อ่านเถอะ..เรื่องจริง 😇ท่านที่เกิด 2490 - 2510
คือ คนรุ่นสุดท้ายที่เชื่อฟังพ่อแม่ และเป็นรุ่นแรกที่รับฟังลูกหลาน พวกเราคือคนรุ่น Limited Edition
หลานถามปู่ว่า สมัยปู่ใช้ชีวิตกันอย่างไรโดยที่
ไม่มีเทคโนโลยี
ไม่มีเครื่องบินพาณิชย์
ไม่มีอินเตอร์เน็ต
ไม่มีคอมพิวเตอร์
ไม่มีโรงหนัง
ไม่มีโทรทัศน์
ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
ไม่มีรถหรู
ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
คุณปู่ตอบหลานว่า “เราไม่ใช้ชีวิตอย่างคนรุ่นหลานที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้”
นั่นคือ
ไม่มีการสวดมนต์
ไม่มีน้ำใจให้กัน
ไม่มีการให้เกียรติกัน
ไม่มีมารยาท
ไม่รู้จักละอาย
ไม่นอบน้อมถ่อมตน
คนรุ่นปู่ช่างโชคดี เพราะการใช้ชีวิตของพวกเราคือของจริงที่พิสูจน์ได้
เราขี่จักรยานกันโดยไม่สวมหมวกกันน็อก
หลังเลิกเรียนเราเล่นกันจนค่ำมืดโดยไม่เคยดูโทรทัศน์
เราเล่นกับเพื่อนตัวเป็น ๆ ไม่ใช่เพื่อนทางอินเตอร์เน็ต
เรากระหายน้ำ เราก็ดื่มน้ำจากก๊อกไม่ใช่น้ำบรรจุขวด
เราไม่เคยป่วย แม้เราจะดื่มน้ำร่วมแก้วเดียวกับเพื่อน ถึงสี่คน
เรากินข้าวเป็นจาน ๆ ทุกวันโดยไม่มีปัญหาเรื่องอ้วน
เท้าเราไม่มีปัญหาอะไร แม้จะเดินด้วยเท้าเปล่า
เราไม่เคยกินอาหารเสริมเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
เราประดิษฐ์ของเล่นเอามาเล่นเอง
พ่อแม่เราไม่ร่ำรวย ท่านจึงให้เราได้แต่ความรัก ไม่ใช่วัตถุ
เราไม่เคยมีมือถือเครื่องเล่น DVD วิดีโอเกมส์ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต เรามีแต่เพื่อนที่มีตัวตน
เราไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้านโดยไม่ต้องนัดหมาย แล้วเราก็หาอะไรกินกันอย่างสนุกสนาน
ญาติพี่น้องอยู่ใกล้ชิดกัน เราจึงมีเวลาให้กันมาก
ภาพถ่ายเราอาจเป็นขาวดำ แต่ความทรงจำของมันช่างหลากสีสัน
คนรุ่นเรามีเอกลักษณ์ และเข้าใจกันเพราะเราเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่เชื่อฟังพ่อแม่ และเป็นคนรุ่นแรกที่รับฟังลูกหลาน
พวกเรา คือ คนรุ่น Limited Edition จงสนุกไปกับเรื่องราวของเรา เรียนรู้จากเรา และ เก็บเราไว้เป็นสมบัติอันทรงคุณค่าตลอดไป
...............
ใครเขียนไม่รู้
ชอบมากขอบคุณ
และหากคุณเป็นรุ่นเดียวกับเรา ส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้อ่านด้วยนะคะ..💕
คนหลงยุค
คือ คนรุ่นสุดท้ายที่เชื่อฟังพ่อแม่ และเป็นรุ่นแรกที่รับฟังลูกหลาน พวกเราคือคนรุ่น Limited Edition
หลานถามปู่ว่า สมัยปู่ใช้ชีวิตกันอย่างไรโดยที่
ไม่มีเทคโนโลยี
ไม่มีเครื่องบินพาณิชย์
ไม่มีอินเตอร์เน็ต
ไม่มีคอมพิวเตอร์
ไม่มีโรงหนัง
ไม่มีโทรทัศน์
ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
ไม่มีรถหรู
ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
คุณปู่ตอบหลานว่า “เราไม่ใช้ชีวิตอย่างคนรุ่นหลานที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้”
นั่นคือ
ไม่มีการสวดมนต์
ไม่มีน้ำใจให้กัน
ไม่มีการให้เกียรติกัน
ไม่มีมารยาท
ไม่รู้จักละอาย
ไม่นอบน้อมถ่อมตน
คนรุ่นปู่ช่างโชคดี เพราะการใช้ชีวิตของพวกเราคือของจริงที่พิสูจน์ได้
เราขี่จักรยานกันโดยไม่สวมหมวกกันน็อก
หลังเลิกเรียนเราเล่นกันจนค่ำมืดโดยไม่เคยดูโทรทัศน์
เราเล่นกับเพื่อนตัวเป็น ๆ ไม่ใช่เพื่อนทางอินเตอร์เน็ต
เรากระหายน้ำ เราก็ดื่มน้ำจากก๊อกไม่ใช่น้ำบรรจุขวด
เราไม่เคยป่วย แม้เราจะดื่มน้ำร่วมแก้วเดียวกับเพื่อน ถึงสี่คน
เรากินข้าวเป็นจาน ๆ ทุกวันโดยไม่มีปัญหาเรื่องอ้วน
เท้าเราไม่มีปัญหาอะไร แม้จะเดินด้วยเท้าเปล่า
เราไม่เคยกินอาหารเสริมเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง
เราประดิษฐ์ของเล่นเอามาเล่นเอง
พ่อแม่เราไม่ร่ำรวย ท่านจึงให้เราได้แต่ความรัก ไม่ใช่วัตถุ
เราไม่เคยมีมือถือเครื่องเล่น DVD วิดีโอเกมส์ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต เรามีแต่เพื่อนที่มีตัวตน
เราไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้านโดยไม่ต้องนัดหมาย แล้วเราก็หาอะไรกินกันอย่างสนุกสนาน
ญาติพี่น้องอยู่ใกล้ชิดกัน เราจึงมีเวลาให้กันมาก
ภาพถ่ายเราอาจเป็นขาวดำ แต่ความทรงจำของมันช่างหลากสีสัน
คนรุ่นเรามีเอกลักษณ์ และเข้าใจกันเพราะเราเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่เชื่อฟังพ่อแม่ และเป็นคนรุ่นแรกที่รับฟังลูกหลาน
พวกเรา คือ คนรุ่น Limited Edition จงสนุกไปกับเรื่องราวของเรา เรียนรู้จากเรา และ เก็บเราไว้เป็นสมบัติอันทรงคุณค่าตลอดไป
...............
ใครเขียนไม่รู้
ชอบมากขอบคุณ
และหากคุณเป็นรุ่นเดียวกับเรา ส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้อ่านด้วยนะคะ..💕