นี่เป็นครั้งแรกที่ลงรีวิว หากผิดพลาดอะไรขอโทษไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ ไม่เคยคิดจะพิมพ์อะไรยาวๆ แต่ที่ตั้งใจในครั้งนี้คืออยากให้คนที่คิดจะพักที่พักที่เราจองนี้ได้รู้ล่วงหน้าว่าจะเจอกับอะไร ไม่ต้องมาเป็นเหมือนเรา เพราะก่อนจะจองเราพยายามหารีวิวทุกที่ ไม่เคยมีใครเขียนไว้เลย
เริ่มเลยนะคะ เนื่องจากตรุษจีนนี้เราจะพาลูกไปโคราช ไปหาอากงอาม่าบ้านสามี เลยคิดจะหาที่พักเขาใหญ่นอนเปลี่ยนบรรยากาศซักคืน ทันทีที่คุยกับแฟนเรื่องนี้ คืนนั้นโฆษณา The X10 เด้งขึ้นมาในเฟสเรา ลองเข้าไปดู ที่พักแปลกตา และสวยงามน่าไปมาก ที่ชอบมากคือ zone Glamp Kหรือโดมดูดาว เป็น Bubble ใส 2 ลูกติดกัน ด้วยความที่ลูกชาย4 ขวบครึ่ง ชอบดวงดาวและอวกาศมากในช่วงนี้ เราเลยทักไปถาม เจ้าหน้าที่ตอบรายละเอียดที่พักมาเป็นชุดใหญ่ หลายๆแบบจนเต็มหน้าเลยอ่านจนงง แต่เราตั้งใจว่าจะให้ลูกชายดีใจสุดๆกับการนอนในโดมใส นอนบนเตี้ยงนุ่มๆ เงยหน้าดูท้องฟ้าจนหลับไปเลย เค้าคงประทับใจมาก
เราตกลงจองทันทีในราคา 4590 บาท โอนเต็มจำนวน
เตรียมใจสร้างประสบการณ์แปลกใหม่แสนประทับใจให้กับลูกน้อยของเรา
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ เราเดินทางจากบ้านแฟนที่โคราช แวะทานข้าว ก่อนเข้าที่พักตอนประมาณ 19.00 น ( แชทแจ้ง จนท.ไว้แล้ว) เราก็เช็คอินที่ล็อบบี้ จนท.ให้ถ่าย กฏการเข้าพัก ประมาณว่าสั่งอาหารยังไง กี่โมงถึงกี่โมง ติดต่อ จนท.ยังไง มอบกุญแจ และให้ขับตามรถกอล์ฟไปที่จอดรถ แล้วขึ้นรถกอล์ฟไปตามทางแคบๆ จนถึงบ้านพัก ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราได้เจอ แบบที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้มาก่อนเลย...
1.จนท. แจ้งว่า ด้านในเป็นบ้านเป่าลม กรุณาปิดประตูบานหน้าที่เข้าไปให้สนิท ก่อนเปิดซิปรูดเข้าด้านในลูกบับเบิ้ล เพราะเดี๋ยวลมจะออก แล้วบ้านจะยุบได้ --งงแล้ว1
2. พวกเราต้องยืนอัดกัน 4 คน(มีพี่เลี้ยงด้วย) ในที่แคบๆหลังประตูปิดลง แล้วพยายามรูดซิปประตูทางเข้า (ลักษณะคือประตูทางเข้าเป็นซิปทั้งหมด รูดเท่าที่พอจะเปิดมุดเข้าไปพอดีๆ)สิ่งที่เห็นคือ เก้าอี้ยาว 1 ตัว กระจกแต่งตัวยาวๆ 1บาน กับกล้องดูดาว ซึ่งมองไปไม่เห็นอะไรบนฟ้าเลย เพราะโดนผ้าใบขึงกางปิดด้านบนทั้งหมด ประกอบกับ ลูกบอลที่ควรจะใส ก็ไม่ได้ใสอย่างที่คิดไว้เลย จุดนี้คือบับเบิ้ลลูกกลาง ระหว่างบับเบิ้ล2 ลูกซ้าย/ขวา
