วาระภาพในตอนนี้ยังชัดเจน จึงอยากจะแชร์เรื่องนี้ให้กันนะครับ
เมื่อเดือน พ.ย. 2023
ผมรับรู้เรื่องที่ช๊อคมากที่สุด คือแม่ผมเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย(ระยะที่4) โดยลามจากถุงน้ำดีไปยังลำไส้เล็ก และ ดับ
เนื่องจากลามเป็นก้อนใหญ่ที่ตับ ทำให้การผ่าตัดเอาออกไม่สามารถทำได้ ส่งผลให้ลำไส้ อุดตัน ที่ 50% และจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ทำให้ทานอาหารได้เพียงแค่อาหารอ่อน และของเหลวเท่านั้น โดยหมอประเมิณว่าจะมีเวลาอยู่อีก 1-2 เดือนเท่านั้น
และทุกๆคนก็พยายามหาข้อมูล วิตกกังวล ร้องไห้ สับสน เรียกได้ว่าปนกันมั่วไปหมด แต่พอตั้งสติกันได้ ก็ได้ข้อสรุปว่า
ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เราควรทำให้แม่มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า เพราะว่าท่านก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รับการรักษาใดๆทั้งสิ้น
และลูกทุกๆคนก็เคารพการตัดสินใจของท่าน
สิ่งที่ทำได้คือ ทำยังไงก็ได้เพื่อให้ท่านใช้ชีวิตให้เหลือได้มีความสุขที่สุด โดยไปขอยาแก้ปวด และ มอร์ฟีน เพื่อลดอาการเจ็บปวด
สิ่งหนึ่งที่ลูกได้รับรู้คือ แม่เป็นคนที่มีเป้าหมายชีวิตชัดเจนมากแม้วาระสุดท้าย ถึงแม้จะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว แต่ท่านก็ไม่แสดงท่าทีว่าเจ็บ หรือร้องออกมา
ในหนึ่งวันท่านจะ ตื่นขึ้นมาทำสิ่งที่ท่านพอทำได้ ถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ ระหว่างนอนหรือพักผ่อนท่านก็จะเปิดฟังธรรมะที่ท่านชอบ
สวดมนต์ นั่งสมาธิ ให้รับรู้ภาวะปัจจุบัน รับรู้ความเจ็บปวด รับรู้เสียงที่ฟัง รับรู้ลมที่ผ่านไปมา
ท่านพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มาที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่นเดินไปเข้าห้องน้ำเอง ลุกนั่งเอง ถึงแม้ช่วงหลังๆ จะไม่ไหวก็ตาม
สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่งดงามที่สุดในเรื่องนี้คือการจากไปอย่าง สงบที่เรียกได้เต็มปากว่าสงบจริงๆ คือช่วงสุดท้ายของท่าน
ท่านสามารถคงสติไว้ได้ และยังตอบโต้กับลูกหลานได้อีก ไม่นานก่อนที่จะกำหนดลมหายใจประมาณ 20 ครั้ง และหยุดหายใจไปโดยทิ้งเพียงแค่รอยยิ้มไว้เท่านั้น
ท่านได้จากไปตั้งแต่วันที่ 02/02/2024 เวลา 21.00 น
ถึงจะผ่านมาหลายวันหลังจากจัดพิธีแล้ว แต่สื่งที่เหลือไว้ก็มีเพียง ความคิดถึง และ รอยยิ้มสุดท้ายที่ตรึงใจ
การจากไปของแม่ที่รักของลูกทุกคน
เมื่อเดือน พ.ย. 2023
ผมรับรู้เรื่องที่ช๊อคมากที่สุด คือแม่ผมเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย(ระยะที่4) โดยลามจากถุงน้ำดีไปยังลำไส้เล็ก และ ดับ
เนื่องจากลามเป็นก้อนใหญ่ที่ตับ ทำให้การผ่าตัดเอาออกไม่สามารถทำได้ ส่งผลให้ลำไส้ อุดตัน ที่ 50% และจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ทำให้ทานอาหารได้เพียงแค่อาหารอ่อน และของเหลวเท่านั้น โดยหมอประเมิณว่าจะมีเวลาอยู่อีก 1-2 เดือนเท่านั้น
และทุกๆคนก็พยายามหาข้อมูล วิตกกังวล ร้องไห้ สับสน เรียกได้ว่าปนกันมั่วไปหมด แต่พอตั้งสติกันได้ ก็ได้ข้อสรุปว่า
ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เราควรทำให้แม่มีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า เพราะว่าท่านก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รับการรักษาใดๆทั้งสิ้น
และลูกทุกๆคนก็เคารพการตัดสินใจของท่าน
สิ่งที่ทำได้คือ ทำยังไงก็ได้เพื่อให้ท่านใช้ชีวิตให้เหลือได้มีความสุขที่สุด โดยไปขอยาแก้ปวด และ มอร์ฟีน เพื่อลดอาการเจ็บปวด
สิ่งหนึ่งที่ลูกได้รับรู้คือ แม่เป็นคนที่มีเป้าหมายชีวิตชัดเจนมากแม้วาระสุดท้าย ถึงแม้จะเจ็บปวดจนทนไม่ไหว แต่ท่านก็ไม่แสดงท่าทีว่าเจ็บ หรือร้องออกมา
ในหนึ่งวันท่านจะ ตื่นขึ้นมาทำสิ่งที่ท่านพอทำได้ ถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ ระหว่างนอนหรือพักผ่อนท่านก็จะเปิดฟังธรรมะที่ท่านชอบ
สวดมนต์ นั่งสมาธิ ให้รับรู้ภาวะปัจจุบัน รับรู้ความเจ็บปวด รับรู้เสียงที่ฟัง รับรู้ลมที่ผ่านไปมา
ท่านพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มาที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่นเดินไปเข้าห้องน้ำเอง ลุกนั่งเอง ถึงแม้ช่วงหลังๆ จะไม่ไหวก็ตาม
สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่งดงามที่สุดในเรื่องนี้คือการจากไปอย่าง สงบที่เรียกได้เต็มปากว่าสงบจริงๆ คือช่วงสุดท้ายของท่าน
ท่านสามารถคงสติไว้ได้ และยังตอบโต้กับลูกหลานได้อีก ไม่นานก่อนที่จะกำหนดลมหายใจประมาณ 20 ครั้ง และหยุดหายใจไปโดยทิ้งเพียงแค่รอยยิ้มไว้เท่านั้น
ท่านได้จากไปตั้งแต่วันที่ 02/02/2024 เวลา 21.00 น
ถึงจะผ่านมาหลายวันหลังจากจัดพิธีแล้ว แต่สื่งที่เหลือไว้ก็มีเพียง ความคิดถึง และ รอยยิ้มสุดท้ายที่ตรึงใจ