JJNY : ตรุษจีน ร้านทองซบเซา│อดีตเลขาฯสมช.เตือนรัฐ│ลูกเกดฉะ ไม่ใช่หน้าที่สส. ชี้ถูก-ผิด│อิสราเอลช่วยตัวประกันได้ 2 คน

ตรุษจีน ร้านทองซบเซา ยอดขายลดฮวบ ปชช.ขาดกำลังซื้อ เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8092192

 
นครราชสีมา เทศกาลตรุษจีน ร้านทองซบเซา ยอดขายลดฮวบ ประชาชนขาดกำลังซื้อ จี้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ-สร้างรายได้ที่มั่นคง
12 ก.พ. 67 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจำหน่ายทองรูปพรรณ ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่บริเวณถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
 
พบว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา บรรยากาศการจำหน่ายทองรูปพรรณค่อนข้างซบเซา ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจและพฤติกรรมของประชาชนที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด และทองมีการปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่บาทละ 34,450 บาท
 
โดยปกติแล้วนั้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ จะซื้อทองให้เป็นของขวัญกับลูกหลาน แต่ปัจจุบันนี้ให้เป็นเงินสดแทน ลูกค้าที่มาซื้อทองส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่ได้เงินจากการทำการเกษตรและบรรดาสาวโรงงาน
 
นางมาลัย สรรสันทัด อายุ 62 ผู้จัดการร้านห้างทองเพชรสุวรรณ เปิดเผยว่า ในช่วงตรุษจีนนั้นยอดขายทองนั้นดีกว่าในช่วงวันปกติแต่ไม่มาก เพราะเศรษฐกิจแย่และทองมีราคาสูงขึ้น ทำให้ยอดขายปัจจุบันนี้เหลือเพียง 10% และลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนไทยซื้อ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เริ่มเป็นมาตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ที่มียอดขายลดลงเป็นอย่างมาก
 
นอกจากนี้ ช่วงเทศกาลตรุษจีน ประชาชนนิยมมาซื้อทองในช่วงปลายปี เนื่องจากจะซื้อทองไปใช้ในงานบวช งานแต่ง แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ยอดขายลดลงจาก 10 % เหลือเพียง 1 % เพียงเท่านั้น ตนจึงอยากฝากไปยังรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนนั้นมีกำลังซื้อกลับมาเหมือนเดิม



อดีตเลขาฯสมช. เตือนรัฐ ถ้าคนมองจนท. สอบไม่ผ่าน ป้องม็อบปะทะ ระวังจะถูกวิจารณ์ไปด้วย 
https://www.matichon.co.th/politics/news_4420117

อดีตเลขาฯสมช. เตือนรัฐ ถ้าคนมองจนท. สอบไม่ผ่าน ป้องม็อบปะทะ ระวังจะถูกวิจารณ์ไปด้วย 
 
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีเหตุการเผชิญหน้าทำร้ายกันระหว่างกลุ่มกิจกรรมทะลุวังกับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่บริเวณหน้าห้างสยามพารากอนและสถานีรถไฟฟ้า เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการปกป้องสถาบัน เป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในภาวะวิสัยที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยจะป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ เนื่องจากมีข่าวสารที่รับรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการจัดงานชุมนุมดังกล่าวขึ้น จึงสามารถจัดเตรียมมาตรการป้องกันระงับยับยั้งไว้รองรับสถานการณ์ได้
 
ขอย้ำถึงหลักการพื้นฐานง่ายๆในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ คือเมื่อใดที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและผลตอบรับคือการได้รับคำชมเชยยกย่องจากประชาชนว่า’ยุติธรรม เป็นธรรม’ นั่นคือการปกป้องสถาบันที่มีประสิทธิภาพแล้ว แต่จากปรากฏการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์การปะทะดังกล่าว เมื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนแล้ว แว่วว่าเจ้าหน้าที่รัฐสอบไม่ผ่านในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องสถาบันตามหลักพื้นฐานที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งก็หมายรวมความถึงความด้อยประสิทธิภาพของรัฐบาลเข้าไปด้วยกันนั่นเอง