3. เรารูดประตูซิปเข้าไปในบับเบิ้ลส่วนที่เป็นห้องนอน โอ้ว เซอร์ไพรซ์มาก มืดตึบ ไม่เห็นอะไรเลย จนแฟนต้องเอามือถือมาเปิดไฟฉายส่อง จนเจอว่ามีปลั๊กอยู่ที่พื้น หัวเตียง แฟนเสียบปลั๊ก ไฟถึงจะเปิด เห็นเตียงใหญ่อยู่กึ่งกลาง ปลายเตียงมีทีวี หัวเตียงมีโต๊ะวางไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน และไดร์เป่าผม เสียงลมดังอื้ออึงอยู่ตลอดเวลา จนหูอื้อ คุยแล้วได้ยินเสียงตัวเองในหูเป็นเสียงก้องๆ แอร์1 ตัวหัวเตียงก็ทำงานเสียงดังแข่งกันกับเสียงลมที่ดูดเข้ามา
4.ลองหาทางออกประตูข้าง เพื่อไปสำรวจห้องน้ำด้านนอก เผอิญเราไม่ทันคิด ลืมรูดซิปปิดสนิท พอเปิดประตู บับเบิ้ลยวบลงทันทีเพราะลมออก ลูกชายร้องเสียงดัง เพราะตกใจ กลัวลูกบอลพังลงมาทับตัวตามประสาเด็ก เรารีบขอโทษเค้า พอรูดซิป(อันแสนจะแข็ง) สนิท ลมที่ดูดเข้ามาก็ทำให้บับเบิ้ลป่องตามเดิม
5. ห้องน้ำด้านนอก แบบแสตนด์อโลน ด้านในเรียบง่ายมาก มีแสตนด์ที่เป็นอ่างล้างหน้าแปรงฟัน 1 แท่ง ขอใช้คำว่าแท่ง เพราะโดดเดี่ยวมาก ไม่มีที่วางของอะไรเลยแม้แต่แปรงสีฟันก็วางไม่ได้ คิดถึงสภาพเหมือนสมัยก่อน ที่ตามทางสาธารณะ จะมีที่เอาเท้าเหยียบแล้วน้ำพุ่งมาให้อ้าปากกินได้แบบนั้นล่ะค่ะ สรุปคือถ้าจะวางของใช้ส่วนตัว แปรง/ยาสีฟัน /ตลับคอนแทค แก้วน้ำบ้วนปาก ฯลฯ ต้องปิดฝาชักโครก เพื่อใช้เป็นที่วางของ 😭 หันไปข้างฝา มีที่แขวนให้ 2 หมุด แขวนผ้าเช็ดตัว กับ ชุดชั้นในไว้ ส่วนเสื้อผ้าทั้งหมดที่ถอดออก ก็ต้องอาศัยฝาชักโครกเอนกประสงค์อีกล่ะค่ะ ถ้าไม่อยากทิ้งไว้กับพื้น ..แง อึดอัดใจมาก
6.ฝักบัวที่น้ำไหลแสนจะเอื่อย ทำใจว่าอาจเป็นนโยบายรีสอร์ท ประหยัดน้ำช่วยชาติ อากาศเริ่มหนาว แต่ต้องมายืนอาบนานกว่าปกติ เพราะน้ำน้อยมาก กว่าจะล้างสบู่หมด ลูกจามไป2ที
7.อาบน้ำเสร็จ เดินย่ำบนหินกรวดเข้าโดม ต้องคอยระวังมากเพราะถ้าหินหรือทรายเข้าเท้า เราต้องเดินกลับไปล้างเท้าใหม่ที่ห้องน้ำอีก
8.ที่พักประเภทนี้ เหมาะกับคนมีโปรมือถือแบบโทรฟรี เพราะต้องการแจ้งเหตุอะไร หรือติดต่อ จนท. ทางแชทจะตอบด่วนไม่ได้ ถ้าด่วนต้องโทรไปเท่านั้น ข้อดีคือจนท.แอคทีพมาก คุยดี ใจเย็น อย่างตอนแฟนเสียบปลั๊กโดมอีกหลัง ไฟช้อต ดับพรึบ ลูกโป่งยุบ (ลูกกรี๊ด) เราต้องหลบมาอยู่หลังที่มีไฟ แล้วโทรตามจนท.ให้เรียกช่างมาซ่อม ซึ่งก็รอไม่นานค่ะ
