนไม่น่าจะมีการตอบโต้อะไร เพราะแนวทางที่กำลังดำเนินการเป็นไปตามกรอบข้อตกลง ไม่ได้มีการทำนอกกรอบข้อตกลงระหว่างประเทศ
แหล่งข่าวปัจจุบัน
สยามรัฐออนไลน์
https://siamrath.co.th/n/514698
‘พาณิชย์’ชง‘คลัง’แก้ปมสินค้าจีน รื้อเกณฑ์ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1113068
‘เศรษฐา’ สั่ง ‘คลัง’ อุดช่องโหว่ สินค้าจีน ตีตลาดไทย พบเลี่ยงภาษี สำแดงเท็จ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1113324
แหล่งข่าวเก่า
ปี 2561 ชงเก็บภาษี E-commerce เก็บ VAT ของนำเข้าตั้งแต่บาทแรก
https://www.thaipbs.or.th/news/content/270801 
คลังเล็งเก็บ VAT สินค้านำเข้าทางไปรษณีย์จาก ตปท.ทุกชิ้น สร้างโอกาสแข่งขันเท่าเทียม 15 ก.พ. 67
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว ระบุว่า ตอนนี้พบปัญหาอย่างน้อย 3 เรื่อง จากกรณีสินค้าจีน ตีตลาดไทย จนสร้างความกังวลต่อผู้ผลิตไทยที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ คือ
1. มีการสำแดงเท็จ ผ่าน Free Trade Zone ให้ต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อตั้งใจเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. มีสินค้าราคาถูกโดยเฉพาะจากประเทศจีนทุ่มตลาดในไทยจากสินค้าออนไลน์และการเข้ามาใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone ที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ
3. มีการลักลอบนำสินค้าผ่านด่านศุลกากรโดยการสำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
สามข้อนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้ค้ารายย่อยไทย ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ เนื่องจากสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าเพราะได้รับการยกเว้นภาษี ทั้งยังเป็นสินค้าคุณภาพต่ำขาดการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ และยังมีปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนเรื่องการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท โดยต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า การยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มูลค่าดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งมองว่าเป็นตัวเลขที่ปรับแก้ไขได้ เพื่อหากรอบและตัวเลขที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขประมวลรัษฎากร ในการยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้าตามกฎหมายศุลกากร เพื่อให้กรมสรรพากรสามารถดำเนินการจัดเก็บ VAT นำเข้าในทุกรายการสินค้าได้ ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังหารือกันเกี่ยวกับกลไกที่จะดำเนินการ โดยในหลักการที่มอบนโยบายไว้ คือ ไม่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดก็ตาม แต่จะไม่สามารถปลอดภาษี VAT ได้อีกต่อไป
"เราต้องมาคุยกันว่า กลไกที่จะดำเนินการเพื่อให้การเก็บภาษี VAT เป็นไปได้อย่างครบถ้วน และเกิดความเสมอภาคกับเอกชนไทย ที่ผลิตและขายในประเทศ ผมได้มอบแนวความคิดไปแล้ว เชื่อว่าทางคลังจะเร่งดำเนินการ ไม่นาน น่าจะมีคำตอบให้ เพราะมันเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม ระหว่างเอกชนไทยที่ผลิตสินค้าและขายในประเทศ กับการนำเข้าสินค้า" นายจุลพันธ์กล่าว
โดยที่ผ่านมา เมื่อสินค้ามีราคาต่ำกว่าเกณฑ์ จะไม่ถูกเก็บภาษี VAT แต่ในหลักความเป็นจริงแล้ว ควรจะต้องเก็บ ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดก็ตามจะไม่สามารถปลอด VAT ได้อีกต่อไป ส่วนรายละเอียดอยากให้รอความชัดเจน ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาอยู่ว่ากลไกควรจะดำเนินการอย่างไร เข้าใจว่าในทางปฏิบัติ คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตู้สินค้าหนึ่งมีสินค้าไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นรายการ ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเสมอภาคมากที่สุด ถ้าเหลื่อมล้ำตรงไหนจะมีการปรับแก้ เพื่อให้อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันที่เท่าเทียม ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจีนไม่น่าจะมีการตอบโต้อะไร เพราะแนวทางที่กำลังดำเนินการเป็นไปตามกรอบข้อตกลง ไม่ได้มีการทำนอกกรอบข้อตกลงระหว่างประเทศ
แหล่งข่าวปัจจุบัน
สยามรัฐออนไลน์
https://siamrath.co.th/n/514698
‘พาณิชย์’ชง‘คลัง’แก้ปมสินค้าจีน รื้อเกณฑ์ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1113068
‘เศรษฐา’ สั่ง ‘คลัง’ อุดช่องโหว่ สินค้าจีน ตีตลาดไทย พบเลี่ยงภาษี สำแดงเท็จ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1113324
แหล่งข่าวเก่า
ปี 2561 ชงเก็บภาษี E-commerce เก็บ VAT ของนำเข้าตั้งแต่บาทแรก
https://www.thaipbs.or.th/news/content/270801