เหนื่อยใจมาก ไม่รู้จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ มีแฟนก็เหมือนไม่มี

ที่บ้านหนูมีพี่น้อง5คน พ่อแม่เดียวกัน4คน ช.2  ญ.2   และพี่สาวคนละพ่อ1คน แต่งงานแล้วไปอยู่กับสามี หนูกับน้องชายเป็นคนทุดท้อง ที่บ้านหนูขายของชำสดและแห้งแม่หนูสอนทุกอย่างที่แม่ทำขาย แม่บอกว่า ถ้าวันหนึ่งแม่ไม่อยู่แล้วหนูจะได้ทำอะไรดว้ยตัวเองเป็นค่ะ หนูมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่มาวันหนึ่งแม่ของหนูได้ป่วยเป็นมะเร็งประมาณ8ปีกว่า ก็เสียค่ะ
ตั้งแต่วันนั้นมา ชีวิตครอบครัวหนูได้เปลี่ยนไปค่ะ จากที่มีพ่อก็เหมือนไม่มี ทุกครั้งที่หนูเลิกเรียนมาไม่เห็นพ่ออยู่ที่บ้านเลย ตอนนนั้นพี่น้องหนู4คนยังเรียนอยู่ค่ะ อยู่มาวันหนึ่งทั้งพี่สาวและพี่ชายได้หยุดเรียนไปเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม จนต่อมาหนูกับน้องชายก็เช่นกันค่ะ  ต่อมาพี่สาวหนูได้ออกไปทำงานในเมืองหลายปีก็มีครอบครัว  และพี่ชายก็มีโอกาสได้ไปเรียนต่อมีงานทำมีครอบครัวเอาน้องชายไปทำงานดว้ยค่ะ  ตอนนี้ที่บ้าน ยังมีพ่อ บ้านพี่สาวอยู่ใกล้ไปมาดูแลกันค่ะ

ตัวหนูเองตอนนั้นอายุ13-14ปี เข้าไปในเมืองได้ทำงานร้านหมูกระทะเปลี่ยนทำงานอื่นๆอีกหลายอย่าง จนหนูได้คบหากับแฟน ประมาณ4ปีได้เลิกกัน   หนูไปต่อ กทม ไปเรียนเสริมสวย จนหนูได้ทำงานเป็นหนักงานประมาณ3ปีจนได้รู้จักแฟนคนปัจจุบันจากออนไลน์ คบหากัน7ปีไปหากันบ้าง ก็มีคบๆเลิกๆกันบ้าง เราอยู่คนละที่กันค่ะ จนล่าสุด จะเลิกตัดขาดจริงๆหนูตรวจเจอว่าท้อง ได้กลับมาคบกัน พูดคุยกับผู้ใหญ่ผูกแขนตามประเพณี ค่าสินสอดตอนนี้เหลือ1แสนบาทค่ะ   ในช่วงเวลานั้นหนูยังทำงานที่เดิมอยู่  เขาเองก็ทำงาน ช่วงนั้นงานดีมากๆจนเขาบอกให้หนูหยุดทำงานตอนนั้นท้องได้ประมาณเดือนกว่าๆ หนูเลือกที่จะทำงานต่อเรื่อยๆเท่าที่ไหวประมาณ5-6เดือนค่อยจะหยุดคะ จากนั้นก็คุยกันเรื่องที่จะย้ายหอ้ง ตกลงให้หนูย้ายไปที่หอ้งของเขา เวลาไปทำงานเขาจะเป็นคนไปรับไปส่งเอง หนูก็โอเค  หลังจากนั้นก็เจอโควิดรอบ1-2 ทำให้งานของเขาต้องหยุด ไปหลายเดือนเขาไม่ได้ทำงาน กลายเป็นคนตกงานไปเลยค่ะ  ตอนนั้นหนูคิดได้แค่ว่าจะไม่หยุดงาน ไหนจะค่าไปหาหมอ ไหนจะค่าคลอด คิดมากๆคิดจนร้องให้หนักมาก แต่หนูก็ไปทำงานทุกวันจนถึงวันคลอดเลยค่ะ  หนูได้ผ่าตลอดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ค่าใช้จ่ายหนูจ่ายเองหมด ถามแฟนเขาบอกว่าไม่มี หนูจุ๊กอกทุกครั้งที่ถามเรื่องเงินหนูเหนื่อยมากกับเรื่องนี้ จนกระทั้งออกจากโรงบาลกับมาอยู่ห้องเพราะต้องเลี้ยงลูกกันเองสองคนพ่อแม่ของแฟนอยู่ ตจว มาไม่ได้ค่ะ  พี่สาวของหนูมาอยู่ดว้ยประมาณ10วัน ก็กลับไป ตอนนั้นหนูไม่ได้ทำงาน ที่ร้านที่หนูทำงานก็ไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้ ที่หนูลาคลอด หนูให้แฟนไปสมัครกางานทำหลายที่จนได้ที่หนึ่งค่ะ ทำมาสักพักก็บ่นว่าเงินเดือนน้อยเปลี่ยนไปที่ใหม่ ก็บอกว่าเพื่อนร่วมงานไม่โอเคเลย หาที่ใหม่อีกได้หนูพยายามบอกทุกวิธีทางไม่อยากให้ย้ายให้อดทนเอา  จนอายุลูกจะเข้า1เดือนหนูเริ่มรับจ็อบงานบางวันเผือลูก เลี้ยงลูกเองเข้าเดือนที่สอง  หนูเองเริ่มอยากหางานเสริมทำช่วยกันกับแฟน จำเป็นต้องเอาลูกไปฝากเนอสเซอรี่ แต่ไม่เกิน3ชม ไม่ไหวเป็นห่วงลูกมากๆ เปลี่ยนความคิดใหม่ให้แม่แฟนมาที่ กทม ก็มาไม่ได้  ไม่เป็นไหร่  จากนั้นหนูก็หาเวลาไปทำงานตอนแฟนเลิกงานสลับกัน เลี้ยงลูก ลูกกินนมแม่ปั้มไว้อยู่แล้วค่ะ  แต่หนูโดนโทรจิ๊กทุกครั้งที่ทำงานอยู่ค่ะ  เรามาคุยกับใหม่หลายครั้งเรื่องลูก  จนสุดท้ายจำเป็นต้องเอาลูกกลับไปอยู่ ตจว เพราะไม่งั้นแฟนทำงานรับภาระไม่ไหว   หลังจากที่หนูคิดลังเลใจ ทำใจร้องให้ทุกครั้งที่มองหน้าลูก หนูอยากเลี้ยงเขาเองค่ะ แต่หนูจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดค่ะ ลูกหนูได้4เดือนกว่าเอากลับบ้านแฟน หลังจากนั้นหนูเลยคิดว่าหนูจะไม่กลับไปทำงานที่เดิมแล้ว หนูจะเปิดทำร้านเอง ก็คุยปรึกษาแฟน ซึ่งได้คำตอบมาว่าไม่มีเงิน ทั้งทั้งที่หนูยังไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินเลยค่ะ พูดต่ออีกว่าถ้าทำไปแล้วโควิดมาอีกละไม่กลัวเหรอ  มันมีหลายๆคำพูดมากที่บั่นทอนความรู้สึกหนู   หนูเปลี่ยนความคิดว่าหนูจะสู้ดว้ยตัวหนูเองคนเดียว หนูมีเงินเก็บกอ้นหนึ่ง หาดว้ยน้ำพักน้ำแรงหนูเอง กับทองที่แม่ให้มา1บาท  หนูเริ่มหาทำเลได้  หาช่างมาทำ ทำเสร็จเรียบร้อย  ทุกอย่างที่ทำแฟนไม่เคยสนใจเลยว่าต้องซื้อต้องทำอะไรบ้าง หนูท้อมากๆตอนนั้น  แต่คิดเสมอหนูต้องสู้เผื่อลูกค่ะ  จนถึงทุกวันนี้ก็พอไปได้  ตอนนี้ลูกก็ได้ขวบกว่า ทุกอย่างที่ซื้อให้ลูก เสื้อผ้า นม แพมเพิส อีกหลายๆอย่าง หนูต้องซื้อเอง ไปทำงาน ไม่ไปส่งเหมือนที่เคยคุย หนูก็คิดว่าไม่เป็นไร  จนกระทั้งมาขอเงินใช้หลายๆครั้ง เริ่มไม่ไหวเลยพูดไปทะเลาะกันทุกครั้ง หนูควรที่จะหยุดไหมคะแบบนี้  ทุกอย่างที่เป็นมา ทางบ้านหนูไม่ได้รับรู้เลย หนูกลัวที่บ้านจะไม่สบายใจเลยไม่อยากให้รับรู้ค่ะ   ทุกวันนี้หนูเหมือนคนไม่มีญาติพี่น้องให้ปรึกษาเลย แม้กระทั้งเพื่อนขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ🙏
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่