9. ข้างเตียงฝั่งประตูมีท่อลมที่ดูดอากาศมาพยุงบับเบิ้ลไว้ตลอดเวลา ยิ่งดึก ลมยิ่งเย็นจนหนาว ท่อนี้ส่องบริเวณศีรษะคนนอนฝั่งนั้นพอดีเป๊ะค่ะ ไข้จับแน่ถ้านอนทั้งคืน แฟนต้องลากโต๊ะหัวเตียง ขนาดประมาณ 40x40ซม ที่มี 1 ตัว มาบังลมไว้
10.ด้วยความอยากปลอบใจลูกชายที่เสียขวัญเพราะโดมยุบไป 2รอบ เลยชวนดูสมาร์ททีวีค่ะ พยายามเปิดหาช่อง โห เวิร์คมาก มี Hotstar มี Netflix มี iQiyiฯลฯ มากมายเลย แต่ขอโทษค่ะ ดูไม่ได้เลย พอโทรถาม จนท.บอกต้องเอาแอคเค้าท์ที่เรามีเองมาเข้านะคะ มีแต่แอปให้ค่ะ จบที่ช่อง 3-5-7-9- ช่องone ผลคือ ทุกช่องเปิดไป มีcountdown 300วินาทีค่ะ เวลาหมดคือต้องกดหาดูใหม่ (ถึงตอนนี้เริ่มอนาถใจ สงสารลูกมากๆๆๆ ที่เราพาเค้ามาเจออะไรแบบนี้)
11.คนนอกสามารถเปิดประตูหน้าเดินเข้ามาถึงตัวโดมได้เลย ตัวล็อคคือคนนอกเอื้อมมือมาเปิดได้ ตอนเราโทรสั่งน้ำคือพนักงานเปิดเข้ามาเองมายืนหน้าห้องเลย จริงๆไม่ควรเข้ามา แต่เข้าใจว่าเค้าคงยืนรอแล้วเรียกเราไม่ได้ยิน เพราะไม่มีกริ่งหรืออะไรที่จะสื่อสารกันได้เลยนอกจากโทรศัพท์
12.พยายามชวนลูกนอน มองบนฟ้าผ่านบับเบิ้ลขุ่นๆ ไม่เห็นอะไรนอกจากหลังคาผ้าใบกันฝนที่กางปิดไว้(เพื่อ?) อากาศ5 ทุ่มเริ่มหนาวมากขึ้น ลมที่สูบเข้ามาพัดจนหูอื้อไปหมด ลูกเริ่มสั่นเพราะความหนาว และไอไม่หยุด ประกอบกับไม่สามารถปิดไฟที่ส่องสว่างที่หัวเตียงได้เพราะถ้าถอดปลั๊ก คือดับสนิท ลูกจะยิ่งกลัวไปใหญ่ สรุปคือ ไฟมีแค่เปิดหมด หรือปิดหมดเท่านั้น แสบตามากจนนอนไม่หลับซักคน ลูกง่วงแต่ก็นอนไม่หลับ เพราะเค้ากลัวโดมจะยุบด้วย หนาวด้วย แสบตาด้วย
23.15น โดยประมาณ พอกันที แฟนเราชวนเช็คเอ้าท์ จะกลับกรุงเทพฯ เลย เราค้าน เพราะเค้าสายตาไม่ค่อยดี ขับกลางคืนกลัวอันตราย เราเลยจองโรงแรมอื่นในเขาใหญ่แทน แล้วโทรเรียก จนท.ส่งรถกอล์ฟมารับ จนท.บอกเงินประกัน 2000 จะโอนคืนให้หลังเช็คความเรียบร้อย ในวันที่ 12 กพ พวกเราขับรถไปเช็คอินโรงแรมใหม่ ฟร้อนท์ก็งงๆ เช็คอินกัน 23.50 น (คงคิดว่าหนีผีมา กลางดึก ใส่ชุดนอนกันมาทั้งแก๊งค์เลย)
ปล.ณ ตอนนี้ 23.00 น ของวันที่ 12 กพ ยังไม่ได้รับเงินโอนคืนค่ามัดจำเลยนะคะ ทักไปไม่มีแอดมินตอบเลยด้วยค่ะ
ปสก.ครั้งนี้ เป็นบทเรียน เราต้องรอบคอบกว่านี้ ถ้าเจอที่พักแปลกๆใหม่ๆ ต้องถามรายละเอียดก่อนตัดสินใจ
คงจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าตอนเช็คอิน จนท.จะบรีฟสั้นๆ ถึงสิ่งที่เราต้องเจอ ไม่ปล่อยให้เราต้องเผชิญกับความเซอไพรซ์ไม่รู้จบแบบนี้ เจออะไรที ก็โทรที คืนนั้น 2 ชม. เรากับแฟนโทรไป 7-8รอบ เหมือนเด็กงอแงเซ้าซี้ถามจุกถามจิกทุกอย่าง แต่ จนท.ตอบดีทุกครั้งนะคะ แต่เราเกรงใจจนไม่อยากจะโทรตอนมีเรื่องทีวี countdownอ่ะ งงมาก หรือเราโง่เองกดไม่เป็น
สรุปกลับจากเขาใหญ่ เราต้องพาลูกไป รพ.ค่ะ หมอบอกจมูกอักเสบ หวัดลงคอ โดนค่ายาไปเกือบ 7 พัน สงสารลูก สงสารตัวเอง เสียเงินซ้ำซ้อน โรงแรมใหม่นี่หมดไป8พันกว่า เข้าพักเที่ยงคืน เช็คเอ้าท์ 11.00 น แบบมานอนเล่นขำๆเลย 😭
ปล.อีกทีค่ะ ไม่ได้ต้องการจะdiscredit รีสอร์ทนี้นะคะ ที่พักประเภทอื่นๆ ดูแขกเฮฮาปาร์ตี้กันดีค่ะ เราแค่อยากจะแชร์ในส่วนของ โดมดูดาวที่เราจอง ประเภทGlamp K เท่านั้นนะคะ
รีวิวที่พัก ที่The X10 Private Pool Villa เขาใหญ่
เริ่มเลยนะคะ เนื่องจากตรุษจีนนี้เราจะพาลูกไปโคราช ไปหาอากงอาม่าบ้านสามี เลยคิดจะหาที่พักเขาใหญ่นอนเปลี่ยนบรรยากาศซักคืน ทันทีที่คุยกับแฟนเรื่องนี้ คืนนั้นโฆษณา The X10 เด้งขึ้นมาในเฟสเรา ลองเข้าไปดู ที่พักแปลกตา และสวยงามน่าไปมาก ที่ชอบมากคือ zone Glamp Kหรือโดมดูดาว เป็น Bubble ใส 2 ลูกติดกัน ด้วยความที่ลูกชาย4 ขวบครึ่ง ชอบดวงดาวและอวกาศมากในช่วงนี้ เราเลยทักไปถาม เจ้าหน้าที่ตอบรายละเอียดที่พักมาเป็นชุดใหญ่ หลายๆแบบจนเต็มหน้าเลยอ่านจนงง แต่เราตั้งใจว่าจะให้ลูกชายดีใจสุดๆกับการนอนในโดมใส นอนบนเตี้ยงนุ่มๆ เงยหน้าดูท้องฟ้าจนหลับไปเลย เค้าคงประทับใจมาก
เราตกลงจองทันทีในราคา 4590 บาท โอนเต็มจำนวน
เตรียมใจสร้างประสบการณ์แปลกใหม่แสนประทับใจให้กับลูกน้อยของเรา
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ เราเดินทางจากบ้านแฟนที่โคราช แวะทานข้าว ก่อนเข้าที่พักตอนประมาณ 19.00 น ( แชทแจ้ง จนท.ไว้แล้ว) เราก็เช็คอินที่ล็อบบี้ จนท.ให้ถ่าย กฏการเข้าพัก ประมาณว่าสั่งอาหารยังไง กี่โมงถึงกี่โมง ติดต่อ จนท.ยังไง มอบกุญแจ และให้ขับตามรถกอล์ฟไปที่จอดรถ แล้วขึ้นรถกอล์ฟไปตามทางแคบๆ จนถึงบ้านพัก ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราได้เจอ แบบที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้มาก่อนเลย...