ลูกเกด ฉะ ไม่ใช่หน้าที่สส. ชี้ถูก-ผิด ปมขบวนเสด็จ ต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ปชช.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8092202

“ลูกเกด ก้าวไกล” ฉะ ไม่ใช่หน้าที่ สส. ตัดสินถูก-ผิด ปม “ตะวัน” บีบแตรใส่ขบวนเสด็จ แต่ผู้แทนฯ ต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน
 
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2567 น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และกลุ่มทะลุวัง บีบแตรใส่ขบวนเสด็จ และเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่ม ศปปส. ระหว่างทำกิจกรรมทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ
 
โดย น.ส.ชลธิชา ระบุข้อความว่า จากกรณีการแสดงออกของ ตะวัน และกลุ่มทะลุวัง เรื่องขบวนเสด็จฯ ตามมาด้วยเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงทำร้ายนักกิจกรรมและสื่อมวลชนจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มคนปกป้องสถาบันฯ ในเวลาต่อมา
 
ไม่นานหลังเกิดเหตุการณ์ขบวนเสด็จขึ้น ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี นักการเมือง และ สส. จากหลากหลายพรรค ก็รีบออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิง ตำหนิ ตักเตือน แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกของประชาชนในทันที
 
ในสังคมที่ความขัดแย้งทางการเมืองฝังรากลึก ในสังคมที่เสรีภาพในการแสดงออกถูกคุกคามให้หดแคบลงทุกเมื่อเชื่อวัน ในสังคมที่ประชาชนถูกกดขี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนอำนาจต่อรองกับรัฐถูกจำกัด
 
หน้าที่ของผู้แทนราษฎร คือ การสร้างสมดุลทางอำนาจระหว่างประชาชนกับรัฐผ่านการตรวจสอบถ่วงดุล หน้าที่ของผู้แทนราษฎร คือ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยน แสดงออกซึ่งความคิดเห็น ได้ถกเถียง ได้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสันติ
 
หน้าที่ของผู้แทนราษฎร คือ การต่อต้าน การประฌาม และมีส่วนร่วมในการยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการคุกคามนักกิจกรรม ประชาชน และผู้ที่แสดงออกทางความคิดทุกคน
 
หน้าที่ของผู้แทนราษฎร มิใช่การพิพากษาตัดสิน ด่วนสรุป หรือชี้ถูกชี้ผิด ต่อวิธีการเคลื่อนไหวและการแสดงออกในประเด็นสาธารณะของประชาชนว่า มีลักษณะขาดวุฒิภาวะ ไม่เหมาะสม ไม่น่าพึงพอใจอย่างไร
 
ยิ่งไปกว่านั้น การจะแสดงความคิดเห็นว่าการกระทำใดอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายใดนั้น ต้องสามารถพิสูจน์อ้างอิงให้ได้ก่อนว่า การกระทำนั้นอาจผิดกฎหมายฉบับใด และผิดอย่างไรตามหลักองค์ประกอบของกฎหมาย
 
มิเช่นนั้นแล้ว การแสดงความเห็นเหล่านั้น ก็จะเป็นเพียงการดับเทียนไขให้บรรยากาศแห่งความกลัวในการแสดงออกทางความคิดของประชาชนยิ่งมืดดับขึ้นไปอีก หนำซ้ำยังเป็นการเปิดช่องและสร้างความชอบธรรมให้รัฐใช้กฎหมายเป็นนิติสงครามคุกคามประชาชนอยู่ร่ำไป

https://www.facebook.com/Lookkate.ch/posts/pfbid026mhr2dGhRLwc2KTkMpsMsxmkDVBDPbVUCxBcHbr1SK1pym25SBXDBZtk5wzoJToEl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่