1.จนท. แจ้งว่า ด้านในเป็นบ้านเป่าลม กรุณาปิดประตูบานหน้าที่เข้าไปให้สนิท ก่อนเปิดซิปรูดเข้าด้านในลูกบับเบิ้ล เพราะเดี๋ยวลมจะออก แล้วบ้านจะยุบได้ --งงแล้ว1
2. พวกเราต้องยืนอัดกัน 4 คน(มีพี่เลี้ยงด้วย) ในที่แคบๆหลังประตูปิดลง แล้วพยายามรูดซิปประตูทางเข้า (ลักษณะคือประตูทางเข้าเป็นซิปทั้งหมด รูดเท่าที่พอจะเปิดมุดเข้าไปพอดีๆ)สิ่งที่เห็นคือ เก้าอี้ยาว 1 ตัว กระจกแต่งตัวยาวๆ 1บาน กับกล้องดูดาว ซึ่งมองไปไม่เห็นอะไรบนฟ้าเลย เพราะโดนผ้าใบขึงกางปิดด้านบนทั้งหมด ประกอบกับ ลูกบอลที่ควรจะใส ก็ไม่ได้ใสอย่างที่คิดไว้เลย จุดนี้คือบับเบิ้ลลูกกลาง ระหว่างบับเบิ้ล2 ลูกซ้าย/ขวา
3. เรารูดประตูซิปเข้าไปในบับเบิ้ลส่วนที่เป็นห้องนอน โอ้ว เซอร์ไพรซ์มาก มืดตึบ ไม่เห็นอะไรเลย จนแฟนต้องเอามือถือมาเปิดไฟฉายส่อง จนเจอว่ามีปลั๊กอยู่ที่พื้น หัวเตียง แฟนเสียบปลั๊ก ไฟถึงจะเปิด เห็นเตียงใหญ่อยู่กึ่งกลาง ปลายเตียงมีทีวี หัวเตียงมีโต๊ะวางไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน และไดร์เป่าผม เสียงลมดังอื้ออึงอยู่ตลอดเวลา จนหูอื้อ คุยแล้วได้ยินเสียงตัวเองในหูเป็นเสียงก้องๆ แอร์1 ตัวหัวเตียงก็ทำงานเสียงดังแข่งกันกับเสียงลมที่ดูดเข้ามา
4.ลองหาทางออกประตูข้าง เพื่อไปสำรวจห้องน้ำด้านนอก เผอิญเราไม่ทันคิด ลืมรูดซิปปิดสนิท พอเปิดประตู บับเบิ้ลยวบลงทันทีเพราะลมออก ลูกชายร้องเสียงดัง เพราะตกใจ กลัวลูกบอลพังลงมาทับตัวตามประสาเด็ก เรารีบขอโทษเค้า พอรูดซิป(อันแสนจะแข็ง) สนิท ลมที่ดูดเข้ามาก็ทำให้บับเบิ้ลป่องตามเดิม
5. ห้องน้ำด้านนอก แบบแสตนด์อโลน ด้านในเรียบง่ายมาก มีแสตนด์ที่เป็นอ่างล้างหน้าแปรงฟัน 1 แท่ง ขอใช้คำว่าแท่ง เพราะโดดเดี่ยวมาก ไม่มีที่วางของอะไรเลยแม้แต่แปรงสีฟันก็วางไม่ได้ คิดถึงสภาพเหมือนสมัยก่อน ที่ตามทางสาธารณะ จะมีที่เอาเท้าเหยียบแล้วน้ำพุ่งมาให้อ้าปากกินได้แบบนั้นล่ะค่ะ สรุปคือถ้าจะวางของใช้ส่วนตัว แปรง/ยาสีฟัน /ตลับคอนแทค แก้วน้ำบ้วนปาก ฯลฯ ต้องปิดฝาชักโครก เพื่อใช้เป็นที่วางของ 😭 หันไปข้างฝา มีที่แขวนให้ 2 หมุด แขวนผ้าเช็ดตัว กับ ชุดชั้นในไว้ ส่วนเสื้อผ้าทั้งหมดที่ถอดออก ก็ต้องอาศัยฝาชักโครกเอนกประสงค์อีกล่ะค่ะ ถ้าไม่อยากทิ้งไว้กับพื้น ..แง อึดอัดใจมาก
6.ฝักบัวที่น้ำไหลแสนจะเอื่อย ทำใจว่าอาจเป็นนโยบายรีสอร์ท ประหยัดน้ำช่วยชาติ อากาศเริ่มหนาว แต่ต้องมายืนอาบนานกว่าปกติ เพราะน้ำน้อยมาก กว่าจะล้างสบู่หมด ลูกจามไป2ที
7.อาบน้ำเสร็จ เดินย่ำบนหินกรวดเข้าโดม ต้องคอยระวังมากเพราะถ้าหินหรือทรายเข้าเท้า เราต้องเดินกลับไปล้างเท้าใหม่ที่ห้องน้ำอีก
8.ที่พักประเภทนี้ เหมาะกับคนมีโปรมือถือแบบโทรฟรี เพราะต้องการแจ้งเหตุอะไร หรือติดต่อ จนท. ทางแชทจะตอบด่วนไม่ได้ ถ้าด่วนต้องโทรไปเท่านั้น ข้อดีคือจนท.แอคทีพมาก คุยดี ใจเย็น อย่างตอนแฟนเสียบปลั๊กโดมอีกหลัง ไฟช้อต ดับพรึบ ลูกโป่งยุบ (ลูกกรี๊ด) เราต้องหลบมาอยู่หลังที่มีไฟ แล้วโทรตามจนท.ให้เรียกช่างมาซ่อม ซึ่งก็รอไม่นานค่ะ
9. ข้างเตียงฝั่งประตูมีท่อลมที่ดูดอากาศมาพยุงบับเบิ้ลไว้ตลอดเวลา ยิ่งดึก ลมยิ่งเย็นจนหนาว ท่อนี้ส่องบริเวณศีรษะคนนอนฝั่งนั้นพอดีเป๊ะค่ะ ไข้จับแน่ถ้านอนทั้งคืน แฟนต้องลากโต๊ะหัวเตียง ขนาดประมาณ 40x40ซม ที่มี 1 ตัว มาบังลมไว้
10.ด้วยความอยากปลอบใจลูกชายที่เสียขวัญเพราะโดมยุบไป 2รอบ เลยชวนดูสมาร์ททีวีค่ะ พยายามเปิดหาช่อง โห เวิร์คมาก มี Hotstar มี Netflix มี iQiyiฯลฯ มากมายเลย แต่ขอโทษค่ะ ดูไม่ได้เลย พอโทรถาม จนท.บอกต้องเอาแอคเค้าท์ที่เรามีเองมาเข้านะคะ มีแต่แอปให้ค่ะ จบที่ช่อง 3-5-7-9- ช่องone ผลคือ ทุกช่องเปิดไป มีcountdown 300วินาทีค่ะ เวลาหมดคือต้องกดหาดูใหม่ (ถึงตอนนี้เริ่มอนาถใจ สงสารลูกมากๆๆๆ ที่เราพาเค้ามาเจออะไรแบบนี้)
11.คนนอกสามารถเปิดประตูหน้าเดินเข้ามาถึงตัวโดมได้เลย ตัวล็อคคือคนนอกเอื้อมมือมาเปิดได้ ตอนเราโทรสั่งน้ำคือพนักงานเปิดเข้ามาเองมายืนหน้าห้องเลย จริงๆไม่ควรเข้ามา แต่เข้าใจว่าเค้าคงยืนรอแล้วเรียกเราไม่ได้ยิน เพราะไม่มีกริ่งหรืออะไรที่จะสื่อสารกันได้เลยนอกจากโทรศัพท์
12.พยายามชวนลูกนอน มองบนฟ้าผ่านบับเบิ้ลขุ่นๆ ไม่เห็นอะไรนอกจากหลังคาผ้าใบกันฝนที่กางปิดไว้(เพื่อ?) อากาศ5 ทุ่มเริ่มหนาวมากขึ้น ลมที่สูบเข้ามาพัดจนหูอื้อไปหมด ลูกเริ่มสั่นเพราะความหนาว และไอไม่หยุด ประกอบกับไม่สามารถปิดไฟที่ส่องสว่างที่หัวเตียงได้เพราะถ้าถอดปลั๊ก คือดับสนิท ลูกจะยิ่งกลัวไปใหญ่ สรุปคือ ไฟมีแค่เปิดหมด หรือปิดหมดเท่านั้น แสบตามากจนนอนไม่หลับซักคน ลูกง่วงแต่ก็นอนไม่หลับ เพราะเค้ากลัวโดมจะยุบด้วย หนาวด้วย แสบตาด้วย
23.15น โดยประมาณ พอกันที แฟนเราชวนเช็คเอ้าท์ จะกลับกรุงเทพฯ เลย เราค้าน เพราะเค้าสายตาไม่ค่อยดี ขับกลางคืนกลัวอันตราย เราเลยจองโรงแรมอื่นในเขาใหญ่แทน แล้วโทรเรียก จนท.ส่งรถกอล์ฟมารับ จนท.บอกเงินประกัน 2000 จะโอนคืนให้หลังเช็คความเรียบร้อย ในวันที่ 12 กพ พวกเราขับรถไปเช็คอินโรงแรมใหม่ ฟร้อนท์ก็งงๆ เช็คอินกัน 23.50 น (คงคิดว่าหนีผีมา กลางดึก ใส่ชุดนอนกันมาทั้งแก๊งค์เลย)
ปล.ณ ตอนนี้ 23.00 น ของวันที่ 12 กพ ยังไม่ได้รับเงินโอนคืนค่ามัดจำเลยนะคะ ทักไปไม่มีแอดมินตอบเลยด้วยค่ะ
ปสก.ครั้งนี้ เป็นบทเรียน เราต้องรอบคอบกว่านี้ ถ้าเจอที่พักแปลกๆใหม่ๆ ต้องถามรายละเอียดก่อนตัดสินใจ
คงจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้าตอนเช็คอิน จนท.จะบรีฟสั้นๆ ถึงสิ่งที่เราต้องเจอ ไม่ปล่อยให้เราต้องเผชิญกับความเซอไพรซ์ไม่รู้จบแบบนี้ เจออะไรที ก็โทรที คืนนั้น 2 ชม. เรากับแฟนโทรไป 7-8รอบ เหมือนเด็กงอแงเซ้าซี้ถามจุกถามจิกทุกอย่าง แต่ จนท.ตอบดีทุกครั้งนะคะ แต่เราเกรงใจจนไม่อยากจะโทรตอนมีเรื่องทีวี countdownอ่ะ งงมาก หรือเราโง่เองกดไม่เป็น
สรุปกลับจากเขาใหญ่ เราต้องพาลูกไป รพ.ค่ะ หมอบอกจมูกอักเสบ หวัดลงคอ โดนค่ายาไปเกือบ 7 พัน สงสารลูก สงสารตัวเอง เสียเงินซ้ำซ้อน โรงแรมใหม่นี่หมดไป8พันกว่า เข้าพักเที่ยงคืน เช็คเอ้าท์ 11.00 น แบบมานอนเล่นขำๆเลย 😭
ปล.อีกทีค่ะ ไม่ได้ต้องการจะdiscredit รีสอร์ทนี้นะคะ ที่พักประเภทอื่นๆ ดูแขกเฮฮาปาร์ตี้กันดีค่ะ เราแค่อยากจะแชร์ในส่วนของ โดมดูดาวที่เราจอง ประเภทGlamp K เท่านั้นนะคะ